แน่นอนใช้คำว่าโง่กับเซวียนเส้าฉีมันก็ออกจะดูมากเกินไปหน่อย แบบเซวียนเส้าฉีต้องเรียกว่าซื่อสัตย์ และซื่อตรง ที่ผ่านมาเสด็จอาเก้าชื่นชมในความเป็นสุภาพบุรุษของหวังจิ่นหลิงมาโดยตลอด ตอนนี้เขาเริ่มชื่นชมในความซื่อตรงของเซวียนเส้าฉี และในใจของเขาหวังว่าทั้งสองคนจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป
หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ ความแข็งแกร่งของเผ่าเสวียนเซียวกงจะลดลงเป็นอย่างมาก ในช่วงระยะเวลาอันสั้นนี้จะยุ่งมาก และเขามีทหารสามหมื่นนาย ประกอบกับกลไกและกับดักของเผ่าเสวียนเซียวกง การกำจัดกองทัพทั้งหมดของฝ่ายตรงข้ามไม่ใช่เรื่องยาก แน่นอนเพื่อความปลอดภัย เขาจะดึงเผ่าเสวียนเซียวกงเข้ามามีส่วนร่วม
“เผ่าเสวียนเซียวกงยังมีลูกศิษย์อีกจำนวนเท่าไหร่ที่สามารถออกไปสู้ได้” เสด็จอาเก้าไม่รู้จักคำว่าเกรงใจ เขาเอ่ยปากของความร่วมมือจากเซวียนเส้าฉี
เซวียนเส้าฉีมองมายังเสด็จอาเก้าด้วยใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยความตกใจ “นี่เจ้าคิดจะกวาดล้างฝ่ายตรงข้ามงั้นหรือ?”
หากไม่เป็นเช่นนั้นเสด็จอาเก้าก็ไม่มีความจำเป็นต้องมาถามเขาว่ามีกองกำลังอีกเท่าไหร่ที่ยังสามารถสู้ได้ หรือมาถามเขาว่ามีศิษย์อีกกี่คนที่สามารถออกรบได้
คำพูดนี้ของเสด็จอาเก้าหมายความว่าให้เขาใช้กำลังทั้งหมดของเผ่าเสวียนเซียวกง การจ่ายในราคาสูงเช่นนี้ แน่นอนว่าต้องทำลายฝ่ายตรงข้ามให้ไม่เหลือซาก
“ทำไม? ไม่ได้งั้นหรือ?”
เซวียนเส้าฉียอมรับว่าตนเองใจเต้นแรงเพราะคำพูดของเสด็จอาเก้า แต่ความจริงก็คือ “มันมีอะไรยาก”
เสด็จอาเก้าหัวเราะโดยไม่ส่งเสียง พูดออกมาอย่างเฉยเมย “เจ้าวังเซวียน เฟิ่งชิงเฉินสามารถกำจัดกองทัพของเจ้าได้ตั้งแต่อยู่ตรงตีนเขา แน่นอนว่าเจ้าเองก็สามารถกำจัดกองทัพของทั้งสามประเทศได้ที่ตีนเขาเช่นกัน”
เสด็จอาเก้าไม่ได้พูดว่า “พวกเรา” เขาพูดถึงเซวียนเส้าฉีเพียงแค่คนเดียว ซึ่งหมายความว่าชื่อเสียงและความดีความชอบทั้งหมดของการต่อสู้ในครั้งนี้เป็นของเซวียนเส้าฉีแต่เพียงผู้เดียว
แต่อย่าลืมไปว่าขณะที่ได้ชื่อเสียงมาก็จะได้ศัตรูกลับมาเช่นกัน แม้จะกล่าวว่าเผ่าเสวียนเซียวกงกับตงหลิง ซีหลิง และหนานหลิงเป็นศัตรูกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะหมดหนทางในการคลี่คลาย หากแต่เผ่าเสวียนเซียวกงจัดการกองทัพอีกฝ่ายเพียงผู้เดียว แบบนั้นก็ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายไม่มีวันคลี่คลาย
เสด็จอาเก้ากำลังใช้ประโยชน์จากทุกคนจนถึงขีดสุด คำพูดเหล่านี้ปลุกเลือดในตัวให้พลุ่งพล่าน ง่ายที่จะทำให้คนเห็นด้วย แต่โชคดีที่เซวียนเส้าฉีไม่หมกมุ่นอยู่กับการเอาชนะจนมากเกินไป เมื่อได้ยินคำพูดของเสด็จอาเก้า เขาตั้งสติและใช้ความคิด คิดถึงข้อดีข้อเสียของการทำสงครามครั้งนี้
หวังจิ่นหลิงยิ้มโดยไม่พูดอะไร ใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินดูน่าเกลียด ในใจของนางเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ทนไม่ไหวจนต้องกล่าวออกมาว่า “แบบนี้จะดีอย่างนั้นหรือ? ทำลายกองทัพหนึ่งแสนนายของอีกฝ่ายจนสิ้นซาก แบบนั้นจะไม่เป็นการทำให้อีกฝ่ายโกรธอย่างนั้นหรือ? กองทัพหนึ่งแสนนายเผ่าเสวียนเซียวกงสามารถต้านทานไว้ได้ แต่สามแสนนาย? ห้าแสนนายเล่า? คิดว่าเผ่าเสวียนเซียวกงจะต้านทานไว้ได้อย่างนั้นหรือ?”
ต้องรู้ก่อนว่านี่คือการร่วมมือกันของสามประเทศ เผ่าเสวียนเซียวกงสามารถเปิดศึกกับประเทศใดประเทศหนึ่งได้ แต่ไม่มีทางเปิดศึกกับทั้งสามประเทศพร้อมกันได้ หากเป็นเช่นนั้น มันก็ถึงเวลาที่เผ่าเสวียนเซียวกงจะหายไปจากประวัติศาสตร์ของแผ่นดินจิ่วโจวอันยิ่งใหญ่
“ไม่ใช่หนึ่งแสน แค่สามหมื่น สำหรับเผ่าเสวียนเซียวกงอาจเป็นหนึ่งแสน แต่สำหรับพวกซีหลิงมีเพียงแค่สามเท่านั้น ซีหลิงเทียนเหล่ยกับหนานหลิงจิ่นฝานจะรู้สึกเจ็บใจเพราะทหารสามหมื่นนายอย่างนั้นหรือ อีกอย่างพวกเขาไม่มีความสามารถในการเคลื่อนย้ายทหารจำนวนมากกว่านี้แล้ว ส่วนตงหลิง? ข้ารับประกันว่า หากตงหลิงยังมีข้าอยู่ ทหารของตงหลิงไม่มีวันบุกมายังเผ่าเสวียนเซียวกง” เสด็จอาเก้าตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ปล่อยทหารแสนนายนี้มีชีวิตรอดกลับไป และเขายังให้คำสัญญาที่มีแต่จักรพรรดิแห่งตงหลิงเท่านั้นที่ทำได้
หลังจากการต่อสู้ครั้งผู้ที่ถูกโกรธเคืองไม่ใช่เซวียนเส้าฉีแต่เป็นหลานจิ่วชิง ต้องรู้ก่อนว่าซีหลิงเทียนเหล่ยและหนานหลิงจิ่นฝานถูกยุยงโดยหลานจิ่วชิงถึงยกทัพมายังเผ่าเสวียนเซียวกง สุดท้ายไม่เพียงไม่ได้ผลประโยชน์อะไร แต่ยังต้องสูญเสียทหารทั้งหมด ด้วยอารมณ์และนิสัยของสองคนนั้น พวกเขาจะต้องไปคิดบัญชีกับหลานจิ่วชิงอย่างแน่นอน
“แต่มันก็ยังอันตรายเกินไป อย่างลืมว่าซีหลิงเทียนเหล่ยเป็นองค์รัชทายาทแห่งซีหลิง หากไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย เขาจะต้องเป็นผู้ครอบครองบัลลังก์ แม้ตอนนี้เขายังไม่สามารถแก้แค้นได้ แต่เมื่อวันที่เขาได้ขึ้นครองบัลลังก์ การที่เขาจะยกทัพมาจัดการกับเผ่าเสวียนเซียวกงก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แบบนั้นเผ่าเสวียนเซียวกงจะทำอย่างไร?” เซวียนเส้าฉีไม่ได้กังวล แต่เฟิ่งชิงเฉินกลับเป็นคนยกหัวข้อที่ควรเป็นกังวลขึ้นมา
บางครั้งการต่อสู้ก็อาศัยเพียงความบ้าคลั่งอย่างเดียวไม่ได้ จำเป็นต้องพิจารณาถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น การกำจัดทหารแสนนาย ผลลัพธ์ที่ได้นั้นหนักหนาเกินกว่าเผ่าเสวียนเซียวกงจะรับได้ เผ่าเสวียนเซียวกงไม่มีทางรับไหวอย่างแน่นอน
แต่กองทัพจำนวนแสนนายนี้ เสด็จอาเก้าไม่มีทางยอมปล่อยให้พวกเขาได้กลับไปอย่างแน่นอน เสด็จอาเก้าหันมาถามเฟิ่งชิงเฉินว่า “งั้นเจ้ามีความคิดอะไรที่ดีกว่านี้หรือไม่? ให้พวกเขาถอยทัพ? พวกเขาจะยอมอย่างนั้นหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...