นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 793

สรุปบท บทที่​ 793 เมื่อวานข้ากับ.....อยู่ด้วยกัน: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

ตอน บทที่​ 793 เมื่อวานข้ากับ.....อยู่ด้วยกัน จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่​ 793 เมื่อวานข้ากับ.....อยู่ด้วยกัน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่เขียนโดย อาช้าย เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

หลังจากที่เฟิ่งชิงเฉินแต่งตัวเสร็จ นางก็นั่งรถม้าของจวนอ๋องเก้าออกไป และจงใจให้คนจำนวนมากเห็นนางเดินทางออกไป

นางต้องการให้ทุกคนที่เห็นเป็นพยานว่านางอยู่ในจวนอ๋องเก้าเมื่อคืนนี้​ ไม่สำคัญหรอกว่าจะจริงหรือไม่ แต่สิ่งที่นางต้องการคือพยานและหลักฐานที่จะทำให้เหล่าขุนนางเชื่อว่านางอยู่ในจวนอ๋องเก้าเมื่อคืนนี้

คนส่วนใหญ่ในโลกจะเชื่อในสิ่งที่เห็นด้วยตา​ พวกเขาเห็นเฟิ่งชิงเฉินเดินออกจากจวนอ๋องเก้าในตอนเช้า และเมื่อรวมกับข่าวลือระหว่างเฟิ่งชิงเฉิน และเสด็จอาเก้า พวกเขาจะเชื่อว่าเฟิ่งชิงเฉินอยู่ในจวนอ๋องเก้าเมื่อคนจริง​ ๆ​ และนางก็ไม่สนใจว่าชื่อเสียงของนางจะเสียหายหรือไม่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรก และนางเชื่อว่าจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย

ศาลต้าหลี่ไม่พบใครในจวนตระกูลเฟิ่ง พวกเขาจึงกลับไปที่ศาลต้าหลี่ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ และตอบเสียงดังต่อหน้าทุกคนที่อยู่ที่นั่น "ใต้ท้าว ไม่พบเผิ่งชิงเฉินที่จวนตระกูลเฟิ่ง คุณหนูเฟิ่งไม่อยู่ที่จวน คุณหนูเฟิ่งไม่ได้อยู่ในบ้านเลย คนรับใช้และผู้คุ้มกันก็ไม่มีใครอยู่”

ประโยคแรกไม่มีอะไร แต่ประโยคหลังเป็นการดูถูกอย่างชัดเจน แน่นอนว่าพวกเขาต่างปกป้องซึ่งกันและกัน แววตาของทนายซ่งมีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด คดีที่เดิมมีโอกาสชนะ 70% เหลือเพียง 50 % เนื่องจากการตอบโต้ขององครักษ์เสื้อสีโลหิตในตอนนี้ และไม่มีใครพบเหิ่งชิงเฉินที่จวนเฟิ่ง โอกาสที่จะชนะคดีนี้มีเพียง 20% เท่านั้น

ทนายซ่งรู้สึกขอบคุณที่พวกเขาไม่พบซุนซือสิงในจวนเฟิ่ง หากพบซุนซือพวกเขาจะแพ้คดีทันที ไม่เพียงแต่ซุนซือสิงจะต้องตาย แต่คนจวนเฟิ่งทั้งหมดจะต้องจัดการกับเรื่องนี้​ การปล้นคุกและชิงตัวนักโทษเป็นเรื่องร้ายแรง โทษถึงตัดศีรษะ

"ฮ่า​ ๆ.​.." เมื่อได้ยินเช่นนี้ หัวหน้าแผนกอาชญากรมก็หัวเราะอย่างชั่วร้าย "ใต้ท้าว เฟิ่งชิงเฉินนำคนไปปล้นคุกเมื่อคืนนี้ และโจรผู้นี้อาจหลบหนี หรือซ่อนตัวอยู่ ทางการควรออกเอกสารเพื่อจับกุมตัวเฟิ่งชิงเฉิน​ และนำนางเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม"

ศาลต้าหลี่พยักหน้า แต่เขาหาเฟิ่งชิงเฉินไม่พบ ไม่ใช่เรื่องยากที่จะพิจารณาเหตุการณ์ที่นางกระทำเป็นอาชญากรรม ศาลต้าหลี่รีบร้อนที่จะได้ข้อสรุป

เมื่อทงเหยาถูกสะกิด นางก็น้ำตาไหลทันที ทำให้ผู้ดูแลวัดต้าหลี่ไม่มีโอกาสได้พูด "ใต้ท้าว ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดเอง แต่ข้าไม่ได้ปล้น คุกขององครักษ์เสื้อสีโลหิตมีการป้องกันอย่างแน่นหนา เราจวนเฟิ่งต่างเป็นผู้หญิงจะทำได้อย่างไร? "

สิ่งนี้ก็สมเหตุสมผลเช่นกัน และง่ายมากที่องครักษ์เสื้อสีโลหิตจะถูกเพ่งเล็ง

นางใช้ความอ่อนแอของผู้หญิงเอาแต่ร้องไห้ สร้างปัญหา และอยากแขวนคอตาย ไม่ใช่เรื่องผิดที่ทงเหยาจะร้องไห้กับความอยุติธรรม​ และคำพูดของนางทำให้ศาลต้าหลี่ลังเลอยู่พักหนึ่ง และในเวลานี้คนจากจวนซุ่นหนิงก็มาถึงเช่นกัน

ชายผู้มาจากจวนซุ่นหนิงเป็นปรมาจารย์เช่นกัน และเมื่อเขามา เขาก็ยื่นคำร้อง​ให้ศาลฟ้องเฟิ่งชิงเฉินที่ทำลายชื่อเสียงของจวนซุ่นหนิง

เฟิ่งชิงเฉินและซุนซือสิงถูกขนานนามว่าเป็นคนเลว ซุนซือสิงหลงในความงามของลูกสาวจวนซุ่นหนิง ในทางกลับกัน การกล่าวหาพวกเขาอย่างผิด ๆ เป็นความผิดที่ไม่อาจให้อภัยได้

เฟิ่งชิงเฉินเป็นโจทก์ แต่ในขณะนี้เขากลายเป็นจำเลย จำเลยของโจทก์ ทนายซ่งหวังกับสถานการณ์นี้ แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือเฟิ่งชิงเฉินหายตัวไป และการหายตัวไปของนางอาจเป็นได้ว่าเป็นอุบัติเหตุ​ หรืออาจกล่าวได้ว่าหนีเพราะกลัวเป็นอาชญากร

อาชญากรรมที่ร้ายแรงที่สุดคือเฟิ่งชิงเฉินเป็นกระดูกสันหลังของจวนเฟิ่ง ถ้านางหายตัวไปจะต่อสู้คดีนี้ได้อย่างไร? ทนายซ่ง ตั้งใจที่จะแพ้ก่อนที่จะต่อสู้

ทุกคนหันไปตามเสียงและเห็นเฟิ่งชิงเฉินสวมชุดสีฟ้ายืนอยู่ข้างหลังฝูงชน เย็นชาและห่างไกลราวกับดอกเหมยบานที่ขอบหน้าผา

ผู้ชมเหมือนจะตกลงกันได้ และหลังจากที่เฟิ่งชิงเฉินตะโกนออกมา พวกเขาก็ก้าวถอยหลังเพื่อหลีกทางให้เฟิ่งชิงเฉินเข้าไปในศาล

"คุณหนู ในที่สุดคุ​ณหนู​ก็มาถึงแล้ว องครักษ์เสื้อสีเลือดกล่าวหาว่าคุณหนูปล้นนักโทษ และจวนซุ่นหนิง​กล่าวหาว่าคุณหนูช่วยคุณชายซุน เป็นเหตุให้เกิดการก่ออาชญากรรม และยังบอกด้วยว่าคุณหนูได้ทำลายชื่อเสียงของจวนซุ่นหนิง...คุณหนูพวกเขาไปจวนเฟิ่งแต่ไม่พบคุณหนู​ ดังนั้นพวกเขาจึงบอกว่าคุณหนูหลบหนีเพราะกลัวอาชญากรรม​ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการเอาชนะ​ คุณหนู ถ้าคุณหนูไม่มา​ ข้าน้อยต้องถูกซ้อมจนตาย”

ทงเหยาผละออกจากความรู้สึกเดิม นางร้องไห้​ ตะโกน และรีบไปหาเฟิ่งชิงเฉิน จากนั้นคุกเข่าลงแทบเท้าเฟิ่งชิงเฉิน และเปล่งเสียงด้วยความคับข้องใจ แต่จริง ๆ แล้วนางจะบอกเฟิ่งชิงเฉินถึงเหตุที่เกิดขึ้น

สาวรับใช้คนนี้ไม่ใช่คนฉลาดธรรมดา นางพูดต่อหน้าทุกคน และไม่มีใครโทษว่านางผิด ทุกคนในห้องพิจารณาคดีมองไปที่เฟิ่งชิงเฉินพร้อมเพรียงกัน คดีวันนี้เต็มไปเรื่องหักมุมจริง​ ๆ

ทนายซ่งก้าวไปข้างหน้า​ และคำนับเฟิ่งชิงเฉินเล็กน้อย "คุณหนูเฟิ่ง" แม้ว่าเขาจะมีความสามารถและมีชื่อเสียง แต่เขาก็ไม่กล้าหยิ่งต่อหน้าเฟิ่งชิงเฉิน

“อืม” เฟิ่งชิงเฉินตอบกลับ พร้อมทั้งพยักหน้าให้ทงเหยาอีกครั้ง จากนั้นเดินเข้าไปด้วยใบหน้าเย็นชา และยืนอยู่บนพื้นหินเย็นในศาล เฟิ่งชิงเฉินเผชิญหน้ากับผู้ใหญ่ทั้งสามที่อยู่ตรงข้ามกัน เมื่อมองมาที่นางดวงตานางเปล่งประกายความเยือกเย็น​ และพลิกสถานการณ์ทันที ทำให้ทุกคนในศาลหันมาสนใจนาง และทุกอย่างในศาลจะถูกควบคุมโดยเฟิ่งชิงเฉิน ...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ