นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 490

เสด็จอาเก้าไม่รู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินกำลังคิดอะไร แต่เขาเข้าใจเรื่องศักดิ์ศรีของเฟิ่งชิงเฉิน ศักดิ์ศรีของบุตรีแห่งเฟิ่งหลีและเข้าใจดีว่าสิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินต้องแบกรับหมายถึงอะไร

ในโลกนี้บุรุษสามารถมีภรรยากี่คนก็ได้ แต่ชายผู้เป็นสามีของบุตรีของเฟิ่งหลีนั้นทำไม่ได้ แม้ว่าจะเป็นองค์จักรพรรดิหรือเสด็จอาเก้าก็จะมีหญิงไม่ได้ ไม่เพียงแต่รับอนุไม่ได้เท่านั้น แม้แต่สาวใช้อุ่นเตียงก็ห้ามมี

ผู้ชายของบุตรีของเฟิ่งหลีจะต้องทำได้ตั้งแต่แรกจนจบ หากมีความสัมพันธ์กับหญิงอื่นแล้ว ด้วยความรักศักดิ์ของนางแล้ว นางจะเดินจากชายผู้นั้นไปตลอดกาล

หากไม่มีใจนางก็จะไป หญิงอื่นทำไม่ได้ แต่บุตรีของเฟิ่งหลีทำได้ ยามนากรักใครสุดหัวใจ นางล้วนยอมทำทุกสิ่งเพื่อเขาได้ แต่เมื่อทำร้ายหัวใจของนางแล้ว แม้ว่านางจะรักเพียงใด นางก็สามารถปล่อยวางได้ทันที

เฟิ่งชิงเฉินที่เป็นบุตรีของแม่ทัพเฟิ่งหลี แม้ว่าตอนนี้นางจะยังไม่รู้จักตัวตนของนาง แต่นางก็มีศักดิ์ศรี ยามที่ตราประทับปรากฏบนตัวนางครั้งแรกก็ได้ย้ำเตือนเขาว่านางเป็นบุตรีของเฟิ่งหลี

ถ้าไม่ใช่เพราะปฏิกิริยาตอบสนองอันรวดเร็วของเขาปิดตาเฟิ่งชิงเฉินไว้ได้อย่างทันท่วงที เกรงว่าคงจะทำให้เฟิ่งชิงเฉินสงสัย แม้ว่าความกังวลนั้นจะไม่สดใส แต่ก็พอที่จะทำให้สะดุดตาแล้ว

ความน่าเสียดายเพียงอย่างเดียวก็คือเมื่อความกังวลนั้นปรากฏขึ้น เขาก็มึนงงอยู่ครู่หนึ่งและมองไม่ชัด

แต่นี่ไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งสำคัญก็คือเสด็จอาเก้ารู้ว่าเขามีเฟิ่งชิงเฉิน เมื่อเขาได้บุตรีของเฟิ่งหลีแล้ว เขาก็ต้องมีนางเพียงคนเดียว มิฉะนั้นนาจะทิ้งเขาไปและใช้ดาบที่นางสะพายหลังไว้ตัดสายใยรักจนขาดสะบั้น

“ชิงเฉิน ข้าจะไม่มีผู้หญิงคนไหนอีกแล้ว จะไม่มีผู้หญิงคนไหนอีกเลยตลอดกาล” นี่คือคำสัญญา คำสัญญาที่สำคัญกว่าตำแหน่งที่เขาต้องมอบให้นาง

ตำแหน่งภรรยาไม่ได้รับประกันว่านางจะเป็นเพียงคนเดียว คำพูดประโยคนี้ต่างหากที่รับประกันว่านางจะเป็นเพียงคนเดียว

น่าเสียดายที่ไม่ว่าในยามเสด็จอาเก้าจะจริงจังและจริงใจเพียงใด เฟิ่งชิงเฉินก็ยังคงไม่เชื่อ

คำว่ารัก ฟังได้เท่านั้น ถ้าหากคิดจริงจังก็โง่เขลานัก

สิ่งที่ผู้ชายพูดบนเตียงเชื่อได้งั้นหรือ? คิดว่านางโง่หรือไง

เฟิ่งชิงเฉินไม่ตอบ นางเพียงแต่ยิ้มหยันและซุกไซร้เสด็จอาเก้าเหมือนลูกแมวขี้เกียจตัวหนึ่ง

ผ้าสีขาวรอบเอวของเสด็จอาเก้าทำให้นางรู้สึกไม่สบาย แต่เมื่อคิดได้ว่าเสด็จอาเก้าบอกว่านี่เป็นชุดฝึกของเขา เฟิ่งชิงเฉินก็หยุดคิดเรื่องนี้ จริงๆ แล้วนางไม่กล้าคิดต่างหาก

สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้กะทันหันและรวดเร็วเกินไป นางไม่ได้เตรียมใจไว้เลยแม้แต่น้อย ในขณะที่เสร็จกิจแล้วก็มีบางอย่างที่ทำให้เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกงงงวย

เฟิ่งชิงเฉินไม่กล้าบอกเสด็จอาเก้าว่ายามที่เขาสอดใส่เข้าไปครั้งแรก ส่วนหลังของนางมีความรู้สึกแสบร้อน

หลังจากที่เยื่อพรหมจารีขาดลง นางอยู่ในอาการสลบไสลอยู่เป็นเวลานาน เมื่อนางได้สติขึ้น เสด็จอาเก้าก็สำเร็จความใคร่ไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อดูท่าทางของเสด็จอาเก้าแล้ว เขาดูเหมือนจะไม่รู้ว่านางสลบไปอย่างแน่นอน

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางก็ยังคิดหาเหตุผลไม่ออก เฟิ่งชิงเฉินจึงทำได้เพียงโทษว่าร่างกายของนางอ่อนแอเกินกว่าจะต้านทานแรงปรารถนาของเสด็จอาเก้าได้

นางเสียใจเล็กน้อยที่พลาดครั้งแรกไป ในชีวิตของนางมีครั้งแรกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แม้ว่าคนจะบอกว่าครั้งแรกมีเพียงความเจ็บปวดและไม่มีความสุข นางก็ยังอยากรู้ว่ามันรู้สึกอย่างไร

น่าเสียดายที่ร่างกายของนางอ่อนแอเกินกว่าจะต้านทานความต้องการของเสด็จอาเก้าได้ ครั้งแรกของนางจึงผ่านไปสภาพที่นางหมดสติ

ห้องเงียบสนิท ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเวลาผ่านไปอย่างยาวนาน เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกง่วง นางหาวและซุกตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเสด็จอาเก้า เมื่อนึกถึงท่าทางเคร่งขรึมในยามปกติของเสด็จอาเก้าแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็หยอกเย้า “เสด็จอาเก้า ในใจของท่าน ข้าเป็นใครหรือ?”

ความแข็งแกร่งในการต่อสู้บนเตียงของนางสู้เขาไม่ได้ อย่างน้อยก็สามารถใช้คำพูดเล่นงานเขาสักหน่อย เฟิ่งชิงเฉินคิดอย่างสนุกสนานว่าเสด็จอาเก้าจะพูดว่า "นางเป็นดังแก้วตาดวงใจที่เขาทะนุถนอมไว้ในมือราวกับไข่ในหิน" หรือคำหวานอะไรจำพวกนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ