การขอร้องของเฟิ่งชิงเฉินนั้นสมเหตุสมผลมาก หัวหน้าศาลต้าหลี่ไม่มีความจำเป็นต้องทำให้เฟิ่งชิงเฉินลำบากใจ แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมเฟิ่งชิงเฉินถึงต้องออกหน้ามาเอง แต่ก็เห็นด้วยกับอีกฝ่าย
ได้รับอนุญาตจากหัวหน้าศาลต้าหลี่ เฟิ่งชิงเฉินสามารถถามคำถามได้อย่างกล้าหาญโดยไม่ต้องสนใจสิ่งใด
เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้รีบร้อนเอ่ยปาก แต่ค่อย ๆ ก้าวเดินไปด้านหน้า ยืนอยู่ด้านหน้าของหมิงเตี่ยน จ้องมองอดีตคนทรยศที่เคยเป็นองครักษ์ของตนอย่างไม่ลดละ
จ้องมองอย่างสงบและเยือกเย็น ไม่ได้พูดอะไรออกมา คนหนึ่งนั่งคนหนึ่งคุกเข่า เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น แต่หมิงเตี่ยนกลับรู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาลจากด้านบนศีรษะ หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความกังวล เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว จะเสียใจภายหลังไม่ได้ และในความเป็นจริงมันก็ไม่สามารถกลับมาเสียใจภายหลังได้
เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้โน้มน้าวหรือคุกคามฝ่ายตรงข้าง ในตอนที่ทุกคนทนรอต่อไปไม่ไหว เฟิ่งชิงเฉินเอ่ยปากถามออกมาอย่างเฉยเมย “หมิงเตี่ยน เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร?”
คำถามนี้หมายความว่าอย่างไร? หมิงเตี่ยนไม่เข้าใจ แต่ทำได้เพียงพยักหน้าและตอบกลับไปว่า “คุณหนูแห่งจวนเฟิ่ง เฟิ่งชิงเฉิน”
“เจ้าพูดถูก ข้าคือคุณหนูแห่งจวนเฟิ่ง และในขณะเดียวกันข้าก็คือเจ้านายของเจ้า ถูกไหม?” เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ก้าวร้าว แต่คนที่เห็นและได้ยินคำพูดของนางก็รู้ได้ทันทีว่านางกำลังไม่พอใจ
ถูกลูกน้องหักหลัง แน่นอนว่าผู้เป็นนายจะต้องไม่พอใจ การแสดงออกและคำพูดของเฟิ่งชิงเฉินถือว่าสุภาพมากแล้ว อย่างน้อยก็ยังมีภาพของเจ้านายอยู่
“ใช่” หมิงเตี่ยนพยักหน้าพร้อมตอบกลับไป
“งั้นหรือ แล้วข้าปฏิบัติต่อเจ้าอย่างไร?” เฟิ่งชิงเฉินใช้กลอุบายเดียวกับที่ใช้กับตงหลิงจื่อชุนออกมา ดำเนินการไปทีละขั้นตอนเพื่อให้อีกฝ่ายเข้าสู่กับดัก
“คุณหนูดูแลข้าเป็นอย่างดี” แม้จำถามของเฟิ่งชิงเฉินจะดูธรรมดา แต่ใบหน้าของหมิงเตี่ยนกลับซีดเซียวลงไปทุกที เหงื่อเย็นบนหน้าผากไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ดูจากท่าทางและเขาเองก็น่าจะรู้ว่าตนเองกำลังตกที่นั่งลำบาก
เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้รู้สึกเห็นอกเห็นใจอีกฝ่าย ไม่ว่าอีกฝ่ายจะทรยศเพราะเหตุใด ยังไงคนทรยศก็ต้องถูกลงโทษ คำถามก่อนหน้านี้เป็นเพียงการคาดเดา เฟิ่งชิงเฉินไม่ปกปิดความโกรธของตนเองอีกต่อไป กล่าวออกมาด้วยอารมณ์โกรธว่า “หมิงเตี่ยน ในเมื่อข้าดีกับเจ้ามาตลอด งั้นทำไมเจ้าถึงต้องทรยศข้าด้วย? ทำไมเจ้าถึงได้ไปร่วมมือกับองครักษ์เสื้อโลหิตเพื่อใส่ร้ายข้า? คิดว่าเจ้าทำแบบนี้แล้วจะจัดการกับข้าได้อย่างนั้นหรือ? จัดการกับจวนซู่ชินอ๋องที่ส่งเจ้ามาให้ข้าได้อย่างนั้นหรือ?”
เฟิ่งชิงเฉินเน้นพูดคำว่าจวนซู่ชินอ๋องอย่างชัดเจน เพื่อเตือนสติองครักษ์เสื้อโลหิต และเตือนสติหมิงเตี่ยน องครักษ์ผู้ทรยศต่อจวนเฟิ่ง ไม่เพียงแค่ทรยศต่อนางคนเดียวเท่านั้น แต่ยังทรยศต่อจวนซู่ชินอ๋องด้วย
ด้วยอำนาจและสถานะของซู่ชินอ๋อง หากเขาโกรธขึ้นมาเกรงว่าคงไม่ส่งผลดีต่อองครักษ์เสื้อโลหิตเป็นแน่
ปัง ปัง ปัง......เม็ดเหงื่อที่เหมือนไข่มุกตกลงบนพื้น แตกกระจายไปทั่ว ร่างกายของหมิงเตี่ยนสั่นเทา ตอนนี้เขากลัวเป็นอย่างมาก แต่เขาไม่มีทางให้ถอย เขาไม่ได้ทรยศ เขาแค่ภักดีต่อหน้าที่ของเขาเท่านั้น
เดิมทีเขาคือคนขององครักษ์เสื้อโลหิต องครักษ์เสื้อโลหิตส่งเขาเข้าไปเป็นสายลับในจวนซู่ชินอ๋อง หลังจากถูกส่งมายังจวนเฟิ่ง เขาก็มีหน้าที่คอยจับตาดูการเคลื่อนไหวของจวนเฟิ่ง หน่วยเหนือต้องการให้เขาพูดถึงเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน แน่นอนว่าเขาต้องกัดเฟิ่งชิงเฉินให้ถึงที่สุด
“แม่นางเฟิ่ง ข้าขอโทษ ข้าไม่มีทางเลือก และข้าก็ไม่มีสิทธิ์เลือกด้วยเช่นกัน” เสียงของหมิงเตี่ยนดังก้องอยู่ในใจ
หมิงเตี่ยนสูดลมหายใจเข้า ระงับความกลัวในใจ ก้มหน้าลงต่ำ เขาไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองเฟิ่งชิงเฉิน กล่าวเสียงสั่นออกมาว่า “คุณหนู ข้าไม่ได้ทรยศท่าน ข้าก็แค่......”
ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกเฟิ่งชิงเฉินขัดเอาไว้ก่อน “หมิงเตี่ยน เจ้าไม่ต้องพูดออกมาว่าทนเห็นข้าทำในสิ่งชั่วร้ายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องเผยตัวออกมาเพื่อผดุงความยุติธรรม เพื่อชะล้างความบริสุทธิ์ให้แก่องครักษ์เสื้อโลหิต ฮึ คำพูดนี้อย่าว่าแต่ข้าเลย ตัวเจ้าเองก็เชื่อแบบนั้นหรือ?
หมิงเตี่ยน เจ้าทรยศข้า ข้าไม่โทษเจ้า เพราะทุกคนมีความทะเยอทะยานของตัวเอง เจ้ามีความทะเยอทะยานสูง การที่เจ้าต้องมาอยู่ในจวนเฟิ่งก็เหมือนกับการขังเจ้าไว้ในกรอบ ในฐานะเจ้านายของเจ้า ข้าหวังว่าสิ่งที่เจ้าได้ทำให้กับองครักษ์เสื้อโลหิตในวันนี้ จะส่งผลดีต่อลู่ทางในอนาคตของเจ้า หมิงเตี่ยน ในฐานะเจ้านายคนเก่าของเจ้า ข้าขอให้เจ้ามีอนาคตที่สดใส”
“คุณหนู......” ร่างกายของหมิงเตี่ยนแทบจะบิดตัว เขาเข้าใจในคำพูดของเฟิ่งชิงเฉิน และเขาก็รู้ว่าหลังจากเรื่องในวันนี้จบลง องครักษ์เสื้อโลหิตไม่มีทางปล่อยเขาเอาไว้อย่างแน่นอน เพื่อระงับความโกรธของซู่ชินอ๋อง องครักษ์เสื้อโลหิตไม่มีทางปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไปแน่นอน
ในตอนที่เขาได้เป็นสายลับ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าอนาคตอันสดใสของเขาได้ดับสลายไปแล้ว แต่ในตอนที่วันนั้นมาถึง เขากลับรู้สึกกลัวจนไม่สามารถอธิบายออกมาได้ เขาไม่กล้าขอร้องให้เฟิ่งชิงเฉินปล่อยเขาไป เขาแค่อยากถามว่า ตอนนี้เขาสามารถขออะไรได้บ้าง?
หมิงเตี่ยนมองดูแผ่นหินใต้เท้าของเขาอย่างเศร้าใจพร้อมหลั่งน้ำตา เขาถูกองครักษ์เสื้อโลหิตทอดทิ้ง แม้แต่ชีวิตก็ไม่เหลือ เขาไม่สามารถขออะไรได้อีกต่อไปแล้ว
หึ......เฟิ่งชิงเฉินพ่นลมหายใจอันเยือกเย็นออกมา หันกลับมาด้วยความเย่อหยิ่ง ไม่สนใจคนทรยศตรงแทบเท้า ไม่สนใจว่าหมิงเตี่ยนจะภักดีแค่ไหน นางไม่สามารถปกป้องหมิงเตี่ยนได้อีกต่อไป อีกอย่างนางเองก็ไม่ใช่นักบุญ
เฟิ่งชิงเฉินไม่อธิบายอะไรออกมาเลยแม้แต่น้อย แค่บอกว่าตนเองผิดหวังในตัวของหมิงเตี่ยน แค่บอกว่าหมิงเตี่ยนทรยศเจ้านาย แต่การไม่บอกอะไรของนาง กลับเป็นการบอกว่าองครักษ์เสื้อโลหิตซื้อตัวองครักษ์ของนางเพื่อมาเป็นพยานเท็จ องครักษ์เสื้อโลหิตใช้ประโยชน์จากองครักษ์ของนาง
ครั้งนี้หัวหน้าฝ่ายคดีอาญาฉลาดมาก ทันทีที่เห็นว่าสถานการณ์ไม่ปกติ เขารีบออกหน้าทันที “เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าอย่ามาพูดไร้สาระ องครักษ์เสื้อโลหิตของข้าไม่ได้ใส่ร้ายเจ้า เมื่อวานเจ้าบุกไปยังองครักษ์เสื้อโลหิตเพื่อชิงตัวนักโทษ นี่คือความจริง ตอนนี้องครักษ์แห่งจวนเฟิ่งของเจ้าออกมาเพื่อเปิดเผยความจริง ผดุงความยุติธรรม เจ้ายังไม่ยอมรับอีกอย่างนั้นหรือ หากเจ้าหน้าที่ของศาลต้าหลี่ไปตรวจสอบยังจวนของเจ้า พบว่าองครักษ์ของเจ้ามีอาการบาดเจ็บ ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะปฏิเสธอย่างไร”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...