นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 541

สรุปบท บทที่ 541 การแสดงความรู้สึกที่ทำให้เสด็จอาเก้าเขินอาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

บทที่ 541 การแสดงความรู้สึกที่ทำให้เสด็จอาเก้าเขินอาย – ตอนที่ต้องอ่านของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

ตอนนี้ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 541 การแสดงความรู้สึกที่ทำให้เสด็จอาเก้าเขินอาย จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เฟิ่งชิงเฉินยืนนิ่ง พยักหน้า สื่อความหมายว่าเห็นด้วย

หากนางเข้าใจถูกต้อง คำพูดของเสด็จอาเก้าสื่อความหมายได้ว่าให้นางทำพอเป็นพิธีก็พอแล้ว ไม่ต้องรักษาเย่เย่จนหายดี แค่ทำให้เย่เย่ไม่ตายอยู่ที่นี่ก็พอแล้ว

อันที่จริง เฟิ่งชิงเฉินก็กะว่าจะทำเช่นนี้อยู่แล้ว ถึงแม้ว่าการทำเช่นนี้จะขัดต่อจรรยาบรรณวิชาชีพ แต่นางก็ไม่ได้มีเจตนาทำลายชีวิตคน เพียงแค่ยืดเวลาการเจ็บป่วยให้นานขึ้นก็เท่านั้น

หากไม่ทำเช่นนี้แล้ว จะให้เย่เย่มาคุกเข่าอ้อนวอนนางได้อย่างไร คนอย่างเฟิ่งชิงเฉินพูดคำไหนคำนั้น คำพูดที่นางเคยพูดไป ถึงอย่างไรก็ต้องทำให้ได้

หมอก็เป็นคนเหมือนกัน มีความรู้สึกทั่วๆไป ก่อนหน้านี้เย่เย่เคยปฏิเสธการรักษาจากนาง และบางครั้งก็ถึงขั้นทำให้นางขายหน้า ตอนนี้เขาต้องการความช่วยเหลือจากนาง ก็ต้องมีของแลกเปลี่ยนเสียหน่อย มิฉะนั้นศักดิ์ศรีของนางก็คงจะไม่เหลือ

หมอก็เป็นเพียงอาชีพๆหนึ่ง ไม่ใช่เทพเจ้าชั้นสูง นางไม่ได้ใจดีจนยอมให้คนตบหน้าด้านซ้าย แล้วจะหันใบหน้าด้านขวาไปให้คนตบซ้ำ

เฟิ่งชิงเฉินเดินไปเปิดผ้าห่มบนร่างของเย่เย่ ใบหน้าของเย่เย่ดูเจ็บปวด เขาหลับตาพร้อมกัดริมฝีปาก ดูเหมือนว่ากำลังอดกลั้นกับความเจ็บปวดและความอัปยศ

ใบหน้าที่เจ็บปวด ร่างกายที่แน่นิ่ง เฟิ่งชิงเฉินเห็นแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า......

หากไม่ใช่เพราะในห้องมีคนเยอะ เฟิ่งชิงเฉินก็คงสงสัยว่าเย่เย่ถูกคนขืนใจมา ก็สีหน้าของเขามันเหมือนคนที่ถูกขืนใจเลยนี่นา เล่นเอานางไม่กล้าลงมือรักษาเลย

เหอะ......ร่างกายและเนื้อหนังมังสาที่สูงส่ง หากไม่ได้ข้าท่านจะมีทางรอดไหม

ผ้าห่มที่เย็นเฉียบและเนื้อตัวที่ร้อนผ่าว ดูก็รู้ว่าอาการของเขาเป็นอย่างไร ก่อนอื่น จะต้องทำการลดไข้ให้ได้ก่อน ส่วนเรื่องอื่นๆนอกจากนี้ค่อยว่ากันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน มียาถอนพิษอยู่ เย่เย่อยู่รอดถึงพรุ่งนี้ได้สบาย

"เสด็จอาเก้า ช่วยสั่งคนให้หาเสื้อผ้าสะอาดๆและผ้าห่มมาเปลี่ยนให้ท่านเย่ด้วยนะเพคะ เดี๋ยวหม่อมฉันจะให้ท่านเย่ทานยาลดความร้อน" ยาลดความร้อนก็คือยาลดไข้นั่นเอง อาการของเย่เย่ในตอนนี้ หากลดไข้ไม่ทันเวลา ความร้อนในร่างกายอาจทำให้เย่เย่ทรุดลงมากกว่านี้

ส่วนเรื่องเสื้อผ้าที่เปรอะเปื้อนก็ควรรีบๆเปลี่ยน อย่าว่าแต่เย่เย่ที่เนื้อตัวมีบาดแผลเลย แม้แต่คนปกติที่แข็งแรงก็ไม่มีใครทนได้ เสด็จอาเก้าร้ายกาจไม่เบาเลย แต่ว่าช่างถูกใจนางยิ่งนัก

เฟิ่งชิงเฉินหันไปยิ้มแฉ่งให้เสด็จอาเก้า และอาศัยจังหวะที่ไม่มีใครเห็น ยกนิ้วโป้งขึ้นมาให้กับเขาพร้อมกับขยับปากโดยไม่มีเสียงว่า "ทำได้ดีมาก ข้าชอบ!"

นี่ไม่ใช่การบอกรักแต่เป็นการกล่าวชม ทว่าเสด็จอาเก้ากลับคิดเป็นอย่างอื่น

หน้าแดง......

เสด็จอาเก้าหน้าแดงใหญ่แล้ว แดงแม้แต่กระทั่งหู รัชทายาทที่สังเกตเห็นอากัปกิริยาของเสด็จอาเก้าแล้วก็รีบหันหน้าไปทางอื่น เขาแสร้งทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ก็แอบถอนหายใจอยู่ในใจ

เขาคงประเมินตำแหน่งของเฟิ่งชิงเฉินที่อยู่ในใจเสด็จอาเก้าต่ำไป เขาคาดเดาผิดไปแล้ว วางหมากผิดตัวเดียวก็ทำให้เสียแผนที่วางไว้ทั้งหมด

เสด็จอาเก้ากระแอมไอกลบเกลื่อนความขวยเขิน หลังจากนั้นก็กล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง "มัวทำอะไรอยู่ ไม่ได้ยินที่แม่นางเฟิ่งบอกหรือ ยังไม่รีบไปจัดการอีก"

"พ่ะย่ะค่ะ"

รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินแช่มชื่นมากกว่าเดิม นางขยิบตาให้เสด็จอาเก้า เสด็จอาเก้ารีบหันไปทางอื่นพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก แววตาของเขาเต็มไปด้วยความหวานชื่น......

ด้วยท่าทางเช่นนั้น ไม่รู้ว่าความห้าวหาญและความเย็นชาที่เคยมีมาไปไหนแล้ว แต่ความรู้สึกหวานชื่นของเสด็จอาเก้านั้น คนอื่นอยากเห็นคงต้องฝันไปก่อน เสด็จอาเก้าปรับสีหน้าอย่างเร็วไว นอกจากเฟิ่งชิงเฉินและรัชทายาทแล้ว ก็ไม่มีใครได้พบเห็นความผิดปกติของเสด็จอาเก้า

"เสด็จอาคงไม่ทิ้งพวกเราไว้ที่นี่โดยไม่บอกไม่กล่าวหรอกกระมัง?" รัชทายาทกล่าวด้วยความไม่พอใจ หลังเห็นเสด็จอาเก้าเดินห่างออกไปเรื่อยโดยไม่สนใจชะตากรรมของพวกเขา

"รัชทายาทไม่ทรงคิดหรือว่าเสด็จอาเก้าจะเสด็จไปหาห้องใหม่ให้พวกเราอยู่? หรือไม่ก็ไปหาสาวใช้เข้ามาดูแลพวกเรา?" ตงหลิงจื่อลั่วกล่าวประชดประชัน เกิดเรื่องเช่นนี้แล้ว รัชทายาทคงไม่คิดว่าเสด็จอาเก้าจะยังคงปกป้องเขาอยู่หรอกกระมัง?

นับจากวันนี้เป็นต้นไป ตำแหน่งรัชทายาทที่อยู่ภายในใจของเสด็จอาเก้ามิได้พิเศษเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว ต่อให้รัชทายาทจะไม่อยากเผชิญหน้ากับเรื่องนี้ แต่ก็มิอาจเปลี่ยนแปลงความจริงได้

รัชทายาทไม่ตอบ แต่กลับพูดพึมพำว่า "นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว ไม่รู้ว่าเสด็จอาเก้าจะทรงนึกถึงพวกเราหรือเปล่า"

เมื่อรัชทายาทเปรยขึ้นเช่นนี้ คนทั้งสี่ที่อยู่ภายในห้องก็ต่างพากันหิว โดยเฉพาะเย่เย่ แต่ดูจากองครักษ์พวกนี้แล้วคงไม่มีใครเตรียมของกินมาให้พวกเขาแน่ และด้วยสถานภาพของพวกเขา มีหรือจะยอมลดตัวไปขออาหารจากเหล่าองครักษ์ ตอนนี้พวกเขาจึงได้แต่อดทน......

เมื่อเฟิ่งชิงเฉินเดินออกมา เสด็จอาเก้าก็พานางไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เขารู้ดีว่าการชำระล้างร่างกายหลังรักษาคนเสร็จเป็นความเคยชินของนางแล้ว

เมื่อเฟิ่งชิงเฉินออกมาจากห้องน้ำก็ได้เวลาทานมื้อเที่ยงพอดี รัชทายาทและคนอื่นๆไม่มีอะไรกิน แต่ไม่ได้หมายความว่าคนบางคนจะไม่มีอะไรกิน เสด็จอาเก้าสั่งคนยกอาหารมาตั้งโต๊ะ แล้วรับประทานพร้อมกับเฟิ่งชิงเฉิน

วันนี้เสด็จอาเก้าใช้มือซ้ายทานข้าวอย่างคล่องแคล่ว และตอนนี้เองเฟิ่งชิงเฉินจึงได้สังเกตว่ามือขวาของเสด็จอาเก้าถูกซ่อนไว้ในแขนเสื้ออยู่ตลอด ทำให้นางไม่สามารถมองเห็นความผิดปกติใดๆได้

ผู้ชายคนนี้ตบตาเก่งจริงๆ!

แววตาเฟิ่งชิงเฉินดูร่าเริง นางวางตะเกียบลงแล้วเอามือขึ้นมาเท้าคาง แล้วเอาแต่จ้องมองเสด็จอาเก้า......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ