นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 422

เฟิ่งชิงเฉินวางใจในการทำงานของซูเหวินชิง เมื่อบอกเรื่องของจวนหย่งชางป๋อและเรื่องบ่อนพนันแก่ซูเหวินชิงแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่สนใจเรื่องนี้อีก ความคิดทั้งหมดของนางจดจ่ออยู่กับขาและขาเทียมของซีหลิงเทียนอวี่

สำหรับเฟิ่งชิงเฉินแล้ว การเป็นหมอเป็นงานประจำของนาง งานที่เหลืออื่นๆ เป็นงานนอกเวลา แม้ว่าหลังจากมาถึงยุคนี้ดูเหมือนว่าหมอจะกลายเป็นงานนอกเวลาไปแล้วก็ตาม

นางไม่ได้สัมผัสมีดผ่าตัดเป็นเวลานาน เฟิ่งชิงเฉินกลัวว่ามือของนางจะไม่คุ้นเคยและแข็งทื่อ ดังนั้นนางจึงไปที่จวนซุนและขอให้ซุนซือสิงเตรียมกระต่ายให้นางฝึก นางคิดอยากจะหาศพ แต่นางไม่อยากสร้างปัญหา ศพนักโทษก็หาไม่ง่ายเช่นกัน

เมื่อมาถึงจวนซุนก็ยังคงไม่เห็นซุนเจิ้งเต้าและซุนฮูหยิน เฟิ่งชิงเฉินชินเสียแล้ว ในช่วงเวลานี้ดูเหมือนทั้งคู่จะยุ่งมาก ยุ่งจนแทบไม่เจอเงาคน

เฟิ่งชิงเฉินไม่ถูกรบกวนจากบุคคลภายนอกและดำดิ่งสู่โลกแห่งการผ่าตัด ความมรู้สึกมีชีวิตชีวาจึงได้กลับคืนมา เฟิ่งชิงเฉินเผชิญหน้ากับโต๊ะผ่าตัดที่เปื้อนเลือด นางไม่เพียงแต่ไม่เกลียดชัง แต่ยังรู้สึกดีอีกด้วย เพราะนี่จึงจะเป็นชีวิตของนางจริงๆ

นางยอมอยู่กับมีดผ่าตัดที่เย็นชาและบาดแผลเปื้อนเลือดมากกว่าจะเล่นเกมกับมนุษย์ การต่อสู้ทางปัญญากับผู้อื่นนั้นเหนื่อยเกินไป นางไม่เฉลียวฉลาดพอที่จะจัดการผู้อื่น

ทุกครั้งที่เข้าวังนางล้วนกังวลอย่างมากด้วยกลัวว่าจะทำอะไรผิดไป พูดผิดไปหรือตกลงไปในหลุมพรางของอีกฝ่าย ถูกจับผิดและโยนเข้าคุกฟ้าหรือส่งให้หน่วยองครักษ์เสื้อโลหิต

สถานที่อย่างคุกฟ้าและหน่วยองครักษ์เสื้อโลหิตนั้น เฟิ่งชิงเฉินหวังว่าชีวิตนี้นางจะไม่ได้เข้าไปที่นั่นในฐานะนักโทษอีก มันน่ากลัวเกินไป ประสบการณ์เช่นนี้มีครั้งเดียวในชีวิตก็พอแล้ว

ต้องบอกว่าสายตาของเฟิ่งชิงเฉินนั้นยอดเยี่ยม ประสิทธิภาพการทำงานของซูเหวินชิงก็ค่อนข้างสูง เมื่อเฟิ่งชิงเฉินผ่าตัดกระต่ายตัวที่ห้า ข้ารับใช้ของเสด็จอาเก้าก็กำลังร้อนๆ หนาวๆ พวกเขาต้องเผชิญกับความหนาวเหน็บของสายตาของเสด็จอาเก้า ตกดึกข้ารับใช้ของจวนอ๋องเก้าจึงไปซื้อยาแก้หวัดโดยพร้อมเพรียงกัน

“จวนหย่งชางป๋อ แม้แต่บุตรชายก็เลี้ยงให้ดีไม่ได้แล้วจะเป็นขุนนางที่ดีได้อย่างไร ภายในสองวันข้าต้องการหลักฐานความผิดทั้งหมดของจวนหย่งชางป๋อและจัดการให้เสร็จสิ้นภายในหนึ่งเดือน ข้าไม่ต้องการเห็นคนของจวนหย่งชางป๋อในเมืองหลวงอีก" หากใช้พลังสายลับ เพียงแค่คืนเดียวเขาก็สามารถกวาดล้างจวนหย่งชางป๋อจนนองเลือดได้ แต่ทว่า...

หากสามารถใช้วิธีการที่เปิดเผยและตรงไปตรงมาได้ เสด็จอาเก้าก็จะไม่ใช้พลังสายลับ การจัดการคนอย่างลับๆ นั้นจะไม่มีวันทำให้น่าสะพรึงกลัวยิ่งไปว่าการจัดการอย่างเปิดเผย

เชือดไก่ให้ลิงดู เขาจะใช้จุดจบอันน่าสลดของจวนหย่งชางป๋อเพื่อเตือนเหล่าขุนนางในเมืองหลวงว่าความหายนะนั้นเกิดจากปาก

“พ่ะย่ะค่ะ” ชายชุดดำผู้มาส่งข่าวหมุนตัวจากไปเพื่อทำตามคำสั่งของเสด็จอาเก้าโดยไม่พูดอะไร ทั้งยังคร่ำครวญอยู่ในใจว่าทำไม ทำไมทุกครั้งที่เขามาส่งข่าวจะต้องมีเรื่องเกี่ยวกับเฟิ่งชิงเฉิน จากนั้นนายท่านของเขาก็จะอารมณ์ไม่ดี เขาไม่เพียงแต่ต้องอดทนรับโทสะของนายท่านเท่านั้น แต่ยังต้องทนรับรัศมีอาฆาตอีกด้วย

ให้ตายเถอะ หลังจากที่เขากลับไปแล้วก็ต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบว่าทุกครั้งใครเป็นผู้นำข่าวของเฟิ่งชิงเฉินมาบอกเขา

ช้ากว่าเสด็จอาเก้าเพียงครึ่งก้าว หวังชีก็ได้รับข่าว ซูเหวินชิงและหวังชีพบกันที่โรงน้ำชา หลังจากทักทายกันสองสามคำ ซูเหวินชิงก็เปิดเผยเรื่องจวนหย่งชางป๋ออย่างแนบเนียน ในเวลาเดียวกันก็เปิดเผยเรื่องการทำเงินก้อนใหญ่

จะต้องบอกว่าซูเหวินชิงทำงานอย่างละเอียดรอบคอบ เขารู้ดีว่าหากเรื่องจวนหย่งชางป๋อเข้าหูสกุลหวังคนอื่นๆ แล้ว เฟิ่งชิงเฉินคงจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแน่ มีเพียงหวังชีเท่านั้นที่จะคำนึงถึงชื่อเสียงของหวังจิ่นหลิงและความปลอดภัยของเฟิ่งชิงเฉิน

ธุรกิจที่ซูเหวินชิงคุยกับตระกูลหวังคืออะไรนั้นไม่ต้องบอกก็รู้ นั่นก็คือการพนันครั้งใหญ่ที่เฟิ่งชิงเฉินเสนอออกมา เมื่อมีกำไรก้อนโตอยู่ตรงหน้า ซูเหวินชิงไม่อาจฮุบไว้คนเดียวแม้ว่าเขาจะสามารถทำได้ แต่จิ่วชิงและเฟิ่งชิงเฉินล้วนไม่เห็นด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ