นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 389

"ได้" ในยามนี้ หวังจิ่นหลิงก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน อีกทั้งเขายังไม่มีพลังที่จะพูดว่า ข้าทำเอง!

เขาขี่ม้าเป็น ทักษะขี่ม้าของเขาก็มิได้แย่ แต่ถ้าเทียบกับเฟิ่งชิงเฉินแล้ว ก็เปรียบเสมือนฟ้ากับเหว

ทักษะการขี่ม้าของเฟิ่งชิงเฉินนั้น สามารถพูดได้เลยว่าเป็นพระสวรรค์ที่พระเจ้าประทานให้ เนื่องจากว่าพวกนักฆ่าจะเข้ามาใกล้พวกเขาแล้ว หวังจิ่นหลิงจึงไม่มีเวลาขบคิดแผนการให้มากนัก

"ฆ่า ฆ่าผู้นำตระกูลหวัง ฆ่าเฟิ่งชิงเฉิน" เหล่านักฆ่าที่ขี่ม้าตามมาห่างออกไปร้อยกว่าก้าวนั้น เสียงคำสั่งการพลันทำให้พวกเขาคลุ้มคลั่งมากกว่าเดิมไปอีก

เมื่อเสียงตะโกนร้องสั่งให้ฆ่าดังขึ้นมานั้น มันทำให้เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกตื่นตระหนกไปในทันที แต่นางก็รู้ดีว่า ในยามนี้นางไม่อาจตื่นตระหนกไปได้ หากนางรู้สึกพะวงหน้าพะวงหลังขึ้นมา อาจจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาได้

ใจเย็น ใจเย็น ๆ เฟิ่งชิงเฉินเจ้าต้องใจเย็น ๆ ในยามนี้เจ้าหาได้มีเพียงคนเดียวไม่ เจ้ายังมีหวังจิ่นหลิงอีก เจ้าไม่ควรพาหวังจิ่นหลิงตกลงไปตายพร้อมกับเจ้า

เฟิ่งชิงเฉินพยายามที่จะบอกกับตนเองให้ใจเย็น ๆ พร้อมทั้งพยายามที่จะปรับลมหายใจของตนเองให้เป็นดั่งปกติ เพื่อให้ลืมคนที่อยู่ด้านหลังของนาง

เมื่อคนขับรถม้าเห็นสถานการณ์เช่นนั้น เขาก็สวดมนตร์อ้อนวอนต่อพระเจ้าในทันที แม้ว่าพวกนักฆ่าจะใกล้เข้ามาแล้ว แต่เฟิ่งชิงเฉินก็ยังไม่กระโดดขึ้นม้าเสียที ยามที่กำลังคิดว่าตนเองควรเข้าไปช่วยเหลือเฟิ่งชิงเฉินหรือไม่ ก็พลันได้ยินเฟิ่งชิงเฉินกล่าวออกมาว่า "เจ้าไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ข้าจะขึ้นไปบนหลังม้าด้วยตนเอง"

เมื่อพูดจบ เฟิ่งชิงเฉินพลันใช้ฟันคาบมีดผ่าตัดเอาไว้ในปาก จากนั้นก็เตรียมตัวกระโดดขึ้นหลังม้าในทันที

แม้ว่าจะไม่มีอานม้า นางก็สามารถนั่งอยู่บนหลังม้าด้วยความมั่นคงได้เช่นกัน อีกทั้งนางต้องนั่งให้มั่นคงเข้าไว้ เนื่องจากว่านักฆ่าเริ่มตามหลังเข้ามาใกล้ ๆ แล้ว นั่นทำให้นางไม่อาจทำสิ่งใดให้ผิดพลาดไปได้เป็นอันขาด

เฟิ่งชิงเฉินพลันสูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ สองมือพลันกำขนสีน้ำตาลของม้าเอาไว้ในทันที และกระโดดขึ้นไปยังบนหลังม้าได้สำเร็จ

นางทำได้แล้ว!

เฟิ่งชิงเฉินพลันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก มือซ้ายพลันหยิบมีดผ่าตัดออกมา พร้อมกับเอี้ยวตัวไปตัดเชือกระหว่างตัวม้ากับรถม้าให้ขาดออกจากกันในทันที

"สวยมาก!"

หากมิใช่ว่ากำลังโดนนักฆ่าไล่ตามอยู่ คนขับรถม้าย่อมตะโกนออกไปชื่นชมนางแล้ว

"จิ่นหลิง ขึ้นมา" ข้าทั้งสองข้างของเฟิ่งชิงเฉินพลันตบไปที่สีข้างของม้า แล้วจึงยื่นมือขวาออกมา พร้อมกับเอนตัวลงไป

"ได้ ชิงเฉินระวังด้วย" แม้ว่าหวังจิ่นหลิงจะไม่เป็นวรยุทธ์ แต่ทว่าเขาก็มีร่างกายที่แข็งแกร่งเช่นกัน เมื่อมีเฟิ่งชิงเฉินช่วยเหลือเช่นนี้ หวังจิ่นหลิงถึงปีนขึ้นหลังม้าได้อย่างสบายใจ

"ไป"

หวังจิ่นหลิงเมื่อขึ้นมาบนหลังม้า เฟิ่งชิงเฉินจึงปลดสายคาดเอวของนางออก พร้อมกับเอนตัวไปด้านหน้า เพื่อนำสายคาดเอวคาดหัวของม้าเอาไว้

"จิ่นหลิง พวกเราจะไปแล้ว เจ้ากอดข้าเอาไว้ดี ๆ "

เฟิ่งชิงเฉินจึงควบม้าออกไปด้วยความเร็วสูง นักฆ่าที่ตามมาอยู่ด้านหลัง เพียงแค่เห็นมือโผล่ออกมาแวบเดียว จากนั้นก็ไม่เห็นตัวคนอีกเลย ไอสังหารพลันเพิ่มขึ้นมากเป็นเท่าตัว คนขับรถม้าพลันเข้ามาขวางทางนักฆ่าพวกนั้นเอาไว้ จากนั้นก็ตายจากไปด้วยความน่าสลด

"ตามไป"

ม้าของตระกูลหวัง แม้ว่าจะมิได้ดีเท่าม้าเหงื่อโลหิตและม้าดำชางชาน แต่ทว่า หากจะใช้ขาทั้งสองข้างวิ่งหนีเหล่านักฆ่าพวกนั้น ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เกรงว่าม้าพวกนี้ โดยปกติแล้วคงจะเอาไว้ใช้ลากรถกระมัง

แต่ทว่า ม้าส่วนใหญ่มันต้องมีอานม้าและมีบังเหียนม้า เพื่อให้มีการควบคุมม้าด้วยความสะดวก

แต่หากมีเพียงเฟิ่งชิงเฉินคนเดียวก็ยังดี แต่นางยังต้องมีหวังจิ่นหลิงพ่วงเข้ามาด้วยอีก เช่นนี้ เมื่อม้าขี่ผ่านไปได้เพียงสองถนนใหญ่ พวกเขาก็ถูกพวกนักฆ่าไล่ตามมาทันเสียแล้ว " ไปเร็ว พวกเขาหนีไปได้ไม่ไกลแล้ว"

เมื่อเฟิ่งชิงเฉินหันกลับไปมองด้านหลัง ก็พลันเห็นนักฆ่าตามมาอีก สิบกว่าคน ทุกคนดูเสมือนว่าเลือดขึ้นหน้าก็ไม่ปาน

องครักษ์ของตระกูลหวังกั้นพวกนักฆ่าเอาไว้มากมายถึงเพียงนั้น เหตุใดด้านหลังของนางยังมีนักฆ่าเพิ่มขึ้นมาอีกเรื่อย ๆ เล่า

นักฆ่าทั้งสามกลุ่มได้ทำการนัดแนะกันไว้หรือไม่?

เฟิ่งชิงเฉินในยามนี้ นางรู้สึกหดหู่กับชีวิตของตนเองยิ่งนัก สิ่งที่น่าหดหู่ใจมากกว่าก็คือ อุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันตัวของนางล้วนแต่ไม่อยู่ข้างตัวเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ