นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 61

"คุณหนูเฟิ่ง ต้องขออภัยจริงๆนะเจ้าคะ ฮูหยินรองเองก็ไม่มีทางเลือก นายท่านสั่งไว้ว่า ไม่ให้ฮูหยินรองกับคุณหนูเฟิ่งไปมาหาสู่กัน หากนายท่านรู้เข้า จะต้องสั่งลงโทษฮูหยินรองแน่ๆเลยเจ้าค่ะ"

"แถมยังสั่งไว้อีกว่า......หากคุณหนูเฟิ่งมาที่จวนเซี่ย ก็ให้เชิญคุณหนูเฟิ่งกลับไปในทันที คือฮูหยินรองเกรงว่าคุณหนูเฟิ่งจะต้องมาเดือดร้อนในจวนเซี่ย จึงให้ข้ามารอบอกคุณหนูเฟิ่งอยู่ที่นี่"

นัยน์ตาของสาวใช้ดูเหมือนรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก

นางเห็นเฟิ่งชิงเฉินมาคอยดูแลสุขภาพฮูหยินรอง นางไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณหนูเฟิ่งที่ละเอียดอ่อนและอ่อนโยนคนนี้ จะเป็นหญิงอื้อฉาวที่ใครต่อใครต่างพูดถึง

"ข้ารู้แล้ว" เฟิ่งชิงเฉินพยักหน้าและขอบคุณสาวใช้ นางมีสีหน้านิ่งเฉย ไม่เป็นเดือดเป็นร้อนแต่อย่างใด

เมื่อเห็นสาวใช้ท่าทางไม่ค่อยสบายใจ เฟิ่งชิงเฉินจึงส่งยิ้มให้นาง จากนั้นจึงเปิดกล่องยา พร้อมกับหยิบขวดยาและผ้าพันแผลส่งไปให้สาวใช้ ก่อนจะสอนนางเรื่องการเปลี่ยนผ้าพันแผล แล้วจึงหยิบยาแก้อักเสบมา 1 ห่อ เอาไว้ให้ฮูหยินรองทานวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 2 เม็ด

"คุณหนูเฟิ่งเป็นคนดีจริงๆเลยนะเจ้าค่ะ" สาวใช้รู้ทั้งรู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินกำลังทุกข์ใจอยู่ แต่นางก็ยังคงฝืนยิ้ม แถมยังห่วงใยสุขภาพฮูหยินรอง สาวใช้ค่อยๆน้ำตาคลอ

แม้ว่าผู้ที่เป็นเพียงสาวใช้จะไม่ได้รับการศึกษาเท่าที่ควร แต่พวกนางกลับรู้จักประเมินสถานการณ์

การที่คุณหนูเฟิ่งกลับเข้ามาในเมืองในสภาพที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ย นางไม่ได้ไปทำเรื่องอื้อฉาว จะต้องมีคนใส่ร้ายนางเป็นแน่

หากนางไปคบชู้สู่ชาย ไยจึงทำให้ตนเองต้องมีสภาพน่าสังเวชเช่นนั้น มีผู้หญิงที่ไหนบ้างที่ไม่คิดจะปกป้องชื่อเสียงของตัวเอง คุณหนูเฟิ่งจะทำลายชื่อเสียงตัวเองเพื่ออะไร ผู้หญิงตัวคนเดียวเช่นนาง มีหรือจะทำเรื่องราวเช่นนั้นได้

ไม่ต่างอะไรจากผู้ที่เป็นสาวใช้ ชะตาชีวิตของตนเองต้องมาตกอยู่ในกำมือของผู้อื่น

เฟิ่งชิงเฉินส่ายหน้า "ข้าก็แค่ทำไปตามหน้าที่ เอาล่ะ นี่ก็ได้เวลาที่ข้าต้องกลับแล้ว"

เฟิ่งชิงเฉินมอบยาให้สาวใช้แล้วหันหลังเดินจากไปโดยไม่มองเข้าไปในจวนเซี่ย

ตระกูลเซี่ย!

สวดมนต์ภาวนากันไปก่อนได้เลย หากในวันข้างหน้า ตระกูลเซี่ยมีเรื่องรบกวนข้า ข้า เฟิ่งชิงเฉินจะเป็นคนทำให้คนตระกูลเซี่ยมาคุกเข่าขอร้องข้าให้เข้าไปในจวนเซี่ยเอง

ในใจแม้จะเดือดปุดๆ แต่ใบหน้ากลับไม่แสดงความรู้สึกใดๆ เฟิ่งชิงเฉินหันหลังกลับและเดินจากไปด้วยท่าทางไร้ชีวิตชีวา

หลานจิ่วชิงตามนางไปติดๆ เขามองดูเฟิ่งชิงเฉินแล้วถอนหายใจออกมา

สิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาก็มีส่วนเกี่ยวข้อง

หากการที่นางตื่นขึ้นมาที่ประตูเมืองในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ยนั้นเป็นเพราะตงหลิงจื่อลั่ว สิ่งที่นางกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ก็คงต้องเป็นเพราะหลานจิ่วชิงเสียแล้ว

เขาเชื่อมั่นว่าคนฉลาดอย่างเฟิ่งชิงเฉินจะเข้าใจทุกอย่างเป็นอย่างดี

หลานจิ่วชิงตามมาส่งเฟิ่งชิงเฉินถึงจวนเฟิ่ง เขาพบว่าพวกคนที่เคยมายืนล้อมจวนเฟิ่งหายไปกันหมดแล้ว เขามองภาพนั้นด้วยสายตาเย็นชา

ซีหลิงเทียนเหล่ย ซีหลิงเหยาหวา เราคงมีเรื่องต้องคุยกัน

......

เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกหดหู่เล็กน้อย แต่เมื่อเห็นว่ากลุ่มคนที่เคยมาห้อมล้อมจวนเฟิ่งสลายตัวไปหมดแล้วก็ค่อยอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง

อย่างน้อย นางก็ทำบางอย่างถูกทางแล้ว

ยิ่งนางปรากฏตัวให้คนพวกนั้นเห็น ข่าวซุบซิบก็จะยิ่งหนาหู กลุ่มคนเหล่านั้นก็จะยิ่งคอยจับตาดูนาง นานวันเข้าก็มีแต่จะแย่ลงเรื่อยๆ

นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ เฟิ่งชิงเฉินอารมณ์ดีขึ้นมากแล้ว นางเปิดประตูแล้วเข้าไปในจวน

"โจวสิง ทำไมมายืนอยู่ตรงประตูล่ะ" เมื่อเฟิ่งชิงเฉินก้าวเท้าเข้าไปได้เพียง 1 ก้าวก็ต้องหยุดชะงักเสียก่อน

"แหะๆ ข้ากำลังจะออกไปข้างนอกพอดีน่ะ" โจวสิงมองหน้าเฟิ่งชิงเฉิน

เขาไม่บอกเฟิ่งชิงเฉินว่าหลังจากที่เฟิ่งชิงเฉินออกไปนอกจวนแล้ว เขาก็ยืนรอนางอยู่ตรงนี้ ตอนนี้เขาไม่สามารถช่วยอะไรนางได้ ทำได้แค่มารอนางกลับจวน เมื่อนางอยากจะร้องไห้ จะได้มีบ่าเอาไว้ให้นางซบ

รอนานเป็นวันกว่าเฟิ่งชิงเฉินจะกลับมา ดูท่าทางของเฟิ่งชิงเฉินแล้ว คงไม่ต้องการคนปลอบใจแล้วกระมัง

พูดจริงหรือโกหก แค่ดูหน้าเฟิ่งชิงเฉินก็รู้แล้ว โจวสิงไม่พูด นางจึงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ "จะมืดค่ำแล้ว มีเรื่องอะไรพรุ่งนี้ค่อยไปทำ"

เมื่อพูดจบก็เดินผ่านหน้าโจวสิงไปด้วยท่าทางสบายใจ ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"เอ่อ พี่......พี่เฟิ่ง ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม" โจวสิงเอ่ยปากช้าไปนิด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ