เฟิ่งชิงเฉินอยู่ในนั้นก็ช่วยอะไรไม่ได้ วิธีการรักษามันจำเป็นที่ต้องใช้วิธีที่จำเพาะเจาะจงต่อโรค นางไม่อยากอยู่เกะกะในนี้อยู่แล้ว จึงตามเขาออกไป
นางรู้ดีว่าเฟิ่งชิงเฉินมีเรื่องสำคัญที่จะคุยกับนาง และเรื่องนั้นเป็นเรื่องของหวังจิ่นหลิง
หยุนเซียวพานางไปที่ใต้ต้นไม้ และมองไปรอบๆว่าปลอดคนแน่ๆแล้ว จึงพูดออกมาเบาๆว่า “เฟิ่งชิงเฉิน หวังจิ่นหลิงมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อใดกัน”
“เมื่อวานตอนเช้า ทำไมหรือ?” เฟิ่งชิงเฉินต้องการถามให้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น
หยุนเซียวตอบกลับว่า “ตอนเช้าวันนี้ ตระกูลหวังประกาศตามหาตัวหวังจิ่นหลิงจนวุ่นวายไปหมด”
หรือจะกล่าวได้ว่า หยุนเซียวหายไปจากตระกูลหวังไปสองวันแล้ว ซึ่งดูเหมือนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับหวังจิ่นหลิงจะถูกจัดการโดยคนในตระกูลหวัง และมันมิใช่การกระทำจากฝ่ายเดียว แต่เป็นการร่วมมือจากหลายๆฝ่าย และมั่นใจแล้วว่าหวังจิ่นหลิงจะมิมีทางรอดชีวิตแน่ๆ
“ดูเหมือนว่าอาการสาหัสของหวังจิ่นหลิงจะมีคนในตระกูลหวังเป็นผู้เกี่ยวข้อง เมื่อวานตอนเช้ามีเจ้าหนุ่มคนหนึ่งรีบพาเขามาส่งไว้ที่นี่ และนี่ก็ผ่านไปสองวันแล้วยังหามีใครจากตระกูลหวังมาที่นี่เลยไม่” เฟิ่งชิงเฉินพูด พร้อมนึกถึงเหตุการณ์ที่นางยังกันตัวเจ้าหนุ่มคนนั้นไม่ให้หลุดรอดไป แต่จริงๆพอได้ฟังเรื่องจากปากของหยุนเซียว ก็พอจะคิดได้ว่าจริงๆแล้วมันก็มิจำเป็นเลย
“ข้าก็คิดเช่นนั้น ชิงเฉิน เจ้าต้องเตรียมใจไว้เลย” หยุนเซียวมองไปที่เฟิ่งชิงเฉินด้วยสีหน้ากังวล จากท่าทีของคนในตระกูลหวังแล้ว หวังจิ่นหลิงคงมีโอกาสรอดได้ยาก
เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกเจ็บปวดใจมาก “ข้าเป็นหมอ มีหน้าที่ช่วยเหลือและต่อชีวิตมนุษย์ ข้าหามีทางยอมแพ้ไม่”
การมีคนรอบข้างตายบนเตียงผ่าตัด เป็นเรื่องที่นางกลัวที่สุด บางที่การเป็นหมอก็ทำให้รู้อะไรบางอย่าง เช่นกรณีของหวังจิ่นหลิง ทำให้นางรู้จากคำว่าจนปัญญา
“ถ้าเจ้าคิดแบบนี้ก็ดีแล้ว เรื่องมันยังไม่ไปถึงขั้นนั้น ข้าคิดในฐานะองค์ชายคนโตเช่นกัน ข้าก็มิมีทางจะกดดันตัวเองแบบนี้”
การอยู่หรือรอดของหวังจิ่นหลิงนั้นถือเป็นบัญชาสวรรค์ หากหวังจิ่นหลิงต้องตาย เขาก็คงจะโดดเดี่ยวมาก เพราะคนเดียวที่อยู่ในระดับเดียวกับเขามีแค่คนนี้คนเดียวคือหวังจิ่นหลิง
หวังจิ่นหลิงอาจจะตายได้ แต่ต้องมิใช่ตายเพราะเหตุที่มาจากการแย่งชิงอำนาจ และหยุนเซียวก็เชื่อว่าหวังจิ่นหลิงก็คิดเช่นเดียวกันกับเขา
“ถ้าเขาไม่ฟื้น ก็คงทำอะไรมิได้เลย” เฟิ่งชิงเฉินกัดฟันพูดออกมาพร้อมน้ำตาคลอ
ไม่รู้ว่าหวังจิ่นหลิงจะวางแผนอะไรไว้ เขาคงต้องการมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะก่อนหน้านี้หวังจิ่นหลิงให้คนมาส่งเขาที่จวนเฟิ่ง ก่อนที่เขาจะอาการทรุดลง เฟิ่งชิงเฉินคงจะเป็นกุญแจสำคัญ แต่เธอเองก็มิสามารถช่วยหวังจิ่นหลิงได้
“เจ้าอย่ากังวลไปเลย รอฟังหมอก่อน ตระกูลหวังคงมิมาหาหวังจิ่นหลิงในตอนนี้ แต่ว่าเจ้าก็ต้องเตรียมการณ์ให้ดี เพราะถ้าคนของตระกูลหวังมาถึงแล้ว เจ้าคงทำอะไรมิง่ายแน่ๆ” อย่างไรเสียตระกูลหวังย่อมต้องออกมาที่นี่แน่นอน
เมื่อถึงเวลานั้นหัวหน้าตระกูลหวังย่อมที่ต้องการศพของหวังจิ่นหลิงกลับไป และคนที่ซวยย่อมเป็นเฟิ่งชิงเฉิน ที่ต้องรับผิดชอบกับการตายของหวังจิ่นหลิง
“ข้ารู้แล้ว เรื่องนี้ข้าต้องไปปรึกษาเสด็จอาเก้าดู” ชีวิตผ่านอะไรมามาก แต่หวังจิ่นหลิงมิควรที่จะต้องมาเกิดอะไรแบบนั้นในวัยเช่นนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...