นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 59

แต่ละคนในที่นั้นพากันวุ่นวายกันใหญ่ ทั้งน้ำทั้งบ๊วย ทำเอาเฟิ่งชิงเฉินแทบตาย ในที่สุดนางก็กลืนยาลงไปและไม่บ้วนออกมาอีก

"เฮ้อ เหนื่อยจัง" เฟิ่งชิงเฉินถูกทรมานเมื่อครู่เสียจนเหงื่อออกท่วมกาย นางพิงไปที่หัวเตียงโดยไม่ขยับเขยื้อน

การเจ็บป่วยนี่ช่างลำบากเหลือเกิน

ทุกคนก็ได้พากันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเช่นกัน ดีเหลือเกินที่ในครั้งนี้นางดื่มยาเข้าไปจนหมด

"เสียดายเหลือเกิน อีกก้าวชุดที่เหลือคงต้องทิ้ง" หมอซุนเดินถือถ้วยเปล่าจากไป ประโยคของเขาเมื่อครู่ไม่รู้ว่าเสียดายหรือดีใจกันแน่

"อีกเก้าชุด? หมายความว่าอย่างไร?" เฟิ่งชิงเฉินเอ่ยถามด้วยความงุนงง

โจวสิงหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วอธิบายให้แก่เฟิ่งชิงเฉินฟัง

ที่แท้......เฟิ่งชิงเฉินมีอาการอาเจียนปฏิเสธการรับยาอย่างหนัก ยาที่พวกเขาต้มให้นางดื่มหลายวันมานี้ล้วนจะต้องต้มถึงสิบชุด ทั้งสิบชุดนี้ได้นำมาป้อนเฟิ่งชิงเฉินทั้งหมด แต่นางกลับไม่สามารถกลืนมันลงไปได้แม้แต่ชุดเดียว

ขายหน้าเหลือเกิน!

ใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินเริ่มแดงเรื่ออีกครั้ง

ตัวนางเป็นถึงหมอ แต่กลับกลัวการกินยา

เมื่อเผชิญหน้ากับแววตาอันดูสนุกสนานที่มองมาของซูเหวินชิงและหวังชี เฟิ่งชิงเฉินก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดใจ ชายสองคนนี้ช่างน่ารำคาญเหลือเกิน เฟิ่งชิงเฉินเปิดผ้าห่มขึ้นแล้วซุกหน้าของตนไปในผ้าห่มก่อนจะตะโกนด่าออกมาว่า "ออกไป ออกไป ออกไปให้หมด!"

ฮ่าๆๆ

ข้างหูของเฟิ่งชิงเฉินมีเสียงหัวเราะของหวังชีกับซูเหวินชิงดังขึ้นอย่างไร้มารยาท

…….

อาการเจ็บป่วยของเฟิ่งชิงเฉินนั้นค่อนข้างรุนแรงและเกิดขึ้นกระชั้นชิด แต่ว่าก็หายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน วันที่สองนางก็สามารถเดินลงจากเตียงได้ ในตอนบ่ายนางได้เปลี่ยนเสื้อผ้าจัดแต่งผม ใบหน้ามีเส้นเลือดฟาด มองดูเหมือนไม่ได้เจ็บป่วยแล้ว

โจวสิงได้แต่เอ่ยชื่นชมว่า ความสามารถในการฟื้นฟูร่างกายของเฟิ่งชิงเฉินนั้น คนธรรมดาไม่อาจเปรียบเทียบได้เลย

แน่นอนว่าไม่เพียงแค่สภาพร่างกายเท่านั้น นางยังมีความสามารถการเยียวยาด้านจิตใจด้วย

เขาและซูเหวินชิงล้วนคิดว่านางถูกลั่วอ๋องเหยียดหยามศักดิ์ศรีเสียจนอับอายขายหน้า ในพระราชวังนี้คาดว่าเฟิ่งชิงเฉินคงจะมีปมในใจและไม่อาจหาความสุขได้

พวกเขาได้ผลัดเวรกันตั้งใจจะมาปลอบโยนเฟิ่งชิงเฉินว่าอย่าคิดมาก แต่คิดไม่ถึงว่า......

เฟิ่งชิงเฉินดูปกติราวกับไม่มีเรื่องใดเกิดขึ้นกับนางเลย หลังจากที่นางได้สติฟื้นขึ้นมาแล้ว และเอ่ยถึงเรื่องที่นางคุกเข่าอยู่ที่หน้าประตูเมือง ถูกชาวบ้านเอาผักและไข่โยนใส่ นางก็สามารถเอ่ยถึงได้อย่างเปิดเผยเป็นปกติ

สิ่งนี้ทำให้โจวสิงและคนอื่นงุนงงเหลือเกิน เฟิ่งชิงเฉินหัวเราะออกมาเบาๆ โดยไม่ได้อธิบายสิ่งใด ชีวิตนั้นเป็นของนาง ไม่มีใครจำเป็นจะต้องมาช่วยนางรับผิดชอบ

ส่วนร่างกายนี้น่ะหรือ มีเพียงแค่นางคนเดียวเท่านั้นที่เข้าใจ แม้ว่าอาการเจ็บป่วยจะหายไปอย่างรวดเร็ว แต่นางก็สูญเสียพลังภายในไปมาก นอกจากนี้นางจะต้องบำรุงสุขภาพรักษาให้ดี ไม่อย่างนั้นอาจจะก่อให้เกิดผลในระยะยาวได้

น่าเสียดายเหลือเกินที่นางแม้จะเจ็บป่วยแต่ก็ไม่มีวาสนาพอ ในฐานะหมอนางยังคงต้องทำงานต่อไป เพราะอะไรก็แล้วแต่ล้วนรอได้ มีเพียงการรักษาผู้ป่วยเท่านั้นที่ไม่อาจรอได้ เพราะผู้ป่วยอาจไม่อยู่รอไหว

หลังจากที่อาการเจ็บป่วยหายดีแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ได้หดหัวอยู่แต่ในบ้าน นางไม่รู้หรอกว่าดวงตาของหวังจิ่นหลิงจะต้องได้รับการรักษาหรือไม่ นางรู้เพียงว่าในวันนี้จะต้องเดินทางไปที่จวนเซี่ยเพื่อเปลี่ยนยาให้ฮูหยินรองเซี่ย

ขณะเดียวกันก็ต้องสนทนาปรึกษาถึงเรื่องเวลาและสถานที่ซึ่งใช้ในการผ่าตัดด้วย

การผ่าตัดเพื่อคลายท่อนำไข่ หากจะบอกว่าเป็นการผ่าตัดใหญ่ก็ไม่ใหญ่ จะเล็กก็ไม่เล็ก ความประสบผลสำเร็จนั้นไม่ใช่ร้อยละร้อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่อาจประสบผลสำเร็จได้เลย เนื่องจากสภาพแวดล้อมในการทำการผ่าตัดและการฟื้นฟูหลังผ่าตัดค่อนข้างสำคัญมาก

สิ่งนี้จำเป็นจะต้องได้รับการจัดการอย่างรอบคอบ ในตงหลิงแห่งนี้นางไม่มีความสามารถพอ แต่ฮูหยินรองเซี่ยมี

ถึงจะเป็นอูฐที่ผอมตายอย่างไรก็ใหญ่กว่าม้า แม้ว่าบ้านรองของตระกูลเซี่ยจะมีอำนาจไม่มากนัก แต่ในวันนี้นางจำเป็นจะต้องเงยหน้ามองดูพวกเขา นางจำเป็นจะต้องให้ฮูหยินรองเซี่ยจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดใดขึ้น

เมื่อเห็นเฟิ่งชิงเฉินเดินถือกระเป๋ายาเตรียมตัวจากไป สีหน้าของโจวสิงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาต้องการจะหาข้ออ้างมาหยุดไม่ให้เฟิ่งชิงเฉินออกไป

สมองของเขาแล่นพลุ่งพล่าน โจวสิงใช้มือกุมไปที่บาดแผลบริเวณหน้าอก "โอ้ย เจ็บจริง"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ