นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 627

เมื่อผ่านไปหนึ่งคืน ทั่วทั้งเมืองหลวงก็ถูกหิมะปกคลุมไปในทันที แม้ว่าจะมีสีอื่นที่ปะปนกันมาบ้าง แต่ก็ไม่อาจหยุดหิมะสีขาวที่ค่อย ๆ โปรยปรายลงมาได้

นี่นับว่าเป็นหิมะที่ตกหนักที่สุดในรอบปีของตงหลิงเลยทีเดียว คล้ายกับว่า พระเจ้าต้องการปกปิดสิ่งที่โสมมเอาไว้ เพื่อเหลือไว้ให้เห็นแต่เพียงสิ่งที่ขาวสะอาดเท่านั้น

สภาพอากาศเช่นนี้ไม่เหมาะกับการเดินทางออกไปด้านนอกยิ่งนัก แต่ทว่า งานไว้อาลัยที่จวนกั๋วกงนั้น แม้ข้าราชบริพารระดับเล็ก ๆ จะไม่อยากไป ก็ต้องได้หอบสังขารตนเองเพื่อไปร่วมงานไว้ทุกข์ด้วยเช่นกัน

ทั้งบุตรชายและหลานชายของท่านกั๋วกงนั้น ต่างก็ก้มหัวคุกเข่าอยู่ภายในศาลาบรรพชน ถึงแม้ว่าจะไม่มีผู้หลักผู้ใหญ่มาในงานมากนัก แต่ทว่า พิธีของจวนกั๋วกงก็ยังคงดำเนินการต่อไป จนกระทั่ง

"ผลัก" พลันมีเสียงกระทบดังมา นายน้อยซุนของจวนกั๋วกงนั้น มิรู้ว่าไปอุ้มลูกบอลสีดำมาจากที่ใด พร้อมทั้งนำมาวางไว้บนพื้น โดยที่มิทันได้ระวัง จนมันเคลื่อนตัวไปทางเตาผิงไฟในทันที

อ๊าย มิรู้ว่าเป็นเสียงผู้ใดที่กรีดร้องออกมากัน ผู้คนที่อยู่ภายในศาลาบรรพชน ต่างก็ตกกะใจขวัญหายไปตาม ๆ กันเลยทีเดียว ยามที่พวกเขากำลังเงยหน้าขึ้น เพื่อเอ่ยดุลูกหลานตนเองนั้น ก็พลันเห็นลูกบอลสีดำ ๆ กลิ้งมาพอดี

"นี่มันคืออะไรกัน?" ยังมิทันได้เอ่ยจบ ก็พลันมีคนร้องตะโกนขึ้นมาว่า "พระเจ้า ระเบิดเทียนเหล่ย มันคือระเบิดเทียนเหล่ย"

"ระเบิดเทียนเหล่ย มันคือระเบิดเทียนเหล่ยจริง ๆ รีบวิ่งเร็ว รีบวิ่ง"

"อย่า อย่าไห้มันไปโดนไฟได้ มันจะฆ่าคน เร็ว รีบเอามันออกมา" หรงชิงชิวพลันกรีดร้องออกมา เมื่อคุกเข่าอยู่ในศาลาบรรพชนเป็นเวลานานนั้น ขาทั้งสองข้างจึงมิค่อยมีแรงมากเท่าใดนัก แต่ทว่า สถานการณ์ในยามนี้ ทำให้นางมิสนสิ่งใดอีก พร้อมทั้งรีบวิ่งล้มคลุกคลานเพื่อไปเอาระเบิดเทียนเหล่ยออกมาในทันที

"อุแว้ อุแว้ อุแว้" นายน้อยซุนที่เป็นคนเริ่มเรื่องวุ่นวายทั้งหมด พลันล้มตัวนอนลงไปบนพื้น พร้อมทั้งร่ำให้ออกมา

ผู้คนที่อยู่ภายในศาลาบรรพชนนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนของจวนกั๋วกงหรือว่าผู้ที่มาร่วมไว้ทุกข์นั้น ทุกคนต่างพากันวิ่งตาลีตาเหลือกออกมาด้านนอกในทันที ในยามนี้หาได้มีผู้ใดสนใจความเป็นใหญ่เป็นโตของผู้ใดไม่ ต่างคนต่างตั้งหน้าตั้งตาวิ่งออกไป เพื่อที่จะเอาชีวิตรอดกันหมด ในยามนี้ งานไว้อาลัยที่เป็นสีขาว ต่างก็กลายเป็นงานที่ดูมีชีวิตชีวาในทันที หลงเหลือไว้แต่เพียงร่างของท่านกั๋วกงที่ไม่มีผู้ใดจดจำได้ เอาไว้ภายในศาลาบรรพชนเท่านั้น

จวนกั๋วกงที่เกิดเรื่องใหญ่ถึงเพียงนั้น ฝ่าบาทจักมิทราบข่าวไปได้อย่างไรกัน เรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับระเบิดเทียนหล่ยนั้น หาใช่เรื่องเล็ก ๆ ไม่ เรื่องที่เกิดขึ้นต่อหน้าผู้คนมากมายถึงเพียงนั้น จะทำอย่างไร ย่อมไม่อาจปิดบังลงไปได้

"ระเบิดเทียนเหล่ย ที่แท้ก็อยู่ที่จวนกั๋วกงนี่เอง เจิ้นมิควรเชื่อใจพวกเขาตั้งแต่แรกเลย" ฝ่าบาทรู้สึกโมโหยิ่งนัก พร้อมทั้งสั่งให้ราชองครักษ์นำกำลังไปค้นจวนกั๋วกงในทันที

พร้อมทั้งจับกุมผู้คนภายในจวนกั๋วกงเอาไว้ทั้งหมด ในยามนี้ จึงเหลือแต่เพียงร่างที่ไร้วิญญาณของท่านกั๋วกงที่อยู่ภายในศาลาบรรพบุรุษเท่านั้น โดยมิมีผู้ใดเหลียวแล นับว่าเป็นโชคดีนัก ที่อยู่ในช่วงฤดูหนาว มิเช่นนั้น หากผ่านไปได้วันสองวัน ศพคงส่งกลิ่นเหม็นโชยออกมาเป็นแน่

ทหารราชองครักษ์ส่วนใหญ่ล้วนแต่โหดเหี้ยมยิ่งนัก ผ่านไปไม่นาน พวกเขาก็พลันค้นพบห้องลับภายในจวนกั๋วกง ที่มีระเบิดเทียนเหล่ยอยู่ภายในประมาณสิบกว่าลูกเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีส่วนของระเบิดเทียนเหล่ยที่ถูกชำแหละออกมาอีกด้วย นั่นแสดงให้เห็นถึงจิตใจที่มีความทะเยอทะยานของจวนกั๋วกง ที่พวกเขาคิดจะลอกเลียนแบบการทำระเบิดเทียนเหล่ยขึ้นมา

เมื่อสิ่งของเหล่านี้ ถูกนำมาถวายแด่องค์จักรพรรดิแล้วนั้น ฝ่าบาทพลันหัวเราะออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวไปในทันที "ดีดีดี ช่างเป็นขุนนางที่ดีของเจิ้นจริง ๆ เจิ้นจะปฏิบัติตนไม่ดีต่อเขาได้อย่างไร"

ข้าราชบริพารระดับล่างที่มีความสัมพันธ์อันดีกับจวนกั๋วกงนั้น แต่เดิมพวกเขาคิดที่จะร้องขอความเมตตาให้พวกเขา ก็พลันหยุดความคิดของตนเองโดยไว

ในเมื่อท่านกั๋วกงได้ตายไปแล้ว ความสัมพันธ์ที่เคยสร้างไว้เมื่อกาลก่อน ก็ย่อมค่อย ๆ เลือนหายไปตาม ๆ กัน หากว่าฝ่าบาทมีท่าทีโมโหแบบธรรมดานั้น พวกเขาก็ยังพอจะช่วยดูแลลูกหลานที่เหลืออยู่ให้ได้ แต่ทว่า ฝ่าบาทในยามนี้โมโหเกรี้ยวโกรธเป็นอย่างมาก พวกเขาย่อมมิกล้าเสี่ยงเอาชีวิตของตนเอง เพื่อเข้าไปช่วยเหลือคนของจวนกั๋วกงอย่างแน่นอน

ยามที่องค์จักรพรรดิโกรธเกรี้ยว ย่อมต้องฝั่งร่างผู้คนนับล้าน เลือดย่อมหลั่งไหลออกไปไกลเป็นพันลี้!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ