นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 840

สรุปบท บทที่ 840 ความยุติธรรม ฆาตกรจะไม่ลอยนวล: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

อ่านสรุป บทที่ 840 ความยุติธรรม ฆาตกรจะไม่ลอยนวล จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

บทที่ บทที่ 840 ความยุติธรรม ฆาตกรจะไม่ลอยนวล คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย อาช้าย อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

หัวหน้าศาลต้าหลี่พูดออกมาเช่นนั้น เฟิ่งชิงเฉินก็รู้ได้ทันทีว่ามีหวัง จึงรีบกล่าวออกมาว่า “ใต้เท้าโปรดอนุญาตให้ชิงเฉินทำการชันสูตรศพด้วยเถิด จากบันทึกที่แม่นางลิ่วเขียนไว้ นางตั้งครรภ์ได้ห้าเดือน นั่นแปลว่าเด็กในท้องของนางก่อตัวเป็นรูปร่างเรียบร้อยแล้ว เวลานี้แค่น้ำเลือดเนื้อของเด็กในครรภ์ออกมาตรวจสอบว่ามีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับคุณชายรองเฉินหรือคุณชายสามเฉินหรือไม่ เท่านั้นก็สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่าบันทึกที่แม่นางลิ่วเขียนไว้เป็นความจริงหรือไม่”

ตอนแรกคุณชายรองเฉินกับคุณชายสามเฉินกังวลว่าเฟิ่งชิงเฉินจะใช้วิธีการอันชาญฉลาด แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเฟิ่งชิงเฉิน แววตาของทั้งสองคนเปล่งประกาย จากนั้นพวกเขาก็ก้มหัวลงราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ราวกับยอมรับการตัดสินของหัวหน้าศาลต้าหลี่ทุกประการ

“ชันสูตรศพเพื่อพิสูจน์ความสัมพันธ์ทางสายเลือด ดี วิธีนี้ดีมาก แม้จะเป็นการไม่ให้เกียรติแม่นางลิ่วอยู่บ้าง แต่มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับแม่นางลิ่วได้ เชื่อว่าจิตวิญญาณของแม่นางลิ่วที่อยู่บนสวรรค์คงเข้าใจ”

ในตอนที่หัวหน้าศาลต้าหลี่กำลังลังเล เจ้ากรมอาญาเอ่ยปากเห็นชอบ แน่นอนว่าสิ่งที่เขาสนใจไม่ใช่คดีของจวนซุ่นหนิงโหว แต่เป็นวิธีการชันสูตรสายเลือดของเฟิ่งชิงเฉิน หากวิธีนี้ใช้ได้จริง เช่นนั้นพวกเขาก็จะได้วิธีการพิสูจน์คดีเพิ่มอีกหนึ่งวิธี

“แต่ว่าแม่นางลิ่วเสียชีวิตไปหลายวันแล้ว ศพของนางยังสามารถนำมาชันสูตรได้อยู่อีกงั้นหรือ?” เดิมทีหัวหน้าศาลต้าหลี่กังวลอยู่เล็กน้อย แต่พวกของเสด็จอาเก้าไม่มีใครคัดค้านคำพูดของเจ้ากรมอาญาเลยแม้แต่คนเดียว เขาทำได้เพียงเงียบและยอมรับ เขาจะไปคัดค้านการตัดสินใจของคนพวกนี้ได้อย่างไร

“เวลานี้เป็นช่วงฤดูหนาว แม้ศพของแม่นางลิ่วจะถูกจวนซุ่นหนิงโหวฝังไปแล้ว แต่มันก็น่าจะยังไม่เน่าจนเกินไป นอกจากนี้พวกเราแค่ต้องการเลือดของเด็กในครรภ์เท่านั้น เรื่องพวกนี้จึงไม่น่ามีปัญหา” เฟิ่งชิงเฉินไม่กังวลเกี่ยวกับปัญหาแต่อย่างใด ถึงเวลาขอแค่ได้เลือดมา เท่านั้นนางก็สามารถทำการตรวจสอบได้

หัวหน้าศาลต้าหลี่มองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจของเฟิ่งชิงเฉิน เขาเลิกขัดขวาง โบกมือแล้วกล่าวว่า “ตกลง” จากนั้นหันไปหาคุณชายรองเฉินกับคุณชายสามเฉิน “หลุมฝังศพของแม่นางลิ่วอยู่ที่ใด?”

“เรียนใต้เท้า หลานสาวลิ่วถูกล่วงประเวณี ประกอบกับฆ่าตัวตายด้วยวิธีการพุ่งชนกำแพง จวนซุ่นหนิงโหวของพวกข้าไม่มีวันยอมรับผู้หญิงเช่นนี้ เมื่อนางจากไปได้สามวัน คนในจวนของพวกเราได้ทำการปรึกษากัน ตัดสินใจโยนศพนางลงไปในน้ำ ส่วนเวลานี้ศพของนางอยู่ที่ไหน......พวกข้าเองก็ไม่รู้”

คุณชายรองเฉินพยายามระงับความตื่นเต้นและความสุขในใจของเขา ไม่มีศพ ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะพิสูจน์อย่างไร คุณชายรองเฉินยังพอระงับไว้ได้ แต่คุณชายสามเฉินนั้นไม่สามารถระงับมันไว้ได้เลย ฉวยโอกาสตอนที่คนไม่สนใจ จ้องมองไปยังเฟิ่งชิงเฉินด้วยแววตาอันชั่วร้าย

“โยนศพลงน้ำ? พวกเจ้านำศพของแม่นางลิ่วโยนลงไปในน้ำงั้นหรือ พวกเจ้ายังเป็นคนอยู่หรือไม่?” เฟิ่งชิงเฉินไม่สนใจสองเดรัจฉานลุงหลานคู่นี้ นางสนใจเพียงศพของแม่นางลิ่ว

ไม่แปลกเลยว่าทำไมเสด็จอาเก้าจึงหาศพของแม่นางลิ่วไม่พบ ที่แท้เจ้าพวกนี้ก็นำศพของนางไปโยนทิ้งน้ำ

“เด็กผู้หญิงไม่บริสุทธิ์ สมควรแล้วที่จะถูกโยนลงน้ำ พวกข้าไม่ได้ทำอะไรผิด” คุณชายรองเฉินกล่าวออกมาอย่างไร้ยางอาย เขาดูค่อนข้างภูมิใจ แววตาที่จ้องมองเฟิ่งชิงเฉินเต็มไปด้วยความชั่วร้ายและเย็นชา

ในสายตาของพวกเขา เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะเฟิ่งชิงเฉิน หากเฟิ่งชิงเฉินไม่สร้างเรื่องนี้ขึ้นมา เรื่องอื้อฉาวในจวนซุ่นหนิงโหวคงไม่ถูกเปิดเผยออกมาเช่นนี้

“พวกเจ้าทำลายศพ เยี่ยม ยอดเยี่ยม พวกเจ้าคิดว่าทำเช่นนี้แล้วข้าจะไม่สามารถตรวจสอบความจริงของแม่นางลิ่วได้งั้นหรือ ในเมื่อพวกเจ้าไม่พูด งั้นพวกข้าจะทำการซักถามตามเวลาในบันทึกที่แม่นางลิ่วเขียนเอาไว้ หกปีก่อนหน้านี้ วันที่สิบหกเดือนสาม พวกเจ้าลุงและหลานอยู่ที่ไหน? มีใครเป็นพยานหรือไม่? อย่าบอกข้าว่าพวกเจ้าลืมเรื่องเมื่อหกปีที่แล้วไปแล้ว งั้นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสามเดือนก่อนหน้านี้หรือหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้เล่า? พวกเจ้ายังจำได้หรือไม่ เวลานั้นพวกเจ้าอยู่ที่ใด มีพยานหรือไม่?”

เฟิ่งชิงเฉินโกรธมาก แม้นางจะชะล้างความบริสุทธิ์ให้กับซุนซือสิงได้แล้ว แต่นางก็ยังไม่รู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อย สุดท้ายนางยังถูกคนของจวนซุ่นหนิงโหวร่วมมือกันเพื่อบ่ายเบี่ยง และโยนความผิดทั้งหมดให้แม่นางลิ่วเป็นผู้แบกรับแต่เพียงผู้เดียว

“แม่นางเฟิ่งมีเรื่องอันใดงั้นหรือ?” หัวหน้าศาลต้าหลี่ยกค้อนขึ้นครึ่งหนึ่ง และยังหยุดมือเอาไว้ได้ สีหน้าของเขาค่อนข้างอึดอัด เฟิ่งชิงเฉินขัดจังหวะการตัดสินคดีของเขา มันเป็นเรื่องที่ไร้มารยาทต่อหัวหน้าผู้พิพากษาเป็นอย่างยิ่ง

เฟิ่งชิงเฉินเองก็รู้ว่าตนเองทำผิดมารยาท รีบขอโทษออกไปทันที “ใต้เท้าโปรดอภัย ชิงเฉินแค่ร้อนใจ ใต้เท้า เป็นไปได้หรือไม่ว่ามีใครบางคนในจวนซุ่นหนิงโหวถูกจับขังเอาไว้?”

“ใช่” แม้หัวหน้าศาลต้าหลี่จะไม่พอใจ แต่เขาก็ตอบออกมาจากใจจริง จวนซุ่นหนิงโหวล้ำเส้นไปกล่าวหาเสด็จอาเก้า แน่นอนว่าเขาต้องลงโทษคนในจวนทั้งหมด

“ตามบันทึกที่แม่นางลิ่วเขียนเอาไว้ นางมีน้องสาวอยู่คนหนึ่ง และเนื่องจากน้องสาวของนางคนนี้ ทำให้แม่นางลิ่วอดทนมาโดยตลอด ขอถามว่าน้องสาวของแม่นางลิ่ว แม่นางแปดอยู่ที่ใด?” เฟิ่งชิงเฉินเองก็ไม่มั่นใจว่าแม่นางแปดผู้นี้จะมีประโยชน์หรือไม่ แต่เมื่อไม่เห็นนางปรากฏตัวออกมา แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องน่าสงสัย เวลานี้นางทำได้เพียงนำความเป็นไปได้ทั้งหมดมาเดิมพันกับความน่าสงสัยนี้

“ปัง......” ใบหน้าของหัวหน้าศาลต้าหลี่ซีดขาว กลัวว่าเสด็จอาเก้าจะกล่าวหาว่าตนเองพิพากษาคดีไม่เต็มที่ รีบถามถึงความเป็นมาของแม่นางแปด สุดท้ายเป็นอย่างที่เฟิ่งชิงเฉินคิด แม่นางแปดผู้นั้นไม่อยู่ และไม่มีคนใช้คนไหนในจวนซุ่นหนิงโหวรู้ว่าแม่นางแปดอยู่แห่งหนใด

สาวน้อยอายุสิบสี่ปีผู้หนึ่ง อาศัยอยู่ในจวนซุ่นหนิงโหวที่เต็มไปด้วยทหารรายล้อม จะหนีออกไปอย่างไร้ร่องรอยได้อย่างไรกัน เช่นนั้นแม่นางแปดผู้นี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดา

เดิมทีมันเป็นเพียงแค่การคาดเดาของเฟิ่งชิงเฉิน แต่เวลานี้ความเป็นไปได้ของมันกลายเป็นสิบส่วน น้องสาวของแม่นางลิ่ว แม่นางแปดผู้นี้มีปัญหา นางอาจเป็นกุญแจสำคัญของคดีในครั้งนี้ แต่ปัญหาก็คือ ตอนนี้นางอยู่ที่ไหน?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ