อ่านสรุป บทที่ 645 ทำลายงานบรรยากาศ นางโลมล่มเมือง จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
บทที่ บทที่ 645 ทำลายงานบรรยากาศ นางโลมล่มเมือง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย อาช้าย อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
เห็นใจ?
พูดเรื่องขบขันอันใดกัน องค์รัชทายาทซีหลิงมีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจเป็นด้วยหรือ? คิดว่านางเฟิ่งชิงเฉินเป็นคนโง่หรืออย่างไร
เฟิ่งชิงเฉินพลันส่งเสียงฮึดฮัดออกมา แน่นอนว่านางหาได้เอ่ยคำพูดพวกนั้นออกมาไม่ นางต้องเปลี่ยนไปเป็นการพูดอีกแบบแทน
"ความเห็นใจขององค์รัชทายาทเหล่ยนับว่าพิเศษยิ่งนัก พระองค์หาได้เห็นใจเหล่าราษฎรที่ยากจนข้นแค้น กินไม่อิ่ม ไม่มีอาภรณ์อบอุ่นให้สวมใส่ไม่ แต่กลับมาเป็นห่วงเป็นใยนางโลมผู้หนึ่งแทน นับว่าองค์รัชทายาทเหล่ยมีจิตใจที่ดียิ่งนัก"
พึบ สีหน้าของซีหลิงเทียนเหล่ยพลันมืดคล้ำไปในทันที เหลือแต่เพียงอาเจียนออกมาเป็นเลือดเท่านั้น
คำพูดของเฟิ่งชิงเฉินนั้น นับว่าแทงใจดำเสียจริง
"พรวด" ทั้งซื่อจื่อฮูหยินและลู่ฮูหยินนั้น ต่างก็ไม่อาจอดกลั้นเสียงหัวเราะไว้ได้ พลางเดินไปกระซิบที่ข้างหูสาวใช้เพียงสองสามคำ สาวใช้นางนั้นก็พลันเดินมาในทันที พร้อมทั้งมายืนอยู่ทางด้านหลังของเฟิ่งชิงเฉิน เพื่อแสดงความเคารพต่อองค์รัชทายาทเหล่ยและหนานหลิงจิ่นฝานว่า "องค์รัชทายาทเหล่ย องค์ชายหนานหลิงเพคะ ฮูหยินของพวกหม่อมฉันกล่าวว่า มีนางโลมยืนอยู่ด้วยเช่นนี้ สตรีในห้องหอย่อมมิอาจแสดงตัวออกมาได้เพคะ ขอองค์รัชทายาทเหล่ยและองค์ชายหนานหลิง ให้อภัยด้วย"
"อื้ม" ซีหลิงเทียนเหล่ยได้แต่ตอบรับหนึ่งคำ ในยามนี้อธิบายสิ่งใดไปก็ย่อมไร้ประโยชน์
ซื่อจื่อฮูหยินและลู่ฮูหยินจึงเดินเข้าไปด้านในในทันที
"องค์ชายหนานหลิงกับองค์รัชทายาทซีหลิงจริง ๆ เลย เกรงว่าเรื่องราววุ่นวายที่หน้าประตูจวนเฟิ่ง คงเป็นพวกเขาที่จัดฉากขึ้นมากระมัง นับว่าเป็นวิธีที่น่ารังเกียจเสียจริง ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าชิงเฉินเป็นสตรีในห้องหอแท้ ๆ ก็ยังกล้าสั่งให้เหล่านางโลมมาก่อเรื่องเสียได้
นับว่าโชคดีที่เฟิ่งชิงเฉินมีความกล้าที่จะจัดการกับคนเหล่านั้น มิเช่นนั้น เกรงว่าว่างานเลี้ยงวันย้ายจวนของนางคงได้ถูกทำลายลงเป็นแน่ หน้าตาของเฟิ่งชิงเฉินเองก็โดนทำลายไปแล้วเช่นนี้ หากรู้ว่า นี่เป็นงานเลี้ยงครั้งแรกที่นางจัดขึ้นนั้น ต้องมาโดนทำลายเช่นนี้ แล้วเฟิ่งชิงเฉินจะมีชีวิตอยู่ภายในเมืองหลวงแห่งนี้ได้อย่างไรกัน" ลู่ฮูหยินเองก็พยายามที่จะแก้ต่างให้เฟิ่งชิงเฉินเช่นกัน พร้อมทั้งตั้งใจที่จะเอ่ยให้กับซื่อจื่อฮูหยินทราบ
"นับว่าไร้สาระยิ่งนัก กลับไป ข้าจะต้องไปบอกสามีของข้า ให้ตรวจสอบพวกเขาสองคนดูหน่อยเสียแล้ว ถึงได้กล้าก่อเรื่องขึ้น ภายในตงหลิงเช่นนี้ได้ "ซื่อจื่อฮูหยินทีากำลังรู้สึกโมโหอยู่นั้น พลันตอบรับไปในทันที
ลู่ฮูหยินพลันแย้มยิ้มออกมาด้วยความพอใจ พร้อมทั้งเอ่ยชื่นชมซื่อจื่อฮูหยินไปเสียหลายประโยค ขากนั้นจึงยกเรื่องที่เฟิ่งชิงเฉินส่งยาไปให้นางมาพูดด้วย นางรู้ว่าซื่อจื่อฮูหยินเองก็คงจะได้รับเช่นกัน ไม่แปลกใจเลยที่หัวข้อนี้ จะทำให้จวนหนิงกั๋วกงมีความรู้สึกที่ดีกับเฟิ่งชิงเฉิน
เมื่อมีจวนหนิงกั๋วกงออกแรงให้เช่นนี้ ชื่อเสียงของจวนเฟิ่งอีกไม่นานก็คงกลับมาเป็นดังเดิม ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุอันใดก็ตาม การที่ถูกเหล่านางโลมมาก่อเรื่องถึงหน้าจวนนั้น นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่มงคลเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งหาไปมีความสัมพันธ์อันดีกับเหล่านางโลมอีก ชื่อเสียงของเฟิ่งชิงเฉิน ย่อมต้องเลวร้ายลงไปอีกแน่
ผู้คนที่มารอดูความสนุกอยู่ด้านนอกประตูจวนเฟิ่งยิ่งมากเข้าไปทุกที รวมไปถึงเหล่าผู้ที่มาร่วมอวยพรให้กับเฟิ่งชิงเฉินด้วยเช่นกัน เมื่อพวกเขาเห็นเหตุการณ์เช่นนั้นก็มิกล้าเข้ามา พร้อมกับรั้งรออยู่ภายในกลุ่มคนเหล่านี้ อีกทั้งยังเป็นการรอให้ซีหลิงเทียนเหล่ยและหนานหลิงจิ่นฝานเข้าไปก่อนอีกด้วย
เฟิ่งชิงเฉินเข้าใจได้เป็นอย่างดี การที่หนานหลิงจิ่นฝานและซีหลิงเทียนเหล่ยอยู่ด้านนอกนาน ๆ นั้น นับว่าไม่ดีกับทั้งสองฝ่ายยิ่งนัก ถึงแม้ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะมิใคร่เต็มใจ แต่เพื่อหน้าตาของจวนเฟิ่ง ก็อดไม่ได้ที่จะต้องเชื้อเชิญพวกเขาให้เข้ามา
"องค์รัชทายาทเหล่ย องค์ชายหนานหลิงมาเพื่อเป็นแขก เชิญเพคะ ทว่าแม่นางฮวาขุยผู้นี้ ต้องขออภัยด้วย ข้าจวนเฟิ่งแห่งนี้มิต้อนรับท่าน"
หาได้เป็นเพราะเฟิ่งชิงเฉินคิดดูถูกเหล่านางโลมไม่ อย่างแรกมิต้องเอ่ยถึงเรื่องที่หรงชิงชิวตั้งใจมาสร้างความวุ่นวายในวีนนี้ ถึงแม้ว่าจะมาให้นางรักษา นางก็ไม่อาจให้หรงชิงชิวเข้าจวนได้อยู่ดี
กฎของสังคมก็เป็นเช่นนี้ หากนางให้หรงชิงชิวเข้าจวนละก็ ไม่เพียงแต่ซื่อจื่อฮูหยินหรือลู่ฮูหยิน แม้แต่ชุยห้าวถิงก็ย่อมรู้สึกไม่พอใจ และนางก็จะถูกตราหน้าว่า มีความสัมพันธ์อันดีกับเหล่านางโลมด้วย
"เฟิ่งชิงเฉิน แม่นางผู้นี้ต้องการมารักษากับเจ้า เจ้าไม่เต็มใจที่จะรักษาให้นางงั้นหรือ?" แน่นอนว่าพวกเขาต้องการจะเข้าไปด้านใน แต่ยังมิทันได้ทำอันใด ก็ต้องมาโดนเฟิ่งชิงเฉินทุบตีเช่นนี้ ซีหลิงเทียนเหล่ยและหนานหลิงจิ่นฝานย่อมรู้สึกมิยินยอม
ซีหลิงเทียนเหล่ยที่มียศถาบรรดาศักดิ์เป็นถึงองค์รัชทายาท ย่อมมิต้องเอ่ยอันใดให้มากความ ยามที่เขากำลังเดินขึ้นไปบนบันไดนั้น หนานหลิงจิ่นฝานที่ไม่แล้วไม่เลิกรา ก็พลันลากหรงชิงชิวเข้าไป จากนั้นก็ผลักหรงชิงชิวให้มาอยู่ด้านหน้าของเฟิ่งชิงเฉินในทันที
เฟิ่งชิงเฉินเพียงแค่แย้มยิ้มออกมาเท่านั้น มิได้เอ่ยอันใดออกมา หนานหลิงจิ่นฝานที่คิดจะเอาเรื่องให้ได้พลันกล่าวว่า "เฟิ่งชิงเฉิน เหตุใดเจ้าไม่รักษาให้นางเล่า เจ้ากลัวว่านางจะจ่ายค่ารักษาไม่ได้งั้นหรือ? เฟิ่งชิงเฉินเจ้าวางใจได้ หากแม่นางผู้นี้มิอาจจ่ายค่ารักษาได้นั้น เสี่ยหวางจะจ่ายแทนนางเอง"
หนานหลิงจิ่นฝานพลันเลิกคิ้วขึ้น หัวคิ้วที่เรียวยาวดั่งดุจหงส์ ดูร้ายกาจและเย่อหยิ่งมากกว่าในคราแรกที่พบเจอกันยิ่งนัก
เฟิ่งชิงเฉินพลันชี้ไปที่หรงชิงชิว "เจ้านับว่าใจกล้ายิ่งนัก ที่กล้าหลอกลวงฝ่าบาททั้งสองคนได้ พวกเจ้า เข้ามาลากแม่นางผู้นี้เอาไปไว้ที่ซุ่นเทียนฝู่เสีย"
มิเกรงกลัวคู่ต่อสู้ที่เป็นเสมือนหมาป่า แต่กลับเกรงกลัวคู่ต่อสู้ที่เป็นหมู ซีหลิงเทียนเหล่ยและหนานหลิงจิ่นฝานที่ถูกหรงชิงชิวลากเข้าไปด้วยนั้น เฟิ่งชิงเฉินพลันใช้สายตามองพวกเขาด้วยความรู้สึกเห็นใจ
"เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าทำได้ดียิ่งนัก" ทั้งซีหลิงเทียนเหล่ยและหนานหลิงจิ่นฝานยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง หาได้คิดเอ่ยปากช่วยเหลือไม่
เมื่อหรงชิงชิวเห็นว่าสถานการณ์ใกล้จบลงแล้ว นางในยามนี้มีเพียงหนทางสุดท้าย ในการสร้างความเสื่อมเสียให้กับเฟิ่งชิงเฉินเท่านั้น
"ฝ่าบาทเพคะ มิใช่เพคะ มิใช่เพคะ นู๋เจียต้องการมาหาแม่นางเฟิ่งเพื่อทำการรักษา แม่นางเฟิ่งกับต้องการฆ่านู๋เจีย เพราะว่านามของนู๋เจียเหมือนกับแม่นางเฟิ่ง นู๋เจียคือฮวาขุยแห่งหอนางโลมฉู่ฮวา หลังจากที่แม่นางเฟิ่งได้ยินเช่นนั้น ก็ต้องการที่ฆ่านู๋เจีย ฝ่าบาทเพคะ ได้โปรด" ฮวาขุยนางโลมล่มเมือง นับว่าเป็นชื่อที่ดียิ่งนัก
เมื่อคนถูกนำตัวออกไปไกลแล้วนั้น คำพูดด้านหลังก็มิอาจได้ยินอีก
หรงชิงชิวหาได้สนใจไม่ พลันมีประกายความชั่วร้ายออกมาจากสายตาของนางในทันที
นางต้องการให้เฟิ่งชิงเฉินตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับนาง ชื่อเสียงที่ด่างพร้อย ต่อไปนี้เพียงแค่พูดถึงเฟิงชิงเฉิน ก็จะต้องนึกถึงหอนางโลม
"นางโลมล่มเมือง ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่แปลกใจเลยที่ชิงเฉินจะโมโหถึงเพียงนี้ หากเสี่ยวหวางพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้ละก็ ย่อมต้องเป็นเหมือนเจ้าเช่นกัน เสี่ยวหวางเข้าใจ สมควรฆ่านางแล้ว" หนานหลิงจิ่นฝานตั้งใจใช้วรยุทธ์ภายในของตนกระจายเสียงของเขา ให้ความมีความดังมากกว่าเดิม เพื่อให้ผู้คนที่อยู่ที่นี่ได้ยินทั่วกัน
หลังจากที่พ่นคำพูดน่ารังเกียจออกมาแล้วนั้น สีหน้าของซีหลิงเทียนเหล่ยก็ดูดีขึ้นมาในทันที "ที่แท้เรื่องก็เป็นเช่นนี้หรือ เป็นเพราะเปิ่นกงมิรู้เรื่องราวภายในนั่นเอง แค่กแค่ก อะไรคือนางโลมล่มเมือง องค์ชายสามอย่าได้พูดจาพล่อย ๆ ไป ทว่า เพียงแค่มีนามเดียวกันเท่านั้น ท่านอย่าได้เอ่ยทำให้เข้าใจผิดไปได้"
คำพูดนี้ทำให้ผู้คนเข้าใจผิดอย่างแท้จริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...