บทที่ 846 โรคร้ายแรง ผลตรวจทุกอย่างปกติ – ตอนที่ต้องอ่านของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ตอนนี้ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 846 โรคร้ายแรง ผลตรวจทุกอย่างปกติ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
เฟิ่งชิงเฉินขมวดคิ้วและไม่พอใจกับพฤติกรรมของลูกน้องในจวนที่ตะโกนโหวกเหวกโวยวาย หากไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น คงตกใจตายเพราะเสียงตะโกนของพวกเขา
โชคดีที่วันนี้เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ทำการผ่าตัด ไม่เช่นนั้นนางอาจประสบอุบัติเหตุทางการแพทย์เพราะเสียงตะโกนดังกล่าวของพวกเขา ยกมือขึ้นตามความเคยชิน คิดจะนำมือขึ้นมาเช็ดหน้าผากเผื่อเตือนสติตนเอง แต่เมื่อยกมือขึ้นก็พบว่ามือของนางเปื้อนเลือด จึงทำได้เพียงดึงมือกลับมาอย่างช่วยไม่ได้ หันไปหาสาวใช้สองคนที่อยู่ตรงมุมห้อง “ออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น บอกให้พวกเขาเงียบ”
“เจ้าคะ” สาวใช้ทั้งสองยืนอยู่ด้านนอกทั้งคืน แต่พวกนางก็ไม่กล้าถอนหายใจ เมื่อได้ยินคำสั่งของเฟิ่งชิงเฉิน พวกนางรีบวิ่งออกไปโดยเร็ว เวลานี้พวกนางลืมไปว่าหน้าที่ซึ่งสำคัญที่สุดสำหรับพวกนางก็คือการปกป้องเฟิ่งชิงเฉิน
สำหรับเรื่องนี้เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่รู้ สายลับที่แอบอยู่ด้านนอกเห็นว่าสาวใช้ทั้งสองวิ่งออกมาพร้อมกัน แววตาของพวกเขาฉายแววของความประหลาดใจ หลังจากแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่เห็นนั้นเป็นความจริง พวกเขาก็ไว้อาลัยให้พวกนางอยู่ในใจ
ผู้หญิงสองคนนี้จำเป็นต้องถูกส่งกลับไปฝึกใหม่อีกครั้ง เป็นอย่างที่คิด ผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอกว่า สายลับจับตามองอีกฝ่ายและแอบชื่นชมตนเองอยู่ในใจ
นับตั้งแต่กลับมาจากการฝึกซ้ำ พวกเขาถือว่าเป็นสายลับที่อยู่ข้างกายของเฟิ่งชิงเฉินที่นานที่สุด สิ่งนี้มันก็พิสูจน์ได้แล้วว่าพวกเขาคือสายลับมืออาชีพ เมื่อเทียบกับผู้หญิงสองคนนั้น พวกเขาโดดเด่นกว่ามาก
เฟิ่งชิงเฉินถอดถุงมือเปื้อนเลือด ล้างมือเสร็จแล้วเดินออกไป สายลับของซีหลิงเทียนอวี่ยืนอยู่หน้าประตู ยืนแข็งทื่อราวกับต้นไม้ที่ไม่มีการเคลื่อนไหว เมื่อเห็นเฟิ่งชิงเฉินเดินออกมา พวกเขารีบคุกเข่าและกล่าวออกมาว่า “คารวะแม่นางเฟิ่ง โปรดยกโทษให้ข้าที่มารบกวนแม่นางยามดึกเช่นนี้ด้วยเถิด”
แม้คำพูดนี้ พูดออกมาตอนนี้จะดูสายไปหน่อย แต่การกระทำดังกล่าวมันก็พอทำให้รู้สึกสุขใจได้บ้าง ต้องรู้ก่อนว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ติดค้างอะไรกับซีหลิงเทียนอวี่ ไม่มีข้อตกลงว่าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับซีหลิงเทียนอวี่แล้วเฟิ่งชิงเฉินจะต้องให้ความช่วยเหลือ
“ไม่เป็นไร เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน ข้าสามารถเข้าใจได้ นายท่านของพวกเจ้าปลอดภัยแล้ว แต่สุขภาพจิตของเขาอาจได้รับผลกระทบ อาจยังไม่ฟื้นอีกสักพัก เจ้าย้ายเขาไปพักตำหนักด้านข้าง เขายังจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ทางที่ดีให้เขาอาศัยอยู่ที่นี่สักช่วงเวลาหนึ่ง” จากผลการตรวจสมองของซีหลิงเทียนอวี่ เฟิ่งชิงเฉินพบว่าสมองของซีหลิงเทียนอวี่ได้รับการกระทบกระเทือน ทำให้เขาไม่สามารถควบคุมตนเองได้ชั่วขณะ
“ขอครับ” สายลับไม่พูดอะไรมากเฟิ่งชิงเฉินพูดอะไรเขาก็ปฏิบัติเช่นนั้น ภายใต้ความช่วยเหลือของคนใช้ในจวนเฟิ่ง ไม่นานพวกเขาก็ย้ายซีหลิงเทียนอวี่ไปพักอยู่ในห้องที่เฟิ่งชิงเฉินได้จัดเตรียมไว้
ซีหลิงเทียนอวี่เดินอยู่ด้านหน้า เฟิ่งชิงเฉินเดินตามหลังและรู้ถึงปัญหาของความวุ่นวายด้านหน้าจวน เมื่อคนพวกนี้ได้ยินเสียงของสาวใช้ทั้งสอง พวกเขาก็ไม่กล้าตะโกนออกมา แต่พวกเขาเดินเข้ามาหน้ากระท่อมไม้และพูดอย่างร้อนรนว่า “คุณหนู คุณหนู คุณชายใหญ่เกิดเรื่องแล้ว”
“แม่นางเฟิ่ง แม่นางเฟิ่ง ได้โปรด ได้โปรดรีบไปช่วยคุณชายใหญ่เร็ว”
“แม่นางเฟิ่ง ได้โปรด ได้โปรดช่วยคุณชายใหญ่ของพวกข้าด้วย”
......
“เกิดอะไรขึ้นกับจิ่นหลิง?” เฟิ่งชิงเฉินรีบก้าวไปด้านหน้า ในตอนที่ก้าวไปได้สองก้าว นางก็เห็นหวังจิ่นหลิงที่ถูกคนรับใช้พาตัวมา
เฟิ่งชิงเฉินรีบก้าวไปด้านหน้า ตรวจสอบชีพจรของหวังจิ่นหลิงซึ่งกำลังนอนอยู่บนเปล การเต้นของหัวใจ รูม่านตา ขณะเดียวกันนางก็ส่งสัญญาณให้คนนำตัวของหวังจิ่นหลิงเข้าไปในกระท่อม
“วางลง” ซีหลิงเทียนอวี่เพิ่งจะถูกนำตัวออกไป ในห้องดูไม่ค่อยเป็นระเบียบ แต่ก็ไม่ส่งผลต่อการรักษา
จากผลตรวจเบื้องต้นพบว่าชีพจรชีวิตของหวังจิ่นหลิงลดลง ดูอ่อนแอเป็นอย่างมาก หัวใจเต้นไม่คงที่ รูม่านตาของเขาตอบสนองช้ามาก “คุณชายของพวกเจ้าเป็นอะไร?”
ทั้งหมดปกติก็บ้าแล้ว อาการของเขาเป็นถึงขนาดนี้ มันจะปกติได้อย่างไร แค่ใช้ตามองเพียงอย่างเดียวนางก็รู้แล้วว่าหวังจิ่นหลิงผิดปกติ แต่แค่ไม่รู้เท่านั้นว่ามันผิดปกติตรงไหน
ทำการตรวจสอบอีกครั้ง ผลลัพธ์ที่ออกมายังคงเหมือนเดิม คือทุกอย่างเป็นปกติ
หากทุกอย่างเป็นปกติ เช่นนั้นจะจ่ายยาอย่างไร?
อาการของเขาซับซ้อนกว่าตอนที่หลานจิ่วชิงถูกพิษปลอมเป็นอย่างมาก หลานจิ่วชิงยังสามารถมองเห็นบาดแผลภายนอกได้ ยังสามารถตรวจสอบได้ว่ามีความผิดปกติทางระบบประสาท แต่อาการของหวังจิ่นหลิงกลับตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด
เฟิ่งชิงเฉินตกอยู่ในสภาวะหมดหนทาง นี่เป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกว่าความรู้ของนางมีขีดจำกัด นางไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นจากตรงไหนเมื่อเผชิญหน้ากับโรคที่รักษาได้ยากและไม่เคยเห็นมาก่อน และเวลานี้นางก็ไม่มีเวลามากพอที่จะไปศึกษาจากหนังสือทางการแพทย์
“ทำเช่นไรดี?” เฟิ่งชิงเฉินยืนอยู่หน้าโต๊ะผ่าตัด มองไปยังใบหน้าซีดเซียวของหวังจิ่นหลิงด้วยความสงบ แต่สมองของนางกลับคิดอะไรไม่ออก
หวังจิ่นหลิงไม่ได้ป่วยหรือมีอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด นางไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหนก่อน และไม่รู้ว่าควรจ่ายยาอะไร ไม่ว่าจะเป็นหมอจีนหรือหมอแผนปัจจุบัน ต่างต้องทำการวินิจฉัยโรคก่อนถึงสามารถจ่ายยาได้ แต่ตอนนี้นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ป่วยเป็นอะไร เช่นนั้นนางจะจ่ายยาได้อย่างไร
“หากซือสิงอยู่ด้วยก็คงดี แพทย์แผนจีนของเขาดีกว่าข้ามาก” เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าอารมณ์ของตนค่อนข้างตกต่ำ ดังนั้นจึงหยิกตัวเองเพื่อเป็นการเตือนสติว่าตนเองต้องสงบสติอารมณ์ จิ่นหลิงกำลังรอความช่วยเหลือจากนาง
กระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะวินิจฉัยไม่ได้ว่าหวังจิ่นหลิงเป็นอะไร งั้นนางคงทำได้แค่ใช้วิธีการที่ง่ายที่สุด ในการตรวจสอบร่างกายของหวังจิ่นหลิงไปทีละขั้นตอน ตรวจสอบคลื่นหัวใจ ตรวจเลือด และตรวจสอบในส่วนต่าง ๆ ไปหาหมอที่โรงพยาบาลก็ทำเช่นนี้ไม่ใช่หรือ แค่อาการป่วยเพียงเล็กน้อยยังสามารถตรวจสอบได้โดยวิธีนี้ นางทำการตรวจทุกอย่างด้วยความเร็ว ตรวจซ้ำไปซ้ำมา นางเชื่อว่าสุดท้ายแล้วจะต้องพบกับปัญหา......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...