เมื่อได้ยินคำพูดของเฟิ่งชิงเฉิน ดวงตาของทงจือและทงเหยาก็มีน้ำตาคลอ ช่างประเสริฐเหลือเกิน ในที่สุดคุณหนูของพวกนางก็กลับมามีท่าทางของคุณหนูคนเดิมแล้ว
ในฐานะสาวใช้ หน้าที่นั้นไม่เพียงแต่ดูแลเรื่องความเป็นอยู่ของเจ้านายเท่านั้น แต่ยังต้องช่วยเหลือเจ้านายในเรื่องการไปติดต่อพันธ์กับคนภายนอกอีก
แท้จริงแล้วเฟิ่งชิงเฉินมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำในทุกๆ วัน แต่นางกลับขี้เกียจมากและไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ เว้นแต่เป็นเรื่องใหญ่ เรื่องที่ไม่ได้ยากเย็นอะไรก็ให้เป็นหน้าที่ทงจือและทงเหยาจัดการ
ทงจือและทงเหยาเห็นว่าในเช้าวันนี้เฟิ่งชิงเฉินเงยหน้ามองดูท้องฟ้าอยู่เงียบๆ จึงกลัวว่านางจะกลับไปเป็นเหมือนเก่า พวกนางจึงรีบพูดเรื่องที่เฟิ่งชิงเฉินต้องทำในวันนี้ทันที
แน่นอนว่าพวกงานเลี้ยงน้ำชา งานชุมนุมกวีและงานชมดอกไม้นั้น สาวใช้ทั้งสองได้ตัดทิ้งออกไปแล้ว พวกนางรู้ดีว่าเฟิ่งชิงเฉินจะไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงที่น่าเบื่อเช่นนี้จึงเลือกเฉพาะงานที่สำคัญมาบอกเท่านั้น "ฮูหยินน้อยแห่งจวนหย่งชางป๋อ ได้เชิญคุณหนูไปงานเลี้ยงน้ำชาเจ้าค่ะ"
“จวนหย่งชางป๋อ? ข้ารู้จักฮูหยินน้อยของพวกเขาด้วยหรือ?” ในเมืองหลวงมีหลายคนที่รู้จักนาง แต่นางกลับรู้จักผู้คนน้อยยิ่ง คุณหนูที่โด่งดังเช่นนางมีไม่มากนัก แน่นอนว่าเรื่องเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องดีนัก คนทั่วไปย่อมไม่ต้องการเช่นนี้
“ฮูหยินน้อยแห่งหย่งชางป๋อก็คือคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลเวินเจ้าค่ะ” ทงจือเตือนอย่างนอบน้อม
“ข้ารู้แล้ว ข้าจะไป” คุณหนูเวินผู้นี้เป็นผู้ป่วยที่จิ้นหยางโหวฮูหยินแนะนำมา นางแต่งงานมาหลายปีแล้วแต่ยังไม่มีมีบุตร แต่ปรากฏว่าตัวนางปกติดี เฟิ่งชิงเฉินแนะนำว่าให้สามีของนางมาตรวจด้วย ดูแล้วอีกฝ่ายคงตอบรับแล้ว
“ฮูหยินของท่านผู้บัญชาการหน่วยองครักษ์เสื้อโลหิต ส่งเทียบเชิญมาอกว่าอีกสามวันนางจะมาเยี่ยมที่จวนเจ้าค่ะ” มุมปากของทงจือกระตุก นางไม่ต้องการให้เฟิ่งชิงเฉินเข้าไปพัวพันกับคนขององครักษ์เสื้อโลหิต เพราะจะเสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก
น่าเสียดายที่เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ยินเสียงในใจของทงจือ เฟิ่งชิงเฉินมีความประทับใจที่ดีต่อลู่ฮูหยิน "เดี๋ยวไปนัดแนะเวลาที่ชัดเจนกับลู่ฮูหยินอีกที"
“เจ้าค่ะ” ในฐานะสาวใช้ที่ดี แม้ว่าจะไม่พอใจแต่ก็ต้องทำตามสิ่งที่เจ้านายของตนต้องการ
“ฮูหยินของหนิงกั๋วกงส่งตำราเพลงฉินมาให้และบอกว่าให้คุณหนูใช้ฆ่าเวลาเจ้าค่ะ" ปากของทงจือกระตุกอีกครั้ง คุณหนูของนางเล่นฉินไม่เป็นแม้แต่น้อย เกรงว่าอีกฝ่ายคงจะต้องทำให้อีกฝ่ายต้องเสียน้ำใจแล้ว
ทงจือและทงเหยายังไม่รู้เรื่องการประลองระหว่างเฟิ่งชิงเฉินและซูหว่าน
“จวนหนิงกั๋วกงช่างใส่ใจนัก บันทึกเอาไว้ เมื่อลูกชายสองคนของหนิงกั๋วกงอายุครบร้อยวันก็ช่วยเตรียมของขวัญให้นางแทนข้าด้วย”
ในแคว้นตงหลิง พิธีสรงสาม วันครบรอบหนึ่งเดือนและวันครบรอบหนึ่งร้อยวันจะจัดอย่างใหญ่โต สำหรับเด็กน้อยทั้งสองที่นางช่วยทำคลอดมากับมือ เฟิ่งชิงเฉินเต็มไปด้วยความคาดหวัง วันพิธีสรงสามและวันครบรอบหนึ่งเดือนนั้นนางพลาดไปแล้ว วันครบรอบหนึ่งร้อยวันนางจะต้องเข้าร่วมอย่างแน่นอน หนิงกั๋วกงฮูหยินและท่านชายได้เชิญนางครั้งแล้วครั้งเล่า
"เจ้าค่ะ"
ทงจือและทงเหยายังคงรายงานต่อไปและจากนั้นก็เป็นเหล่าคนที่มอบของขวัญมา ของขวัญที่พวกเขามอบให้นั้นก็ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย ทั้งหมดล้วนเกี่ยวข้องกับการประลองกับซูหว่าน
“องค์รัชทายาททรงส่งต้นฉบับของนักอักษรศิลป์มือเอกมาให้คุณหนูเจ้าค่ะ” ต้นฉบับของนักอักษรศิลป์มือเอกนั้นประเมินค่าไม่ได้ ในตงหลิงก็มีเพียงสามฉบับเท่านั้น สองฉบับอยู่ในวังและอีกหนึ่งฉบับอยู่ในพระหัตถ์ขององค์ชายรัชทายาท
“ส่ง... รับมันไว้เถอะ” เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าของขวัญจากองค์รัชทายาทนั้นคงไม่อาจส่งคืนได้
ใบหน้าของทงจือไม่แสดงอารมณ์ เพียงแค่ตวัดพู่กันจดบันทึกไว้ ในใจของนางนั้น ไม่ว่าของขวัญใดเฟิ่งชิงเฉินก็ล้วนรับได้
...
สำหรับเรื่องเล็กน้อยที่เหลือ เฟิ่งชิงเฉินขัดจังหวะอย่างไร้ความอดทนหลังจากฟังไปสองประโยคและปล่อยให้ทงจือทงเหยาจัดการเอาเอง
ทงจือและทงเหยาปิดปากลงอย่างเงียบเชียบ พวกนางประเมินคุณหนูสูงไปจริงๆ คุณหนูยังคงไม่อดทนกับสิ่งเหล่านี้ สาวใช้ทั้งสองจึงถอยกลับไปอย่างเงียบๆ
ในยามสาย เฟิ่งชิงเฉินอยู่ในห้องหนังสือและเทชุดเครื่องมือแพทย์ออกมาเพื่อเตรียมผ่าตัดในอีกสองวันข้างหน้า ส่วนเรื่องการประลองกับซูหว่านน่ะหรือ? ช่างเถอะ นางใส่ใจไปก็ไร้ประโยชน์
ในตอนบ่าย เฟิ่งชิงเฉินไปที่จวนหย่งชางป๋อตามกำหนด บางทีอาจเป็นเพราะว่าพวกเขาเคยติดต่อกับเฟิ่งชิงเฉินมาก่อน คุณหนูแห่งตระกูลเวินจึงไม่อ้อมค้อม เมื่อนางดื่มชาไปถ้วยหนึ่งและพูดคุยพอเป็นพิธีอีกเล็กน้อยก็เชิญสามีของนางมา
สามีของคุณหนูใหญ่ตระกูลเวินคือคุณชายรองที่เกิดจากฮูหยินเอกแห่งจวนหย่งชางป๋อ เขาไม่มีสิทธิสืบทอดบรรดาศักดิ์ แต่เพราะเขาเกิดจากภรรยาเอก เขาจึงมีสิทธิ์ในส่วนแบ่งทรัพย์สินของตระกูลมากหน่อย
คุณชายรองท่าทางดูเป็นผู้เป็นคน เขาถือพัดในมือและดูเป็นคนมีความรู้ความสามารถ แต่ดวงตาของเขากลับไม่จริงจังเลย มันดูเหลาะแหละ มีถุงใต้ตาชัดเจน เห็นได้ชัดว่าถูกตามใจเสียจนเสียคน เฟิ่งชิงเฉินแสดงออกว่านางไม่ชอบคนผู้นี้ แต่หมอไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกผู้ป่วย
นอกจากนี้เหล่าคุณชายในตระกูลขุนนางในนครหลวงก็เป็นเช่นนี้ ยศถาบรรดาศักดิ์เป็นกรรมพันธุ์ พวกเขาเกิดมาพร้อมกับความมั่งคั่ง เมื่ออายุถึงเกณฑ์ อะไรก็ไม่ต้องทำก็สามารถรับตำแหน่งเป็นขุนนางระดับสูงได้เลย
แม้ว่าตระกูลขุนนางเหล่านี้เรียนรู้จากตระกูลขุนนางด้วยกัน อบรมสั่งสอนบุตรชายในตระกูลอย่างดี แต่คุณชายส่วนใหญ่ก็มักจะไม่เอาดีและมักจะชอบเรียนรู้เรื่องไม่ดี พวกเขาล้วนเป็นคุณชายเสเพล นอกเหนือไปจากการกินดื่มเที่ยวเล่นแล้วก็ยังกลั่นแกล้งบุรุษข่มเหงสตรี อย่าว่าแต่หวังจิ่นหลิงแลย พวกเขาเทียบกับปลายเส้นผมของเซี่ยซานหรือหวังชีไม่ได้ด้วยซ้ำ
ยามที่คุณชายรองเพิ่งเข้ามา เขายังแสร้งทำเป็นเคร่งขรึม แต่เมื่อเฟิ่งชิงเฉินจับชีพจร ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนไป
ดวงตาหื่นกามจับจ้องไปที่ร่างกายของเฟิ่งชิงเฉินโดยไม่ยอมละสายตาและกวาดตามองนางึ้นลงจนทั่ว ในที่สุดก็หยุดลงตรงหน้าอกของเฟิ่งชิงเฉินและกระพริบตาให้เฟิ่งชิงเฉินเป็นครั้งคราว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...