ตี๋ตงหมิงเคยพูดว่า การลอบสังหารนั้น หาใช่ว่าทำไม่ได้ไม่ แต่มันขึ้นว่า จะใช้กับผู้ใดมากกว่า การลอบสังหารองค์ชายของแคว้นนั้น ไม่อาจทำได้ แต่การลอบสังหารเฟิ่งชิงเฉินนั้น ย่อมมิใช่เรื่องยากแต่อย่างใด
หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้นั้น ซีหลิงเทียนเหล่ยคงจะเคียดแค้นนางจนแทบอยากจะกลืนนางลงท้องเลยกระมัง และยังมีหนานหลิงจิ่นฝานอีก ที่มีท่าทางเป็นเด็กเอาแต่ใจเช่นนั้น หากมิใช่ว่ามีหวังจิ่นหลิงมาห้ามปรามเขาในวันนี้ ต่อไปในวันข้างหน้า เขาย่อมต้องกลับมาล่าหัวของนางอย่างแน่นอน หากว่าเขาไม่อาจลงมืออย่างโจ่งแจ้งได้นั้น แอบกระทำลับหลังก็ได้มิใช่หรือ
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฟิ่งชิงเฉินพลันรู้สึกปวดหัวยิ่งนัก เรื่องเก่ายังไม่ทันจบ ก็ยังมีเรื่องใหม่ตามมาอีก ถ้าหากนางเป็นตัวร้างปัญหาเช่นนี้ เหตุใดพระเจ้าถึงไม่เตะนางสักที เพื่อที่จะได้ช่วยควบคุมปัญหาที่นางต้องมาเผชิญหน้าเสียบ้าง ?
เมื่อเฟิ่งชิงเฉินนึกถึงคำเตือนของเสด็จอาเก้าได้นั้น นางจึงได้จงใจก้าวช้าลงไปสองสามก้าว เพื่อรั้งรอหวังจิ่นหลิง จะได้ไม่เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้น หากมีคุณชายใหญ่ตระกูลหวังอยู่ด้วยเช่นนี้ ย่อมไม่มีใครกล้าลงมือต่อนางอย่างแน่นอน
"ชิงเฉิน รอก่อน"
ไม่คาดคิดว่า นางยังมิทันได้รอหวังจิ่นหลิงเลย พลันต้องมาเจอกับตงหลิงจื่อชุนเข้าเสียก่อน
ตงหลิงจื่อชุน แม้ว่าจะเป็นชินอ๋องที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง แต่เขาหาได้ยุ่งเกี่ยวกับราชสำนักไม่ ช่วงเวลาเช่นนี้ เขาย่อมไม่รั้งอยู่เพื่อถกเถียงปัญหาของราชสำนักอยู่แล้ว สิ่งที่เขาจะต้องทำเพื่อตงหลิงนั้น ก็คือการรอเวลาเพื่อตบแต่งซีหลิงเหยาหวาเข้าวังเป็นพระชายา
เขาคือหลายชายขององค์จักรพรรดิตงหลิง ตราบใดที่ยังมีแรงสนับสนุนจากราชวงศ์ตงหลิงอยู่ เขาก็ต้องยอมทำอะไรเพื่อตงหลิงเสียบ้าง การแต่งงานก็ถือเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน
"ชุนอ๋องมีเรื่องอันใดหรือเพคะ?" แม้ว่าเฟิ่งชิงจะใช้เวลาในการเดินออกมาจากงานเลี้ยงนานมากนัก เนื่องจากว่านางและชุนอ๋องอยู่ใกล้ตำแหน่งบัลลังค์ของฝ่าบาทมากที่สุด พวกเขานับว่าเป็นกลุ่มหลัง ๆ ที่ได้ออกมาจากงานเลี้ยงเสียด้วยซ้ำ ผู้คนที่ตามมาด้านหลังก็พลันบางตาลงไปมากโข แต่ทว่า มีขุนนางสองสามคนที่ได้ยินชุนอ๋องเอ่ยเรียกนางนั้น ก็ยังคงจงใจเดินอุ้ยอ้าย ถ่วงเวลาเอาไว้
ภายในใจของตงหลิงจื่อชุน รวมไปถึงสายตาของเขา มีเพียงเฟิ่งชิงเฉินผู้เดียวเท่านั้น เขาจะไปมีเวลาสนใจผู้อื่นได้อย่างไร ยามที่เฟิ่งชิงเฉินอยากจะเอ่ยปากพูดออกมานั้น ก็พลันเห็นนัยน์ตาของชุนอ๋อง ที่ส่องประกายระยิบระยับเข้าเสียก่อน ก็รับรู้ได้ทันทีว่า ไม่ว่านางจะพูดสิ่งใดออกมา คนผู้นี้ก็คงไม่ฟังคำของนาง
เมื่อเห็นท่าทีของเฟิ่งชิงเฉินที่สงบเงียบเช่นนั้น ตงหลิงจื่อชุนพลันรู้สึกอึดอัดไปเล็กน้อย ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน แม้ว่าเขาที่เป็นถึงชินอ๋องยืนอยู่ต่อหน้าเฟิ่งชิงเฉินเช่นนี้ แต่เขาไม่อาจกดดันความสง่างามของเฟิ่งชิงเฉินลงไปได้เลยแม้แต่น้อย "ชิงเฉิน ข้า"
"ชุนอ๋องเพคะ หากท่านมีสิ่งใด โปรดเรียนมาตามตรงเถิด" เฟื่งชิงเฉินเริ่มรู้สึกร้อนใจ เนื่องจากว่านางเห็นหวังจิ่นหลิงเดินออกมาแล้ว หากนางไม่รีบไปตอนนี้ บางทีหวังจิ่นหลิงอาจจะถูกผู้อื่นลากเขาไปก่อนก็เป็นได้ ในยามนี้ หวังจิ่นหลิงมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นอีกแล้ว
ตงหลิงจื่อชุนพลันสูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ เข้ารู้ดี หากเขาไม่เอาพูดออกมาในวันนี้ เขาก็จะไม่มีโอกาสอีกแล้ว สีหน้าของชุนอ๋องพลันแปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง พร้อมกับมองมาที่เฟิ่งชิงเฉิน "ชิงเฉิน ข้ารักเจ้า แต่เดิมข้าต้องการแต่งเจ้าเข้ามาเป็นพระชายาเอก แต่เป็นเพราะเรื่องขององค์หญิงเหยาหวา ข้า"
หากพูดถึงเรื่องของซีหลิงเหยาหวานั้น ชุนอ๋องนับว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อย่างแท้จริง เนื่องจากว่า เขาหาได้ลงมือทำสิ่งใดไม่
เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกขนหัวลุกกับแววตาที่ชุนอ๋องมองมาที่นางยิ่งนัก มิรอให้เขาพูดจบ เฟิ่งชิงเฉินก็พลันเอ่ยตัดบทออกมาในทันที "ต้องขอบพระคุณความเมตตาที่ชุนอ๋องมีให้หม่อมฉันเพคะ ในเมื่อท่านจะต้องตบแต่งองค์หญิงเหยาหวาเข้ามาเป็นพระชายาเอกแล้วนั้น คำพูดเช่นนี้ ชุนอ๋องมิควรจะเอ่ยออกมา จะเป็นการดีกว่านะเพคะ"
นี่คือความรักของผู้ชายในยุคนี้ เขาสามารถตบแต่งภรรยาอีกคน พร้อมกับบอกรักสตรีอีกคนหนึ่งได้ เพื่อให้คุณเป็นนางสนมของเขา พวกเขาหาได้มีความทุกข์ร้อนอันใดไม่ อีกทั้งยังแสดงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย เนื่องจากว่ามันคือวัฒนธรรมของคนในยุคนี้
ตบแต่งกับสตรีที่มีฐานะให้สมฐานะเป็นฮูหยินเอก และแต่งกับสตรีในดวงใจเป็นฮูหยินรอง เพื่อให้ฮูหยินเอกมีหน้ามีตา พร้อมทั้งมอบความโปรดปรานให้กับสตรีในดวงใจแทน
การใช้ชีวิตเช่นนี้เป็นเรื่องปกติในสายตาของคนทั่วไป แต่เฟิ่งชิงเฉินหาได้รับกับการกระทำเช่นนี้ได้ไม่
"แต่ว่า ข้าอยากแต่งกับเจ้า" ตงหลิงจื่อชุนพลันกล่าวออกมาด้วยความร้อนรน เขาตั้งใจที่จะแต่งกับเฟิ่งชิงเฉินจริง ๆ
"ลั่วอ๋องเพคะ เรื่องที่พระองค์ต้องแต่งกับองค์หญิงเหยาหวานั้น ไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้อีกแล้วเพคะ ในเมื่อท่านไม่อาจควบคุมงานแต่งงานของตนเองได้เช่นนี้ ฉะนั้นแล้วคำพูดที่ชุนอ๋องพูดไปเมื่อครู่ พระองค์อย่าเอ่ยออกมาอีกเลยเพคะ มิเช่นนั้นมันอาจจะมีปัญหาตามมาที่หลังก็เป็นได้" เฟิ่งชิงเฉินเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความรักของตงหลิงจื่อชุนแล้ว ในขณะเดียวกัน นางก็เข้าใจจุดประสงค์ของเขาเป็นอย่างดี ฉะนั้นแล้ว นางถึงได้เอ่ยปฏิเสธออกไปเช่นนี้ ก็เพื่อมิให้เป็นการทำร้ายเขา
กลับกัน ตงหลิงจื่อชุนกลับพูดความต้องการของตนเองออกมาแทน "ชิงเฉิน เจ้าแต่งเป็นพระชายารองให้ข้าได้หรือไม่? ข้าสัญญา นอกจากตำแหน่งพระชายาเอกแล้ว ข้าล้วนแต่ให้เจ้าได้หมดทุกอย่าง"
"ขออภัยชุนอ๋องเพคะ หม่อมฉันหาได้สนใจที่จะรับใช่สามีคนเดียวกันกับองค์หญิงเหยาหวาไม่" เฟิ่งชิงเฉินพยายามเป็นอย่างมาก ที่หาคำตอบมาปฏิเสธเพื่อมิให้ทำร้ายชุนอ๋อง หน้าตาของบุรุษนั้น นางไม่อยากจะสร้างศัตรูมากไปกว่านี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...