นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 769

สรุปบท บทที่ 769 จ้องมองด้วยความผูกพัน ถูกคนสะกดรอยตาม: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

อ่านสรุป บทที่ 769 จ้องมองด้วยความผูกพัน ถูกคนสะกดรอยตาม จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

บทที่ บทที่ 769 จ้องมองด้วยความผูกพัน ถูกคนสะกดรอยตาม คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย อาช้าย อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ยิ่งคิดเฟิ่งชิงเฉินก็ยิ่งรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม นางดึงผ้าห่มออกมา ฝั่งร่างทั้งร่างไว้ในผ้าห่มแล้วม้วนเป็นวงกลม นี่คือตัวอย่างท่าทางของคนที่รู้สึกไม่ปลอดภัย

มือที่ถอดเสื้อผ้าออกของเสด็จอาเก้าแข็งทื่อ ไม่เข้าใจว่าเฟิ่งชิงเฉินเป็นอะไรไป หรือว่านางจะอารมณ์เสียเพราะเรื่องของจั่วอั้น?

ดูเหมือนว่าใช่ เสด็จอาเก้าพยักหน้าด้วยความเข้าใจ แต่ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถอดเสื้อผ้าออกอีกหนึ่งชั้น เช็ดมือและเดินไปข้างเตียง

ร่างกายของเฟิ่งชิงเฉินขดอยู่ในผ้าห่ม บ่งบอกว่าไม่อยากให้เสด็จอาเก้าเข้ามานอนด้วย เสด็จอาเก้าขมวดคิ้วเล็กน้อย ที่จริงก็ไม่รู้ว่าทำไมเฟิ่งชิงเฉินจึงสงสัยถึงขนาดนี้ โชคดีที่เขาอาบน้ำก่อนที่กลับเข้ามาในห้อง

เฟิ่งชิงเฉินแสดงให้เห็นว่านางไม่มีความสุขอย่างชัดเจน เสด็จอาเก้าลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาก็ไม่ได้ก้าวก่ายอีกฝ่ายเพื่อสร้างปัญหา กลิ่นเครื่องสำอางและแป้งบนตัวของเขายังคงอยู่อย่างชัดเจน แม้แต่เขาเองก็ไม่ชอบมัน คิดว่าเสด็จอาเก้าก็คงไม่มีทางชอบ เขาจึงรอให้กลิ่นจางลงก่อนแล้วค่อยเข้าไปนอน

ดังนั้นเสด็จอาเก้าจึงยืนอยู่ข้างเตียงเช่นนั้นโดยไม่เคลื่อนไหว

คนทั้งคนยืนอยู่ตรงนี้ ต่อให้เฟิ่งชิงเฉินจะสะกดจิตตนเองให้รีบหลับไป นับแกะเป็นพันตัว แต่ก็ยังไม่สามารถข่มตาหลับได้

แต่ถึงกระนั้นเฟิ่งชิงเฉินก็สั่งตัวเองไม่ให้เคลื่อนไหว และห้ามหันไปเป็นอันขาด ครั้งนี้เสด็จอาเก้าจะต้องอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน ไม่อย่างนั้นนางไม่มีทางหายโกรธอย่างแน่นอน

เสด็จอาเก้าไม่ชอบใกล้ชิดกับผู้หญิง แต่เขาก็เคยสัมผัสตนเองแล้วไม่ใช่หรือ มีหนึ่งก็ต้องมีสอง ใครจะไปรู้ว่ากลิ่นเครื่องสำอางพวกนี้มันมาจากไหน......

เฟิ่งชิงเฉินต้องการคำอธิบาย เสด็จอาเก้าไม่มีทางอธิบายออกมา ทั้งสองคนแข็งทื่ออยู่แบบนั้นทั้งคืน เฟิ่งชิงเฉินนอนอยู่บนเตียงแต่ไม่ได้หลับ เสด็จอาเก้าเองก็ยืนอยู่ข้างเตียงและไม่ได้หลับเหมือนกัน เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น ใบหน้าของทั้งสองคนดูไม่ค่อยดีนัก

“ฮึ......”

ในตอนที่เฟิ่งชิงเฉินลุกขึ้นมาและเดินผ่านเสด็จอาเก้า นางหันหน้าไปทางอื่นโดยไม่สนใจ ไม่สนว่าใบหน้าของเสด็จอาเก้าจะน่าเกลียดแค่ไหน นางตรงไปล้างตัวและทำอาหารเช้า

เมื่อเสด็จอาเก้าลองดมกลิ่นบนร่างกายของตนเอง รู้ว่ามันหายไปจนแทบจะหมดแล้ว เขาจึงรีบไปเก็บข้าวของและรับประทานอาหารเช้ากับเฟิ่งชิงเฉิน

หลังจากเห็นเสด็จอาเก้าไม่มีท่าทีหวาดผวาหรือขาดความมั่นใจในตนเองหลังจากที่กระทำความผิดมา เฟิ่งชิงเฉินขมวดคิ้ว สุดท้ายตัดสินใจถามออกไป เมื่อคืนเนื่องจากเรื่องของจั่วอั้นนั้นสร้างแรงกดดันอย่างมาก ประกอบกับสภาพแวดล้อมซึ่งไม่คุ้นเคย จึงทำให้อารมณ์ไม่คงที่และขาดสติ

หลังทานอาหารเช้าเรียบร้อย เฟิ่งชิงเฉินกระแอมในลำคอ จงใจเอ่ยปากถามเหมือนไม่ใส่ใจ “แฮ่ม แฮ่ม เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น?”

“ไปเรือนดอกไม้เพื่อพบใครคนหนึ่ง” เห็นเฟิ่งชิงเฉินพูดเรื่องเมื่อคืนวานขึ้นมา เสด็จอาเก้าพูดออกไปอย่างไม่ร้อนใจ

“เจ้าแพ้กลิ่นหอมไม่ใช่หรือ? ทำไมเมื่อวานถึงได้มีกลิ่นแปลก ๆ ติดตัวเจ้ามา และข้าก็ไม่เห็นว่าเจ้าจะแพ้แต่อย่างใด” ตอนนี้เฟิ่งชิงเฉินเพิ่งนึกได้อย่างกะทันหันว่า บางที่เสด็จอาเก้าอาจจะไม่รู้ว่าตนเองกำลังโกรธเรื่องอะไร

นางมีความรู้สึกคับข้องใจอยู่ลึก ๆ

ผู้ชายคนนี้เวลาที่ควรฉลาดกลับโง่อย่างบอกไม่ถูก แต่เวลาที่ไม่ควรฉลาดกลับฉลาดจนน่ากลัว

เสด็จอาเก้ารู้สึกโกรธเมื่อนางกับหวังจิ่นหลิงอยู่ใกล้ชิดกันมากเกินไป แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่า นางเองก็รู้สึกโกรธเมื่อเห็นเขาอยู่ใกล้กับผู้หญิงคนอื่นมากเกินไปเช่นกัน

ซูหว่าน ฉู่ฉางฮว๋า และอีกหลายคน แม้เสด็จอาเก้าจะไม่ได้ใกล้ชิดกับพวกเขามากนัก แต่......ทั้งสองคนเป็นผู้ที่น่าจับตามองของตำแหน่งพระชายาอ๋องเก้า

นางเองก็รู้สึกกังวล รู้สึกกลัว

เสด็จอาเก้ายังไม่มีพระชายา นางถึงได้อยู่กับเสด็จอาเก้าอย่างสบายใจ หากเสด็จอาเก้ามีพระชายาขึ้นมา แบบนั้นนางควรทำเช่นไร?

“งดงามมาก ” เสด็จอาเก้ากล่าวออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ

“งั้นเจ้าช่วยข้าปักมันหน่อยได้หรือไม่?” เฟิ่งชิงเฉินยื่นปิ่นปักผมให้เสด็จอาเก้า จ้องมองอีกฝ่ายอย่างจริงใจด้วยอารมณ์ที่อ่อนโยน แม้แต่พ่อค้าขายปิ่นปักผมเองยังคิดว่าพวกเขาทั้งสองเป็นสามีภรรยาที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เขาจึงรีบแนะนำออกมา “คุณผู้หญิงท่านนี้ช่างตาดีเหลือเกิน ปิ่นมุกดอกบ๊วยชิ้นนี้ช่างเหมาะกับคุณผู้หญิงเป็นอย่างมาก”

แฮ่ม แฮ่ม เฟิ่งชิงเฉินกำลังจะปักปิ่นปักผม

ปิ่นมุกดอกบ๊วย?

เมื่อนางได้ยินคำพูดของพ่อค้าก็พบว่า การที่ตนเองหยิบขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจกลับไปหยิบปิ่นมุกดอกบ๊วยที่มีอยู่เพียงชิ้นเดียวขึ้นมา ในตอนนั้นนางรู้สึกเสียใจอย่างสุดจะพรรณนา

บนเส้นทางที่ผ่านมาจนมาถึงซีหลิง ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางครั้งนี้ถือเป็นความทรงจำอันล้ำค่าของนาง นางได้เห็นเสด็จอาเก้าในสภาพเรียบง่าย ปฏิบัติกับนางอย่างอบอุ่น ดูแลนางเป็นอย่างดี เหมือนกับว่าเขามีในใจของเขามีแค่นางคนเดียวเท่านั้น

แต่เมื่อถึงซีหลิง เสด็จอาเก้ากลายเป็นผู้ชายที่ไม่สามารถคาดเดาได้ มีการคำนวณและแผนการมากมายในใจ เปลี่ยนมือเป็นเมฆและเปลี่ยนมือเป็นฝน

ช่องว่างดังกล่าวทำให้เฟิ่งชิงเฉินปรับตัวไม่ทัน

พ่อค้าเห็นเสด็จอาเก้าจ้องมองไปยังเฟิ่งชิงเฉินโดยไม่กะพริบตา เอื้อมือไปจับปิ่นปักผมโดยไม่รู้ตัว เขาจึงเริ่มพูดจาหยอกล้อ แต่เมื่อเห็นสายตาที่จ้องมองมาของเสด็จอาเก้าเขาก็หุบปากด้วยความตกใจ

เสด็จอาเก้ารับปิ่นปักผมมา โน้มตัวไปด้วยหน้า ปักปิ่นด้วยความระมัดระวัง ทั้งสองคนใกล้ชิดกันมาก เฟิ่งชิงเฉินได้กลิ่นที่ยังติอยู่บนตัวของเสด็จอาเก้า ทันใดนั้นนางก็กลับมาเยือกเย็นในทันที

“พวกเราถูกสะกดรอยตาม” เฟิ่งชิงเฉินอยู่ในอ้อมกอดของเสด็จอาเก้า ให้เสด็จอาเก้าปักปิ่นให้นาง จึงใช้โอกาสนี้ในการพูดออกมา......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ