“องค์รัชทายาทเหล่ย?องค์ชายจิ่งฝาง?”
หลานจิ่วชิงถึงกับหยุดเดินต่อ และเข้าไปไปทักทายสองคนนั้น เฝ้าดูทั้งสองพูดเรื่องเฮฮาสารพัน หลานจิ่วชิงถึงกับขมวดคิ้วโดยมิรู้ตัว ดูเหมือนว่าทั้งสองคนนี้ตั้งใจที่จะมาดักรอพบเขาที่นี่ เขาตัดสินใจมาที่พระราชวังอย่างกะทันหัน
แต่โลกใบนี้ช่างแคบเสียจริง ถึงได้มาเจอสองคนนี้อยู่ด้านนอกพระราชวัง ดวงช่วงนี้คงมิค่อยจะธรรมดาเลย หรือว่าสองคนนี้คงจะไปได้ข่าวอะไรมากันแน่
มาตรการรักษาความลับของราชสำนักยังคงมิค่อยจะสู้ดีนัก
หลานจิ่วชิงทำได้เพียงใส่หน้ากากเข้าหา ซีหลิงเทียนเหล่ยกับหนานหลิงจิ่นฝานคงมิได้เห็นท่าทีที่แสดงความรังเกียจของเขา ทั้งสองมีสีหน้ายิ้มแย้มและเห็นได้ชัดว่ากำลังยืนขวางทางอยู่
“อ้าว ท่านหลาน โลกช่างกลมจริงๆ” นี่มันก็ค่ำแล้ว แต่หนานหลิงจิ่นฝานยังคงสวมชุดเต็มยศสีแดงอยู่ ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันแปลก สายตาดังพญาอินทรีที่คอยหาเหยื่อ ใครเห็นก็ควรจะต้องป้องกันตัวเองจากสายตาคู่นั้น
“ใช่ โลกช่างกลมเสียจริง ท่านทั้งสองมาเดินเล่นเช่นกันหรือ” หลานจิ่วชิงเอามือกอดอก ยืนด้วยท่าทางที่สง่าแต่ก็เต็มไปด้วยการป้องกันตนเองอย่างดี
เขาไม่ไว้ใจสองคนผู้นี้ และเช่นเดียวกัน ทั้งซีหลิงเทียนเหล่ยกับหนานหลิงจิ่นฝานก็ไม่ไว้ใจเขาเช่นกัน
“ใช่แล้ว ข้ามาเดินเล่น ท่านหลานก็มาเดินเล่นเช่นกันหรือ เราช่างคิดตรงกันเสียจริง ใช่หรือไหม? ท่านหลานกำลังจะไปเดินเล่นที่พระราชวังตงหลิงงั้นหรือ?” ซีหลิงเทียนเหล่ยพูดโดยไม่อ้อมค้อม
การที่หลานจิ่วชิงมายังพระราชวังตงหลิงในเวลานี้ มันต้องเป็นเรื่องเดียวแน่ๆ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าหลานจิ่วชิงได้ซ่อนสายลับไว้ที่พระราชวังตงหลิง และสายลับผู้นี้คงจะมีฝีมือมาก มิฉะนั้นจะไม่มีทางรู้เรื่องเช่นเดียวกับพวกเขาแน่ๆ
แต่ถ้าไม่ใช่แบบที่คิด......นี่มันก็อยู่ใกล้กับพระราชวังตงหลิง หลานจิ่วชิงจะไปที่ใดกันแน่?
ใช่แล้ว อาจจะเป็นเรื่องการบูชาฟ้าของพระราชวังตงหลิง พวกเขาก็ได้รับข่าวนี้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงต้องการเข้าวังไปเพื่อต้องการจะสอบถามรายละเอียดต่างๆ
เหตุการณ์พายุหิมะครั้งนี้รุนแรงมากสำหรับตงหลิง ซึ่งหนานหลิง ซีหลิง และเป่ยหลิงก็ได้รับผลกระทบ ถ้าหากจักรพรรดิตงหลิงมีพระบรมราชโองการ พวกเขาก็คงจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงการบูชาฟ้าของจักรพรรดิตงหลิง ก็ต้องเตรียมให้พร้อมไว้ก่อน
และยังมีเรื่องอีกมากที่สำคัญ เมื่อยิ่งรู้ข่าวจึงรีบเข้ามาที่พระราชวัง แต่ก็มิได้อยากที่จะพบกับหลานจิ่วชิง และนั่นยิ่งทำให้พวกเขาอดมิได้ที่จะตั้งข้อสงสัยถึงสถานะของหลานจิ่วชิง
การบูชาฟ้าของจักรพรรดิ คนปกติมักไม่มีทางมาสนใจ โดยเฉพาะคนในยุทธจักร การมาของหลานจิ่วชิงจึงทำให้พวกเขารู้สึกว่าต้องรับมือ
ทั้งสองคนคิดไปแต่ในทางอคติ แทบจะทำให้อาณาเขตของสวนในพระราชวังตงหลิง กลายเป็นสวนของตนเองเพื่อที่คอยจับตาหลานจิ่วชิง ว่าเสือตัวนี้จะเขาไปยังพระราชวังหรือไม่
แต่วันนี้มันก็หาใช่โอกาสอันเหมาะสมมา เพราะคนที่จับตาดูอยู่ในพระราชก็มีอยู่มากโข
“ว่าอย่างไรหล่ะ?หรือท่านหลานมิสะดวกใจที่จะพูด?ระหว่างเราก็ยังมีมิตรสัมพันธ์อันดีต่อกัน หากเรื่องแค่นี้ ท่านหลานยังไม่กล้าที่จะพูดกับพวกเราหรือ?” บทสนทนาของซีหลิงเทียนเหล่ยพยายามที่จะดึงคำตอบจากหลานจิ่วชิง หากหลานจิ่วชิงไม่พูดออกมา เรื่องที่เคยพูดว่าจะร่วมมือก่อนก่อนหน้า มันก็คงจะต้องให้เขากลับพิจารณาดูอย่างถี่ถ้วนอีกครั้งว่าควรที่จะทำความร่วมมือกับคนแบบเขาหรือไม่
หลานจิ่วชิงเริ่มโกรธ ซึ่งซีหลิงเทียนเหล่ยก็ไม่แปลกใจ ถ้าหลานจิ่วชิงมิโกรธสิมันจะแปลกนัก แต่อย่างไรเสียซีหลิงเทียนเหล่ยก็ยอมถอยอีกก้าว “ ท่านหลาน ข้ากับองค์ชายจิ่งฝานจะไปที่พระราชวังตงหลิง ท่านจะตามไปพร้อมกับพวกข้าหรือไม่?”
“ข้าเกรงว่าจะมิสะดวกนัก” หลานจิ่วชิงพยายามหักห้ามความโกรธ และตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง เพื่อไว้หน้าซีหลิงเทียนเหล่ย จึงตอบเขาไปแบบรักษามารยาท
การที่เขาปรากฏตัวอยู่ใกล้กับพระราชวัง ถ้าเขาบอกว่าไม่ไปที่พระราชวังคงจะไม่มีใครเชื่อ ยอมรับไปเสียดีกว่า
“มิสะดวกอันใดกัน? ท่านหลานจะไปที่ใดกันเล่า? ข้าจะขอติดตามไปด้วย” เห็นได้ชัดว่าหนานหลิงจิ่งฝางต้องการจะดูท่าทีของหลานจิ่วชิง
“มีท่านทั้งสองอยู่ ข้าก็มิอาจที่จะเข้าไปจัดการเรื่องเหล่านั้นได้” หลานจิ่วชิงน้ำเสียงเข้ม ตั้งใจพูดประโยคชวนสงสัยนี้ออกไป
“จัดการเรื่องเหล่านั้น? ท่านหลานต้องทำหรือจัดการการเรื่องอันใดกัน?” ซีหลิงเทียนเหล่ยพอจะเดาออก แต่ก็ไม่อยากจะเชื่อนัก
หลานจิ่วชิงผู้ลือนามในยุทธจักร จะมาด้วยเรื่องอย่างว่า คงจะมิใช่หรอก
แต่ผู้ชายกับเรื่องอย่างว่ามันก็คงเป็นได้ หลานจิ่วชิงมีเงินทองตั้งมากมาย เอามาใช้กับเรื่องผู้หฺญิงมันก็ย่อมเป็นสิ่งที่ทำได้
“ถ้าไปที่พระราชวังแล้วมิไปจัดการเรื่องราวต่างๆ แล้วจะไปด้วยเหตุใดเล่า? คืนนี้มันก็เป็นโอกาสสำคัญเสียด้วย” ด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ ยิ่งนำพาซึ่งความเคลือบแคลงสงสัยของอีกฝ่าย
“ฮ่าๆๆ......ท่านหลานนี่ก็พูดถูกใจข้านัก” ซีหลิงเทียนเหล่ยมองที่สายตาของหลายจิ่วชิง ก็เข้าใจดี ถึงสิ่งที่ผู้ชายทุกคนต้องการ
เมื่อบทสนทนาจบลง ก็มิได้มีคำถามอะไรต่อ จริงหรือเท็จก็มิอาจทราบได้ เข้าไปในพระราชวังก็จะเข้าใจเอง “ถ้าจะไปที่พระราชวัง เราก็ไปพร้อมกันเถอะ เดินไปเป็นเพื่อนกัน”
หนานหลิงจิ่งฝางเดินก้าวไปข้างหน้า เอามือจับบ่าของหลานจิ่วชิง หลานจิ่วชิงพยายามจะหลีกออก และหนานหลิงจิ่งฝางใช้แรงกดเพื่อมิให้หลานจิ่วชิงหลีกออก
ชายทั้งสองที่ดูเหมือนจะพูดกันถูกคอ แต่ที่จริงแล้วประหนึ่งได้ประจุดินปืนไว้เพื่อพร้อมจะลั่นไก
“เอ่?หรือว่าท่านหลานมิอยากเดินไปพร้อมกับพวกเรา?” คำพูดนี้มาพร้อมกับสายตาเจ้าเล่ห์ของหนานหลิงจิ่งฝางที่มองมายังหลานจิ่วชิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...