นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 382

หากมิได้ทำชั่ว จักต้องหวาดกลัวไปไย !

คำพูดพวกนี้ แม้จะพูดออกมาอย่างง่ายดาย ทว่า หากได้ฟังจริง ๆ แล้วย่อมต้องรู้สึกได้ถึงอับอายอย่างแน่นอน อย่างน้อยซีหลิงเทียนเหล่ยก็ไม่อาจทำได้ เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับคำถามของเฟิ่งชิงเฉินเช่นนี้ ยามที่สบตาเข้ากับสายตาที่เต็มไปด้วยเย้ยหยันของเฟิ่งชิงเฉินนั้น ซีหลิงเทียนเหล่ยพลันเบือนหน้าหนีไปในทันที

ที่แท้ เรื่องก็เป็นเช่นนี้!

การกระทำของซีหลิงเทียนเหล่ยนั้น นับว่าเป็นการกระทำของตนเองทั้งสิ้น ภายในใจของทุกคนที่มองอยู่พลันรู้ดี แต่สิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจก็คือ" เพราะเหตุใดกัน? องค์รัชทายาทเหล่ยถึงได้ทำเช่นนี้ มีประโยชน์ต่อพระองค์งั้นหรือ?"

มิรู้ว่าเป็นผู้ใดที่กล่าวถามขึ้นมา มิรอให้เฟิ่งชิงเฉินได้พูดอันใด ก็พลันมีคนตอบแทนนางว่า "เรื่องเช่นนี้ ยังต้องคิดด้วยหรือ ผู้คนในใต้หล้าล้วนแต่รู้ดี ว่าองค์หญิงเหยาหวาหลงรักลั่วอ๋อง แต่คุณหนูเฟิ่งกลับเป็นอดีตคู่หมั้นของลั่วอ๋อง ยังต้องถามถึงเหตุผลอื่นอีกหรือ? นางย่อมต้องทำไปเพราะความรักอย่างไม่ต้องสงสัย เช่นนั้น คุณหนูเฟิ่งที่น่าสงสารถึงได้ถูกลากเข้ามาโยงในเรื่องนี้ด้วยอย่างไรเล่า " ประโยคสุดท้าย พลันทำให้คนรู้สึกสะเทือนอารมณ์ยิ่งนัก

"แต่ว่า องค์หญิงเหยาหวามิใช่ต้องแต่งให้ชุนอ๋องงั้นหรือ? นางหาได้แต่งให้ลั่วอ๋องไม่" เรื่องงานมงคลสมรสนี้ เป็นที่รู้โดยทั่วกัน

บุรุษร่างใหญ่หน้าดำผู้หนึ่ง ที่มีอายุอานามสามสิบกว่าปีพลันกล่าวออกมาด้วยความเย็นชา "ฟ้าย่อมมีตา ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว องค์หญิงเหยาหวาทำลายชื่อเสียงของคุณหนูเฟิ่งเช่นนั้น ตนเองกลับต้องมาโดนกระทำเสียเอง เพียงแค่ฐานะที่มาจากราชวงศ์ จึงต้องไว้หน้าเสียหน่อย มิเช่นนั้น องค์หญิงเหยาหวาจะยินยอมแต่งให้ชุนอ๋องไปได้อย่างไร"

"บังอาจ!" เมื่อซีหลิงเทียนเหล่ยหาคนระบายอารมณ์โกรธออกมาไม่ได้นั้น ก็พลันเห็นบุรุษหน้าดำกำลังพูดคุยเรื่องนี้อยู่พอดี เขาอยากจะสั่งประหารคนผู้นี้ยิ่งนัก แต่ทว่าที่นี่คือตงหลิง แม้ในใจจะรู้สึกไม่พอใจนัก แต่เขาก็ไม่มีอำนาจที่จะไปจัดการกับขุนนางในตงหลิงได้ ยามที่กำลังจะหันไปกล่าวกับฝ่าบาทนั้น ฝ่าบาทพลันชิงออกคำสั่งออกมาเสียก่อน "พวกเจ้า ไปนำตัวใต้เท้าเหยียนออกมาเสีย"

"ขอรับ"ยามที่องครักษ์พลันก้าวเข้าไปหา สีหน้าของใต้เท้าเหยียนพลันตกตะลึงไปในทันที แววตาที่หวาดกลัวเมื่อครู่ พลันสงบลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับหันไปกล่าวถ้อยคำดุด่าต่อซีหลิงเทียนเหล่ยว่า "ฮ่าฮ่าฮ่า สิ่งที่องค์รัชทายาทเหล่ยและองค์หญิงเหยาหวาได้กระทำลงไป ยังเกรงกลัวผู้คนพูดถึงงั้นหรือ? ท่านฆ่าปิดปากข้าในวันนี้ ท่านกล้าปิดปากผู้คนในใต้หล้าหรือไม่? องค์รัชทายาทเหล่ย ที่นี่คือตงหลิงหาใช่ซีหลิงไม่ พวกซีหลิงที่แอบเข้ามาในตงหลิงเช่นนี้ ทั้งยังมากระทำตัวกับสตรีผู้สูงศักดิ์ในตงหลิงเช่นนี้อีก ต้องมีจิตใจเช่นไรกัน"

เฟิ่งชิงเฉินมั่นใจได้ว่า บุรุษหน้าดำผู้นี้ต้องเป็นคนของเสด็จอาเก้าหรือไม่ก็หวังจิ่นหลิงอย่างแน่นอน เมื่อชำเลืองมองพวกเขาทั้งสองคนนั้น หวังจิ่นหลิงเพียงแค่ส่ายหน้าไปมา ทว่า เป็นเสด็จอาเก้าที่พยักหน้าลงเล็กน้อย เพื่อสื่อว่าคนผู้นั้นเป็นคนของเขา เป็นเขาที่ได้สั่งให้สร้างเรื่องขึ้น พร้อมทั้งรอเวลาที่เหมาะสม เพื่อเปิดโปงเรื่องนี้ขึ้นมา

ชั่วชีวิตนี้ของเฟิ่งชิงเฉิน นางมิสมควรต้องมาถูกด่าทอทำให้อับอายเช่นนี้ไม่ นับว่าไม่ยุติธรรมกับนาง

"พวกเจ้ารีบเข้ามาปิดปากเขาเสีย" เมื่อฝ่าบาทได้ยินจนพอใจแล้วนั้น ก็พลันกล่าวเตือนองครักษ์ในทันที

แม้ว่าบุรุษผู้นั้นยังคงก่นด่าต่อไป น่าเสียดายนักที่ผู้คนภายในงานเลี้ยงต่างก็ได้ยินเรื่องราวไปกันหมดแล้ว

ยามที่คนถูกลากออกไปแล้วนั้น เรื่องราวหาได้จบแต่เพียงเท่านี้ไม่ ค่ำคืนนี้ ฝ่าบาทต้องมาตกอกตกใจกับท่าทีเย่อหยิ่งของหนานหลิงจิ่นฝานไม่พอ ก็พลันมีเรื่องของซีหลิงเทียนเหล่ยพรั่งพรูเข้ามาอีก หากฝ่าบาทไม่จัดการเขาแล้ว จะให้ไปจัดการผู้ใดได้

"องค์รัชทายาทเหล่ย เรื่องนี้ ทางซีหลิงต้องมีคำอธิบายให้กับเจิ้น" แม้ว่าทั้งตงหลิงและซีหลิงจะมีกองกำลังที่พอ ๆ กัน หากแต่ฝ่าบาทยังมิอยากก่อศึกสงครามขึ้นมาในยามนี้ อีกทั้งยังเปิดศึกระหว่างแคว้นเพียงเพราะเรื่องของสตรีนางเดียวอีก

หากเหล่าทหารรู้เรื่องนี้แล้วละก็ พวกเขาย่อมต้องไม่พอใจอย่างแน่นอน หาพวกเขาต้องมาตกตายไปพร้อมกับต้องมารบราฆ่าฟันกับศัตรูเช่นนี้ เพียงเพราะความอับอายสตรีนางเดียว ทั้งยังต้องให้คนอีกเป็นพันเป็นหมื่นมาตายเพราะนางคนเดียวด้วยหรือ?

น่าเสียดายซีหลิงหาได้คิดเช่นนั้นไม่ หากตงหลิงต้องการรบกับซีหลิงนั้น ย่อมมีชัยได้ถึงเจ็ดส่วน พวกเขามีชื่อเสียงทางด้านการรบยิ่งนัก ถึงแม้ว่า แต่ละแคว้นจะแฝงสายลับเข้าไปในทุก ๆ แคว้น แต่ส่วนน้อยมากมักจะไม่ปรากฏตัวมาทำเรื่องเช่นนี้ โดยเฉพาะเรื่องของเฟิ่งชิงเฉิน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ