เฟิ่งชิงเฉินนั่งอยู่ในห้องหนังสือและคิดไปถึงเรื่องราววุ่นวายต่างๆ นานา ยิ่งนางคิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกแย่ขึ้นเท่านั้น แม้ว่านางจะเข้าใจดีว่าไม่ว่ายุคใดก็ล้วนมีเรื่องโหดร้ายทารุณเกิดขึ้นและนางไม่อาจดูแลได้อย่างทั่วถึง แต่อย่างน้อยก็อย่าให้นางได้รู้ หากนางรู้แล้ว นางจะไม่มีวันอยู่เฉย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับการผดุงธรรมของจอมยุทธ์ นางเพียงแค่ไม่อยากให้มโนธรรมต้องถูกรบกวน
จนกระทั่งทงจือมาบอกนางว่าน้ำร้อนพร้อมแล้ว นางสามารถไปอาบน้ำได้แล้ว เฟิ่งชิงเฉินจึงดึงความคิดของนางกลับมาและหยุดคิดเกี่ยวกับเรื่องที่ทำให้นางรำคาญใจ
เมื่ออาบน้ำเสร็จก็ได้เวลาอาหาร นางกินขนมบนรถม้าของเสด็จอาเก้าไปไม่น้อย นางจึงไม่ได้รับประทานมื้อเย็นมากนัก หลังกินไปครึ่งชามก็ให้ทงจือและทงเหยาเก็บไป
ทงจือและทงเหยากังวลเล็กน้อย ปกติคุณหนูของพวกนางก็กินน้อย แต่วันนี้กลับยิ่งกินน้อยลงไปอีก ทงจืออยากพูดเกลี้ยกล่อมสักหน่อย แต่ทงเหยาดึงนางไว้และห้ามไม่ให้นางพูด
ทงจือถามทงเหยาว่าเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ ทงเหยาเพียงแค่ส่ายหัวและไม่ยอมพูดอะไรอีก
ทงเหยาเดาว่าที่คุณหนูของพวกนางอารมณ์ไม่ดีอาจเกี่ยวข้องกับของประหลาดนั้นห้องหนังสือนั้นก็เป็นได้ แต่คุณหนูบอกนางว่าห้ามพูดออกไป นางจึงไม่สามารถพูดได้
เมื่อรู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินอารมณ์ไม่ดี สาวใช้ทั้งสองก็ไม่กล้าพูดมาก พวกนางเก็บของและออกไป ในขณะเดียวกันก็บอกกับคนในจวนว่า หากไม่มีอะไรก็อย่ารบกวนคุณหนู
เฟิ่งชิงเฉินออกไปเดินข้างนอกสองรอบ จนกระทั่งฟ้ามืดลงจึงค่อยกลับห้อง เมื่อนางเปิดประตูก็เห็นหลานจิ่วชิงนั่งอยู่ในห้องของนาง...
“หลานจิ่วชิง?” เฟิ่งชิงเฉินเดินเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็วและรีบปิดประตู
“อืม” หลานจิ่วชิงตอบ ลมหายใจของเขาสะดุดเล็กน้อย หลังจากเห็นเฟิ่งชิงเฉินแล้วเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ความตึงเครียดก็ผ่อนคลายลง
“อาการบาดเจ็บของเจ้าแย่ลงอีกหรือ?” เพียงได้ยินเฟิ่งชิงเฉินก็รู้ว่าหลานจิ่วชิงผู้นี้ไม่ได้ดูแลร่างกายให้ดีและทำร้ายตัวเองมากยิ่งขึ้นไปอีก
“แผลเปิดแล้ว” หลานจิ่วชิงไม่ได้ปิดบัง เขาพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมา ในขณะเดียวกันก็คลายเสื้อผ้าและกางเกงออกอย่างรู้ตัว
เขาไม่กล้าให้เฟิ่งชิงเฉินเปลื้องผ้าให้เขาอีก นั่นเป็นการท้าทายหัวใจของเขาเกินไป เขากลัวว่าบาดแผลของเขาจะฉีกอีก เขายังไม่อยากตายเร็วนัก
“เจ้าช่างรู้วิธีทะนุถนอมร่างกายตนเองเสียจริงนะ” เฟิ่งชิงเฉินพูดอย่างไม่สบอารมณ์ คนไข้ที่นางชิงชัง นอกจากซีหลิงเทียนอวี่แล้วก็มีเพียงหลานจิ่วชิง หลานจิ่วชิงไม่ใส่ใจกับร่างกายของเขาเลย
คืนนี้น้ำเสียงของเฟิ่งชิงเฉินไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก หลานจิ่วชิงเดาว่าคงเกี่ยวข้องกับอาวุธลับนั่นเป็นแน่ เขาอยากจะอธิบาย แต่สุดท้ายก็ทำเพียงลูบจมูกโดยไม่พูดอะไร
อันที่จริงแล้วเขาสามารถใช้วิธีที่ชาญฉลาดกว่านี้ในการคืนสิ่งของให้เฟิ่งชิงเฉินก็ได้ แต่เขาไม่ต้องการปิดบังนาง ทั้งๆ ที่รู้ว่าหลังจากนางได้รู้แล้วจะต้องโมโห แต่เขาก็ยังคงใช้วิธีที่โง่เขลาที่สุดเพื่อคืนของให้เฟิ่งชิงเฉิน
เรื่องนี้เขาทำผิดก่อน หลานจิ่วชิงยอมให้เฟิ่งชิงเฉินพร่ำบ่นไปอย่างเชื่อฟังโดยไม่เถียงเลยแม้แต่น้อยและปลอบตัวเองว่า ผู้ชายก็ควรจะยอมอ่อนข้อให้ผู้หญิงของตนเองไม่ว่านางจะมีเหตุผลหรือไม่ก็ตาม
แม้ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะโกรธที่หลานจิ่วชิงแอบใช้ประโยชน์จากสิ่งของของนาง แต่นางก็ไม่ได้ใจร้ายจนไม่สนใจชีวิตหรือความเป็นตายของหลานจิ่วชิง นางบ่นไปไม่กี่คำก็เห็นว่าเขายอมฟังนางต่อว่าแต่โดยดี เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่อยากจะต่อว่าต่อ นางไม่ใช่คนไร้เหตุผลและอีกอย่างนางก็ไม่ใช่คนของหลานจิ่วชิง หลานจิ่วชิงไม่จำเป็นต้องยอมให้นาง
เฟิ่งชิงเฉินดูอาการบาดเจ็บของหลานจิ่วชิงและพบว่าบาดแผลเพียงฉีกขาดเท่านั้นและไม่ได้อักเสบ แต่ร่างกายของหลานจิ่วชิงกลับร้อนจี๋ แม้ไม่ได้ใช้เทอร์โมมิเตอร์วัด เฟิ่งชิงเฉินก็รู้ว่าหลานจิ่วชิงตัวร้อน
“ไปนอนลงบนเตียง ข้าจะไปเอากล่องยามา” เฟิ่งชิงเฉินพูดแล้วก็เดินไปยังหลังฉากกั้น
เตียง?
นี่คือห้องนอนของเฟิ่งชิงเฉิน ในห้องมีอยู่เตียงเดียว เมื่อเฟิ่งชิงเฉินเอ่ยปากเชื้อเชิญแล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจอีก เขาใช้มือข้างหนึ่งวางที่โต๊ะและใช้แรงลุกขึ้น ยามที่เดินผ่านฉากกั้น หลานจิ่วชิงชะงักฝีเท้าลงราวกับว่าเขาอยากมองเฟิ่งชิงเฉินที่อยู่ด้านหลังฉากกั้น
เขามองไม่เห็นสิ่งใดผ่านฉากกั้นที่บังอยู่ แต่เขารู้ดีว่าเฟิ่งชิงเฉินจะหากล่องยาได้จากที่ใด เขารู้ว่ากล่องยาที่เฟิ่งชิงเฉินใช้เป็นประจำนั้นยังคงอยู่กับเขา
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ทุกครั้งที่เขาเห็นของสิ่งนั้นบนข้อมือของเฟิ่งชิงเฉิน ในใจก็มักรู้สึกแปลกๆ หลายครั้งที่เขาต้องการหยุดนางจากการใช้สิ่งนั้น แต่เขารู้ดีว่าเขาไม่มีสิทธิ์
หลานจิ่วชิงถอนหายใจเบาๆ และเอนกายพิงที่หัวเตียง ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากหมอนโชยมา หลานจิ่วชิงสูดหายใจเข้าลึก หน้ากากสีเงินปิดบังความกังวลบนใบหน้าเขาไว้จนหมดสิ้น
เมื่อเฟิ่งชิงเฉินถือกล่องยาขนาดเล็กเดินออกมา มุมปากของหลานจิ่วชิงก็กระตุกเล็กน้อย ถ้าเขาจำไม่ผิดหวังจิ่นหลิงก็ดูเหมือนจะมีกล่องเช่นนี้เหมือนกัน
ดูเหมือนว่ากล่องของหวังจิ่นหลิงน่าจะได้มีเฟิ่งชิงเฉินเป็นผู้ให้ เมื่อคิดเช่นนี้ ดวงตาของหลานจิ่วชิงก็เปล่งประกายเยียบเย็น
เฟิ่งชิงเฉินดูเหมือนจะไม่ได้ใจดีกับหวังจิ่นหลิงธรรมดา ต้องรู้ว่าจนถึงตอนนี้เฟิ่งชิงเฉินยังไม่เคยให้อะไรเขาเลย
“ขยับไปสิ” เฟิ่งชิงเฉินดึงผ้าห่มออกมาหนุนหลังหลานจิ่วชิงเพื่อให้เขาพิงได้สบายขึ้น
เฟิ่งชิงเฉินก้มศีรษะลง ผมข้างหูของนางกระจัดกระจายสัมผัสลงบนแก้มของหลานจิ่วชิง แต่มีหน้ากากหนังคนและหน้ากากสีเงินปกคลุมอยู่ หลานจิ่วชิงจึงไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อยและปล่อยให้ผมของนางปัดบนหน้าเขาต่อไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...