นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 564

มองไปดูเหมือนมายากล คีมห้ามเลือดในมือของเฟิ่งชิงเฉินหมุนไปมาอย่างมั่นคง วิธีการจัดการบาดแผลของเฟิ่งชิงเฉินและซุนซือสิงเหมือนกัน แต่เมื่อพิจารณาดีๆ จะพบว่าท่าทางของเฟิ่งชิงเฉินคล่องแคล่วกว่าซุนซือสิงมาก

องค์รัชทายาท ลั่วอ๋อง หยุนเซียว ตี๋ตงหมิงและตงหลิงจื่อลั่วทุกคนล้วนเป็นผู้มีความสามารถ มีหูตาว่องไว ทว่าต่อให้เป็นเช่นนั้น พวกเขาก็ยังมองไม่ทันว่าเฟิ่งชิงเฉินเคลื่อนไหวอย่างไร

มันช่างรวดเร็วเหลือเกิน!

มือเช่นนี้หากว่านำไปใช้ในการยิงอาวุธ คาดว่าคงไม่มีใครหลบได้ทัน น่าเสียดายที่พวกเขาไม่รู้ว่ามือของเฟิ่งชิงเฉินจะว่องไวเฉพาะการผ่าตัดเท่านั้น......

เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมง สองชั่วโมง สามชั่วโมง......

ท้องฟ้าเริ่มมืดมิด จากคำร้องขอของเฟิ่งชิงเฉิน ภายในห้องจึงได้จุดไฟสว่างขึ้น จนทำให้สว่างดุจดั่งกลางวัน ส่วนงานในมือของเฟิ่งชิงเฉินก็นับได้ว่ามาถึงขั้นตอนท้าย

เดิมทีหมอที่รักษาเย่เย่ก็ไม่เลว ประกอบกับเย่เย่ได้กินยาขับพิษเข้าไปแล้ว จึงทำให้แขนข้างซ้ายของเย่เย่ไม่ต้องตัดทิ้ง ยังพอจะรักษาไว้ได้บ้าง เพียงแต่ว่าไม่อาจถือของหนักได้อีกตลอดไป หรือไม่อาจยกขึ้นสูงได้ เรียกได้ว่ามือซ้ายของเขามีไว้ประดับเท่านั้น

การที่สามารถรักษามือข้างซ้ายของเย่เย่เอาไว้นับว่าเขาโชคดียิ่งนัก เดิมทีเฟิ่งชิงเฉินคิดว่ารอยงูกัดของเย่เย่ที่ปล่อยไว้ถึงสามวัน กล้ามเนื้อเริ่มเปื่อย ต้องตัดทิ้ง คิดไม่ถึงว่ายาของหุบเขาหมอเทวดาจะได้ผลดีกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก มิน่าเล่าที่มีราคาสูง เนื่องจากนี่คือยาลับเฉพาะที่มีคุณสมบัติดีเยี่ยม

การช่วยเหลือดำเนินติดต่อกันถึงสามชั่วโมงเต็ม ชีวิตของเย่เย่จึงได้รักษาไว้สำเร็จ มือก็พอจะเก็บเอาไว้อย่างหวุดหวิด เฟิ่งชิงเฉินถอนหายใจออกมาแล้วเตรียมเย็บแผลให้เย่เย่ นางใส่ยาวางมีดผ่าตัดลง ซูหว่านยืนอยู่ที่ประตูเมื่อเห็นเฟิ่งชิงเฉินและเย่เย่เต็มไปด้วยเลือด นางก็ตะโกนร้องออกมาเสียงดังก่อนจะวิ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็ว

“เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าจะทำสิ่งใด? อย่าทำร้ายพี่ชายข้า!”

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเมื่อกลางวันหรือไม่ เมื่อซูหว่านกรีดร้องขึ้นมาเสียงดังแสบหู ภายในห้องล้วนกำลังจับจ้องเฟิ่งชิงเฉิน ประกอบกับข้างนอกเต็มไปด้วยทหาร จึงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องของความปลอดภัย ทว่าการที่ซูหว่านปรากฏตัวขึ้นเช่นนี้พร้อมกับเสียงสูงแหลม ก็ทำให้ทุกคนสะดุ้งโหยง ทั้งที่เห็นซูหว่านพุ่งกายเข้าไปหาเฟิ่งชิงเฉิน กลับไม่มีใครรั้งนางไว้

“ซูหว่าน หยุดเดี๋ยวนี้” เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ตกใจเช่นคนอื่น นางเงยหน้าขึ้นมองเห็นแววตาของซูหว่าน วินาทีนั้นความชั่วร้ายแฝงเข้ามา เฟิ่งชิงเฉินไม่รู้ว่านางจะทำเรื่องใด จึงได้ตะโกนห้ามเอาไว้ก่อน แต่ดูเหมือนซูหว่านจะไม่ได้ยิน นางพุ่งเข้าไปหาเฟิ่งชิงเฉินหรืออาจจะเป็นเย่เย่ด้วยความรวดเร็ว

แย่แล้ว ซูหว่านต้องการทำร้ายเย่เย่

ท่ามกลางความรีบเร่ง เฟิ่งชิงเฉินเห็นในแขนเสื้อซูหว่านมีประกายของมีคม เมื่อคิดเชื่อมโยงว่ามีองค์รัชทายาทกับคนอื่นๆ อยู่ที่นี่ด้วย เฟิ่งชิงเฉินจึงได้เข้าใจว่าซูหว่านจะทำสิ่งใด

ซูหว่านต้องการให้ทุกคนเห็นว่าเย่เย่ตายในมือของเฟิ่งชิงเฉิน จะทำให้มีความแค้นต่อกันมากขึ้น

เจ้าเล่ห์! โหดร้ายยิ่งนัก!

เมื่อเกิดแสงประกายไฟ เฟิ่งชิงเฉินจึงรู้ได้ทันทีว่าซูหว่านตั้งใจจะทำสิ่งใด นางจึงปามีดผ่าตัดไปทางซูหว่านโดยไม่แม้แต่จะคิด

ซูหว่าน เจ้ารนหาที่เอง

“กรี๊ด......!” ซูหว่านกรีดเสียงร้องออกมา ร่างของนางชะงักลงเล็กน้อย

“เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าทำอันใด!” ท่านเจ้าเมืองเย่รีบลุกขึ้นเพื่อตั้งใจจะเข้าไปปกป้องซูหว่านท่ามกลางสายตาของทุกคน ดูเหมือนซูหว่านกำลังเป็นห่วงเย่เย่ แต่เฟิ่งชิงเฉินกลับเลือกลงมือไปที่นางโดยไม่คิดสิ่งใด

น่าเสียดายเหลือเกิน เมื่อสักครู่ท่านเจ้าเมืองเย่สูญเสียเลือดมากจนเกินไป ร่างของเขาจึงได้ผลกระทบเล็กน้อย ตอนที่เขาเดินทางมาถึงพบว่าไม่ทันแล้ว

“ฉึบ......!” มีดผ่าตัดกรีดลงไปบนใบหน้าของซูหว่านเป็นแนว จากนั้นร่วงลงสู้พื้นเสียงดังแล้วร่วงบนพื้นเต็มไปด้วยเลือด

ฉากที่เกิดขึ้นโดยกะทันหันนี้ทำให้ทุกคนถึงกับตกอกตกใจ องค์รัชทายาท หยุนเซียวและคนอื่นๆ มองไปทางมีดที่ตกอยู่บนพื้น แล้วหันไปมองเฟิ่งชิงเฉิน พบว่านางกำลังหยิบของจากกระเป๋ายาด้วยใบหน้าอันเย็นชาราวกับไม่เคยเกิดเรื่องใดขึ้นเลย

ช่างเยือกเย็นเหลือเกิน!

“กรี๊ด! ใบหน้าของข้า ใบหน้าของข้า!” ซูหว่านล้มลงไปที่พื้นแล้วรีบกุมหน้าของตัวเองเอาไว้ บัดนี้นางไม่มีกระจิตกระใจไปสนใจเรื่องอื่น รู้เพียงแค่ว่า ใบหน้าของนางจะเสียโฉมเพราะเรื่องนี้หรือไม่

“หว่านหว่าน เจ้าเป็นอะไร?” เดิมทีท่านเจ้าเมืองเย่ก็รู้สึกชื่นชอบซูหว่านที่มีความรู้ด้านตำราและเป็นกุลสตรี ประกอบกับที่ซูหว่านได้ช่วยเย่เย่เอาไว้ ด้วยการละทิ้งความเย่อหยิ่งของตน คุกเข่าลงต่อหน้าเฟิ่งชิงเฉินร้องไห้เฟิ่งชิงเฉินมาช่วยเหลือ ทำให้เจ้าเมืองเย่รู้สึกชื่นชอบนางและรู้สึก ติดค้างนางมากยิ่งขึ้น

“ท่านลุง ใบหน้าของข้า! เฟิ่งชิงเฉินทำข้าเสียโฉมแล้ว!” ซูหว่านร้องไห้แล้วกล่าวออกมา ของเหลวอุ่นๆ ไหลออกมาตามซอกนิ้ว ประกอบกับความเจ็บปวดบนใบหน้า ต่อให้ซูหว่านไม่ต้องส่องกระจก นางก็รู้ได้ว่านางได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า

วินาทีนี้ ซูหว่านรู้สึกอยากจะกินเลือดกินเนื้อของเฟิ่งชิงเฉินเหลือเกิน สตรีรู้สึกหวงแหนที่สุดก็คงเป็นใบหน้าของตนเอง เฟิ่งชิงเฉินทำลายชื่อเสียงของนางยังไม่เท่าไหร่ บัดนี้ยังต้องการทำลายรูปลักษณ์ภายนอกของนางด้วย!

หากใบหน้าเสียโฉม ตัวนางต่อตระกูลซูและต่อเย่เย่ก็นับว่าไร้ประโยชน์ทันใด

เลือดที่ไหลอาบซูหว่าน ทำให้ท่านเจ้าเมืองเย่รู้สึกขาดสติไปชั่วครู่ ประกอบกับบัดนี้สถานการณ์ของเย่เย่ดูดีขึ้นมาก ท่านเจ้าเมืองเย่จึงไม่มีเรื่องใดต้องกังวล เขาหันไปตะคอกใส่เฟิ่งชิงเฉินว่า “เฟิ่งชิงเฉิน อย่าคิดว่าเจ้าช่วยบุตรชายของข้าเอาไว้แล้วจะกระทำการได้พลการต่อหน้าข้าก็ย่อมได้ หากเรื่องนี้เจ้าไม่อธิบายให้ชัดเจน ก็จงชดใช้มาด้วยชีวิต!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ