ฮึฮึ
เฟิ่งชิงเฉินพลันหยุดหัวเราะลง พร้อมก้มตัวลงพูดคุยกับหลานจิ่วชิงที่นอนไม่ได้สติอยู่ว่า "หลานจิ่วชิง ถึงแม้ว่าเจ้าจะไม่ได้ยินข้า แต่ข้ารู้สึกว่า อย่างไรข้าก็ต้องอธิบายกับเจ้า ในยามนี้ข้าคือหมอ ข้าจะทำสิ่งใดล้วนไม่ผิด ต่อหน้าหมอมีเพียงผู้ป่วยเท่านั้น ไม่ว่าจะชายและหญิงล้วนไม่มีความแตกต่างกัน ในยามนี้ ทั้งเจ้าและข้าเป็นแค่ความสัมพันธ์หมอกับคนไข้ ดังนั้น ได้โปรดยกโทษให้กับความไร้มารยาทของข้าด้วย"
พูดจบ พลันใช้มือลูบคลำไปที่อาภรณ์ของหลานจิ่วชิงในทันที
กรรไกรทางการแพทย์ที่อยู่มือ ให้ความรู้สึกเชี่ยวชาญและความรู้สึกปลอดภัยยิ่งนัก
แควกแควก มันเป็นเพราะเสื้อผ้าของเจ้าที่ถอดยากถอดเย็นนัก เพียงแค่ลงมือตัดออกมา เสื้อผ้าอาภรณ์ของหลานจิ่วชิงก็ถูกตัดขาดออกจากกันในทันที
อย่างไรก็ตาม เฟิ่งชิงเฉินย่อมไม่มีวันใช้ประโยชน์จากอันตรายที่ผู้อื่นต้องเผชิญอยู่ เพื่อมาหาความสุขให้ตนเองอย่างแน่นอน นางเป็นหมอ นางย่อมยึดถือในจรรยาบรรณวิชาชีพของตนเอง นางย่อมไม่เหมือนแพทย์ในโรงพยาบาลบางแห่งที่ดูถูกคนไข้
บาดแผลอาการบาดเจ็บส่วนใหญ่ของหลานจิ่วชิงล้วนแต่อยู่ข้างบนร่างกาย ฉะนั้นแล้ว เฟิ่งชิงเฉินจึงตัดเพียงแค่เสื้อผ้าอาภรร์บางส่วนที่อยู่ด้านบนเท่านั้น ส่วนด้านล่าง ?
เฟิ่งชิงเฉินไว้หน้าเขาด้วยการหลงเหลือเพียงแค่กางเกงเอาไว้ให้ก็แล้วกัน
ที่จริงแล้ว ยามที่หยวนชิงหลิงจับกรรไกรขึ้นมานั้น พร้อมกับแตะไปที่ลำตัวของหลานจิ่วชิง หลานจิ่วชิงก็ได้สติฟื้นคืนขึ้นมาในทันที
เขามีสันชาตญาติในการระวังตัวตนสูงมาก เมื่อสัมผัสได้ถึงไอเย็นเข้ามาสัมผัสร่างกายของตนนั้น เกรงว่า แม้แต่เขาที่สลบไม่ได้สติไป อย่างไรร่างกายก็ย่อมต้องแสดงสัญชาตญาณในการระแวดระวังภัยออกมา
หากมิใช่ว่า เขาเชื่อใจในเฟิ่งชิงเฉิน ในยามที่เฟิ่งชิงเฉินลงมือพร้อมกับกรรไกรนั้น นางคงได้ตายไปแล้ว
เพราะความเชื่อใจ หลานจิ่วชิงจึงมิได้เคลื่อนไหวร่างกายออกมา อีกทั้งยังแสร้งหมดสติไปตามเดิม เขาอยากจะรู้นัก ว่าสตรีตรงหน้าคิดจะทำเช่นไรต่อไป
หากว่าใช้โอกาสเช่นนี้ ในการลอบทำร้ายเขา เช่นนั้น เฟิ่งชิงเฉินก็ย่อมไม่โอกาสเห็นเดือนเห็นตะวันในวันพรุ่งนี้แล้ว แต่หากนางกล้าที่จะแตะต้องหน้ากากสีเงินของเขา นางก็ย่อมไม่โอกาสรอดไปเห็นดวงอาทิตย์ในวันรุ่งขึ้นอีกเช่นกัน
สุดท้ายแล้ว
เขาพลันรู้สึกได้ว่า เสื้อผ้าอาภรณ์ของตนกำลังถูกเฟิ่งชิงเฉินตัดออกจนหมดเลย
ฟึบ สีหน้าของเขาพลันรู้สึกเห่อร้อนขึ้นมาในทันที แม้แต่ใบหูก็ยังขึ้นสีแดงระเรื่อ โดยไม่สามารถสะกดกลั้นความอับอายลงไปได้ หลานจิ่วชิงจึงได้แต่ปลอบใจกับตนเองไปว่า หากมิได้รับอันตรายใด ๆ เขาก็จะแสร้งหมดสติไปเช่นเดิม
"เอ๋? ทำไมอุณภูมิสูงขึ้นได้เล่า ไข้ขึ้นหรือ เมื่อครู่อาการยังดี ๆ อยู่เลยมิใช่หรือ?"
เมื่อเฟิ่งชิงเฉินตัดเสื้อผ้าอาภรณ์ของหลานจิ่วชิงเสร็จแล้วนั้น ก็พลันพบว่าหลานจิ่วชิงมีอาการไข้ขึ้น แววตาของนางพลันฉายความกังวลออกมา พร้อมทั้งค่อย ๆ อังไปที่หน้าผากของหลานจิ่วชิงด้วยความเป็นห่วง
เฮอะเฮอะ เฟิ่งชิงเฉินนะหรือจะไปคิดได้ ว่าหลานจิ่วชิงในยามนี้กำลังเขินอายอยู่ ทว่า ที่จริงแล้ว หลานจิ่วชิงก็กำลังเป็นไข้เนื่องพิษที่เกิดจากบาดแผลเช่นกัน
เฟิ่งชิงเฉินพลันรีบร้อนนำยาลดไข้ออกมาจากกระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะ ด้วยทักษะอันเชี่ยวชาญของนาง แม้จะหลับตาอยู่ นางก็สามารถหยิบเข็มฉีดยาออกมาได้ ทั้งยังเตรียมตัวที่จะฉีดยาลดไข้ให้กับหลานจิ่วชิงอีกด้วย
แต่เดิมนางอยากจะฉีดยาที่ก้นของหลานจิ่วชิง ทว่า เมื่อคิดไปคิดมา นางพลันรู้สึกว่าฉีดที่มือแกรงว่าจะเหมาะสมกว่า หากบุรุษผู้นี้ล่วงรู้เข้า ว่านางเลิกกางเกงเขาขึ้นมาเพื่อจะฉีดยาที่ก้นของเขาละก็ เกรงว่ากำแพงจวนขอขิงนางคงได้ถล่มลงมาแน่นอน
หลังจากที่ฉีดยาลดไข้ให้เขาแล้วนั้น เฟิ่งชิงเฉินก็พลันนำแอกกอฮอล์ออกมา เพื่อจัดการกับบาดแผลตามตัวต่าง ๆ ให้กับหลานจิ่วชิง ถึงแม้ว่านางจะไม่สามารถมองเห็นได้ชัดมากนัก เฟิ่งชิงเฉินจึงได้แต่เร่งรีบจัดการกับบาดแผลให้เขาแทน
แอลกอฮอล์ขวดใหญ่ถูกเทลงบนบาดแผลของหลานจิ่วชิงในทันที เฟิ่งชิงเฉินค่อย ๆ นำก้านสำลีทางการแพทย์ เช็ดไปรอบ ๆ บาดแผลอย่างง่าย ๆ พยายามที่จะทำให้รอบบาดแผลของเขาสะอาดมากที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้บาดแผลเกิดการติดเชื้อ อีกทั้งการใส่ยาลงไปในบาดแผลนั้น เกรงว่าอาจจะต้องรอจนถึงวันพรุ่งนี้เช้า
อีกทั้งบาดแผลตรงทรวงอกก็เกิดการฉีกออกจากกัน เฟิ่งชิงเฉินจึงได้ช่วยเขาจัดการมันไปเล็กน้อย ใส่ยาเข้าไป พร้อมทั้งทำการเย็บแผลและช่วยพันแผลใหม่อีกครั้ง แต่ทำมันในยามนี้ อย่างไรก็ไม่ค่อยสะดวกนัก อย่าวไรคงตอนรุ่งฟ้าสาง
สิ่งที่ยากลำบากที่สุด ก็คือกระดูกที่หัก เฟิ่งชิงเฉินสามารถต่อมันกลับเข้าไปตามเดิมได้ แต่ทว่า สถานการณ์ในยามนี้ เฟิ่งชิงเฉินเองก็ไม่อยากจะลงมือด้วยความประหมาด หากนางทำแล้วเกิดข้อผิดพลาดอันใดขึ้นมา ย่อมต้องถูกหลานจิ่วชิงโกรธแค้นมากเป็นแน่
หลังจากที่นางเมินเฉยต่ออาการกระดูกของหลานจิ่วชิงนั้น เฟิ่งชิงเฉินก็ทำการเก็บข้าวของของตนเอง พร้อมทั้งถอดเสื้อตัวนอกของตนมาคลุมไว้บนร่างของหลานจิ่วชิง
"หลานจิ่วชิง สิ่งที่ข้าทำได้ก็มีเพียงเท่านี้ เจ้าก็เข้มแข็งหน่อยเถิด อดทนผ่านวันพรุ่งนี้ไปให้ได้ ข้าจักได้ทำแผลให้เจ้าใหม่อีกครั้ง"
พูดจบ เฟิ่งชิงเฉินพลันหาวออกมา พร้อมทั้งขยี้ตาไปมาด้วยความงัวเงียครู่หนึ่ง แต่เดิมนางอยากจะนั่งลงพักผ่อน ทว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ อย่างไรนางก็ต้องยืนขึ้น พร้อมทั้งเดินไปมาไม่หยุด
"นอนไม่ได้ ข้านอนไม่ได้ หากมานอนข้างนอกในยามนี้ อย่างไรคงไม่พ้นเป็นหวัดไปแน่ หมออย่างไรก็ไม่อาจทำการรักษาตนเองได้ เฟิ่งชิงเฉิน อดทนเอาไว้ หากเจ้ากลายเป็นคนป่วยไป เรื่องทุกอย่างต้องยุ่งยากขึ้นแน่ ๆ "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...