ตอน บทที่ 647 ดื่มสุรา ใครตำแหน่งสูงกันแน่ จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 647 ดื่มสุรา ใครตำแหน่งสูงกันแน่ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่เขียนโดย อาช้าย เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงใดก็ตามแต่ ผู้ที่มีตำแหน่งสูงส่งและมีตัวตนพิเศษโดดเด่นกว่าผู้ใดมักจะไม่เดินทางมาก่อนล่วงหน้า พวกเขาจะเดินทางมาถึงหลังจากที่ทุกคนในนั้นมาถึงแล้ว จากนั้นค่อยๆ ย่างกายเข้ามาทีละก้าวๆ เพื่อให้เป็นจุดสนใจของผู้อื่น
จะว่าไปแล้ว หวังจิ่นหลิง ซีหลิงเทียนเหล่ย ซีหลิงเทียนอวี่และหนานหลิงจิ่นฝาน พวกเขาเหล่านี้ก็นับว่าเป็นบุคคลที่มีตัวตนสูงส่ง พวกเขาควรที่จะสงบกริยาท่าทางเอาไว้ เมื่อคนอื่นๆ ได้เดินทางเข้าไปในจวนเฟิ่งเรียบร้อยแล้วพวกเขาค่อยย่างกายเข้าไป แต่ว่าคนเหล่านี้กลับไม่ได้เดินไพ่ตามที่ควรเป็น แต่ละคนเดินทางมาถึงสถานที่จัดงานล่วงหน้า จึงทำให้ผู้คนที่มาช้าได้แต่ตกตะลึง......หวาดกลัวเสียจนเหงื่อไหล
จะทำอย่างไรได้เล่า หากว่าหวังจิ่นหลิงตั้งใจจะเข้ามาร่วมสมทบกับเฟิ่งชิงเฉิน เขาก็จะมัวเห็นแก่หน้าตาเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ไม่ได้ เพราะจะทำให้เรื่องราวของเฟิ่งชิงเฉินดำเนินไปอย่างไม่สะดวก เพียงแค่หวังจิ่นหลิงเดินทางมา ผู้คนที่ยืนอยู่ด้านนอกเหล่านั้นจึงจะกล้าติดตามเข้ามาด้วย บรรดาพวกที่เดิมที่ไม่ได้ตั้งใจจะมาก็เปลี่ยนความคิดเห็นของตน พวกเขาก้าวเข้ามาในจวนเฟิ่ง และฉวยโอกาสนี้ในการทำความสนิทสนมกับคุณชายใหญ่แห่งตระกูลหวัง
คนที่อยู่ในวงการขุนนางนั้นมีคนใดบ้างที่ไม่ยกยอผู้สูงส่งและเหยียบย่ำผู้ต่ำต้อย หากว่าเจ้าไม่มีประโยชน์ต่อคนอื่นๆ แล้วเหตุใดพวกเขาจะต้องมายกยอปอปั้นด้วย
จวนเฟิ่งที่เป็นจวนของแม่ทัพในนามเท่านั้น แท้จริงแล้วไม่ได้อยู่ในสายตาของขุนนางเหล่านี้เลย หากไม่มีเสด็จอาเก้าและไม่มีหวังจิ่นหลิง ไม่ว่าขุนนางคนใดในเมืองหลวงล้วนสามารถบดขยี้เฟิ่งชิงเฉินให้ตายได้ในกำมือ หากว่าในวันนี้ไม่มีหวังจิ่นหลิงและชุยห้าวถิงเดินทางมาที่นี่ คาดว่าแขกเหรื่อที่เดินทางมาจวนเฟิ่งคงจะน้อยลงถึงเก้าเท่าทีเดียว
ส่วนซีหลิงเทียนเหล่ยและหนานหลิงจิ่นฝาน พวกเขานั้นเดินทางมาเพื่อที่จะดูเรื่องราวอันครึกครื้น อีกอย่างที่นี่คือราชวงศ์ตงหลิงไม่จำเป็นให้พวกเขามาแสดงท่าทีกดดันผู้ใด ไม่ว่าจะเดินทางมาช้าหรือเร็วล้วนไม่มีผล
ซีหลิงเทียนอวี่เดินทางมาค่อนข้างเร็ว ประการแรกเพื่อใช้โอกาสนี้ในการเอ่ยขอบคุณเฟิ่งชิงเฉินที่รักษาขาทั้งสองข้างของตนให้หาย ประการที่สองเพื่อช่วยเฟิ่งชิงเฉินจับตามองดูซีหลิงเทียนเหล่ย เนื่องจากหากเขาอยู่ที่นั่นด้วย ซีหลิงเทียนเหล่ยคงจะไม่กระทำการเกินเหตุ
แม้จะกล่าวว่าในบัดนี้ผู้คนที่เดินทางมาร่วมงานมากเกินที่เฟิ่งชิงเฉินจินตนาการเอาไว้ก็ตามแต่ ทว่านางได้จัดเตรียมแผนการรับรองไว้ล่วงหน้า นางเปิดห้องโถงเอาไว้ถึงสามแห่ง และทำการแบ่งพื้นที่อย่างชัดเจนเพื่อไม่ให้รบกวนซึ่งกันและกัน
เหล่าสตรีสูงศักดิ์ นางเป็นคนเข้าไปต้อนรับด้วยตนเอง ส่วนคุณชายและบรรดาขุนนางทันสูง มีชุยห้าวถิงกับหวังจิ่นหลิงคอยต้อนรับ บรรดานักปราชญ์เหล่ากวีทั้งหลายมีอาจารย์หยวนซีอยู่ที่นั่นด้วย จึงไม่ทำให้บรรยากาศเยือกเย็น
สิ่งของประเภทเดียวกันมักอยู่รวมกัน และคนประเภทเดียวกันมักมารวมตัวกัน คนที่เดินทางมาในวันนี้โดยมากล้วนเป็นขุนนาง ต่อให้ไม่มีตำแหน่งขุนนางก็เกิดมาจากตระกูลขุนนาง หรือเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงด้านวรรณกรรมต่างๆ ไม่มีผู้ใดเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาแม้แต่คนเดียว
เฟิ่งชิงเฉินได้เชิญซูเหวินชิงมาด้วย เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้เดินทางมาในวันนี้ ทำเพียงมอบของขวัญล้ำค่ามาให้ งานเช่นนี้หากเขาปรากฏตัวก็ทำได้เป็นเพียงคนเข้ามาประกอบฉาก แล้วเหตุใดต้องมาเล่า
พ่อค้าต่อให้มีเงินและอำนาจมากเพียงใดก็ยังถูกดูถูก ก่อนหน้านี้มีเสด็จอาเก้าคอยสนับสนุน เขาจึงนับได้ว่าเป็นทางพ่อค้าและขุนนางอย่างละครึ่ง บรรดาตระกูลใหญ่ทั้งหลายเห็นแก่หน้าของเสด็จอาเก้า บางคนจึงได้ให้เกียรติเขาเล็กน้อย บัดนี้ อำนาจของเสด็จอาเก้ายังคงอยู่ แต่ถึงอย่างไรตัวของเขาก็ยังอยู่ในคุก ไม่ได้ออกมาข้างนอก การที่ซูเหวินชิงหลีกเลี่ยงงานเช่นนี้ก่อนนับว่ามีเหตุมีผล
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างมีระบบระเบียบ ไม่มีผู้ใดเอ่ยเรื่องที่เกิดขึ้นตรงประตูอีก เพียงแต่ว่าหนานหลิงจิ่นฝานและซีหลิงเทียนเหล่ยคงจะไม่หยุดไว้เพียงเท่านี้ หากว่าคำพูดของหนานหลิงจิ่นฝานและซีหลิงเทียนเหล่ยสามารถฆ่าเฟิ่งชิงเฉินตายได้ คาดว่าบัดนี้เฟิ่งชิงเฉินคงจะตายไปหลายรอบแล้ว ทั้งสองคนได้แต่นั่งหงุดหงิดใจอยู่ในที่ของตน และไม่สนทนาสื่อสารกับขุนนางของราชวงศ์ตงหลิง ในทางกลับกันซีหลิงเทียนอวี่กลับสนทนาด้วยกับพวกเขาอย่างมีมารยาท
ขุนนางน้อยใหญ่เดินทางมามากมายก่ายกอง เมื่อตี๋ตงหมิงซึ่งเป็นตัวแทนของจวนเซียวชินอ๋องเดินทางมา งานเลี้ยงจึงนับว่าดำเนินมาได้ถึงเวลาอันควรแล้ว และหมายความว่าคนอื่นๆ เดินทางมาพร้อมครบแล้ว
เมื่อตี๋ตงหมิงก้าวเข้ามาก็พบว่าตำแหน่งหลักนั้นถูกนั่งจนเต็มแล้ว เขาจึงได้กล่าวขึ้นอย่างเคอะเขินว่า “เดิมทีข้าคิดว่าข้ามาเร็วแล้วเสียอีก ที่แท้ข้ากับกลายเป็นคนที่มาถึงคนสุดท้าย”
ตี๋ตงหมิงรู้สึกอึดอัดใจยิ่งนัก ทำไปทำมาเขากลับกลายเป็นแขกที่ถูกกดดันเสียเอง หากว่าเป็นปู่ของเขายังพอ ส่วนเขา......ยังไม่ถึงจุดนั้น
น่าเสียดายเหลือเกินที่เฟิ่งชิงเฉินไม่อาจเอ่ยชวนคุณปู่ของเขามาได้
หวังจิ่นหลิงยิ้มแล้วลุกขึ้นยืนพูดด้วยความสนุกสนาน “ท่านซื่อจื่อมาสาย ควรจะลงโทษด้วยการดื่มสามจอก!”
เมื่อประโยคนี้ของหวังจิ่นหลิงกล่าวออกไป ก็ได้มีบ่าวรับใช้เดินน้ำสุราสามจอกเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าตี๋ตงหมิง
“จิ่นหลิง เจ้าเอาจริงหรือ?” ตี๋ตงหมิงทำใบหน้าขมขื่น ตอนนี้เขาท้องว่าง หากดื่มสุราสามจอกลงไปจริงๆ จะทำให้ทำลายกระเพาะอาหาร
“ท่านว่าอย่างไรเล่า?” หวังจิ่นหลิงไม่ตอบและถามกลับ สุราได้นำมาวางตรงหน้านี้แล้ว จะไม่เอาจริงได้อย่างไร?
แค่กๆ การที่องค์รัชทายาทปรากฏกายขึ้นในสถานการณ์เช่นนี้ไม่ใช่การเดินทางมาเป็นส่วนตัว แต่บ่งบอกถึงตำแหน่งทางการเมือง การที่องค์รัชทายาทปรากฏกายขึ้น ทุกคนไม่ได้มีความคิดเห็นว่าเขาจะเดินทางมาเพียงร่วมงานให้ครึกครื้นเท่านั้น แต่เป็นการบอกกับทุกคนว่าเขาอยู่ฝั่งเดียวกับเสด็จอาเก้า
เห็นได้ชัดว่าองค์รัชทายาทไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา เขากระทำการอย่างพลการ
ช่างกล้านัก
เฟิ่งชิงเฉินที่อยู่ภายในเรือน ได้ยินว่าองค์รัชทายาทเสด็จก็ตกกะใจสะดุ้งเล็กน้อย นางคิดไม่ถึงว่าองค์รัชทายาทจะกล้าเดินทางมายังจวนเฟิ่งตอนเวลาเช่นนี้อย่างเป็นทางการ ดูเหมือนว่าองค์รัชทายาทจะรีบร้อนไปหน่อย
เฟิ่งชิงเฉินหันไปกล่าวขอตัวกับทุกคนจากนั้นเดินตรงออกไปต้อนรับองค์รัชทายาท แน่นอนว่าแท้จริงแล้วขั้นตอนนี้นางไม่จำเป็นต้องเดินทางออกไปด้วยตนเอง เพราะโดยเมื่อล้วนเป็นบุรุษที่เดินทางมาแต่เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่รู้จะทำเช่นไร ใครใช้ให้นางเป็นนายเพียงคนเดียวของจวนหลังนี้เล่า
แค่กๆ......ไม่ว่าองค์รัชทายาทเดินทางมาด้วยจุดประสงค์ใด การที่เขาเดินทางมาอย่างเป็นทางการเช่นนี้เฟิ่งชิงเฉินจึงจำเป็นจะต้องเดินทางออกไปต้อนรับ หวังจิ่นหลิงหัวเราะแล้วมองไปทางตี๋ตงหมิงเล็กน้อย เป็นความหมายว่าสมน้ำหน้า สุรานี้เจ้าคงไม่อาจดื่มได้แล้ว เพราะว่าเจ้าไม่ใช่คนสุดท้ายที่เดินทางมาถึง
ตี๋ตงหมิงได้แต่ทำหน้าขมขื่นออกมา
“ไปเถิด ไปรับเสด็จ!” ชุ่ยห่าวถิงจัดการเสื้อผ้าให้เป็นระเบียบเรียบร้อยแล้วหันไปสะกิดเตือนหวังจิ่นหลิงกับตี๋ตงหมิงให้เดินทางไปด้วยกัน หากพวกเขาทั้งสามไม่นำทางออกไปละก็ ผู้คนเหล่านี้จะกล้าออกไปได้อย่างไร ส่วนองค์ชายของซีหลิงและหนานหลิงนะหรือ ช่างมันเถอะ......
ไม่มีใครกล้าให้พวกเขาเดินทางออกไปรับเสด็จ
“......” ห้องโถงที่ครึกครื้นเมื่อครู่ ชั่ววินาทีเดียวล้วนเดินทางออกไปจนสิ้นเสียว่างเปล่า เหลือไว้เพียงซีหลิงเทียนเหล่ย ซีหลิงเทียนอวี่ และหนานหลิงจิ่นฝานที่นั่งอยู่ตรงเดิม ท่าทางดูลึกซึ้ง......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...