นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 865

เมื่อความตายใกล้เข้ามา ทงเหยาและพวกของชุนฮุ่ยตกใจกลัวจนใบหน้าซีดขาว หลับตารอรับความตาย แต่สุดท้ายความตายยังไม่ทันเข้ามาก็ได้ยินเสียงแห่งการช่วยชีวิตดังขึ้น

พวกของทงเหยารีบลืมตาในทันใด ราวกับเห็นพระพุทธองค์ผู้มาโปรด องค์รัชทายาทเดินมาทางพวกนาง ขาของพวกนางอ่อนลง คุกเข่าลงกับพื้น พร้อมกล่าวออกมาว่า “องค์รัชทายาท ฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงอายุยืนนาน หมื่นปี หมื่น หมื่นปี”

ไม่เคยคิดว่าจะมีช่วงเวลาเช่นนี้เกิดขึ้นในชีวิต ขอบคุณองค์รัชทายาทที่เสด็จมา ซูเหวินชิงเองก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก นั่งลงไปทั้งตัวด้วยใบหน้าแห่งความสุข

เขารู้อยู่แล้ว เขารู้อยู่แล้วว่าเสด็จอาเก้าจะต้องเตรียมการทุกอย่างเอาไว้ เสด็จอาเก้าจะปล่อยจวนเฟิ่งไปโดยไม่สนใจได้อย่างไร แม้องค์รัชทายาทจะมาช้าไปเล็กน้อย แต่มันก็ยังดีกว่าที่พระองค์จะไม่เสด็จมา

หลายคนรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก องค์รัชทายาทหันมามองซูเหวินชิง จากนั้นก็พยักหน้าให้กับซูเหวินชิง องค์รัชทายาทเดินเข้าไปยังศาลบรรพบุรุษของจวนเฟิ่ง จับจ้องทุกอย่างด้วยสายตาคู่นั้น พบว่าคนในจวนเฟิ่งต่างอยู่ในสภาพลำบาก ไม่เหมือนกับจวนเฟิ่งที่ผ่านมาเลยแม้แต่น้อย

องค์รัชทายาทขมวดคิ้ว มององครักษ์เสื้อโลหิตที่เห็นการมาถึงของตนเอง แต่กลับยังแสดงท่าทีอันไร้ซึ่งมารยาท ทำให้องค์รัชทายาทรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก

จริงอยู่ที่องครักษ์เสื้อโลหิตรับคำสั่งโดยตรงจากจักรพรรดิเท่านั้น แต่อย่าลืมไปว่าเขาคือองค์รัชทายาท เป็นมกุฎราชกุมาร แม้ว่าเขาจะไม่เป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดิ แต่ตราบใดที่เขายังเป็นองค์รัชทายาทแห่งตงหลิง เขาก็คือผู้ที่จะกลายเป็นจักรพรรดิในอนาคต

“ดูเหมือนว่าองครักษ์เสื้อโลหิตจะยิ่งใหญ่เหลือเกิน เห็นข้ามาแล้วยังไม่แสดงความเคารพ” องค์รัชทายาทเป็นคนแข็งกร้าว ในที่สุดองครักษ์เสื้อโลหิตก็ตระหนักได้ว่า แม้จะไม่พอใจองค์รัชทายาท ไม่เห็นองค์รัชทายาทอยู่ในสายตา แต่การแสดงออกในเรื่องของการทำความเคารพ พวกเขาก็มิอาจละเลยได้

“คารวะองค์รัชทายาท” องครักษ์เสื้อโลหิตคุกเข่าลงข้างหนึ่ง ทำความเคารพเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น

แม้องค์รัชทายาทจะไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาเงียบอยู่เป็นเวลานาน จ้องมองไปยังเหล่าองครักษ์เสื้อโลหิตอย่างเยือกเย็น ปล่อยให้คนนับร้อยคุกเข่าอยู่อย่างนั้น ทำให้เหล่าองครักษ์เสื้อโลหิตรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก หากไม่เกรงว่าการกล่าวโทษ และต้องทำให้ตงหลิงจื่อลั่วเกิดความเสียหาย พวกเขาจะเพิกเฉยต่อองค์รัชทายาทไปนานแล้ว

องค์รัชทายาทจะไม่รู้ความคิดขององครักษ์เสื้อโลหิตได้อย่างไร องค์รัชทายาทผู้สง่างามเดินมาถึงจุดนี้ ต้องบอกเลยว่าองค์รัชทายาทเศร้าโศกเป็นอย่างมาก ระงับความขมขื่นในใจ องค์รัชทายาทรักษาความภาคภูมิใจเพียงอย่างเดียวของเขาและโบกมือ “ไม่ต้องมากพิธี”

“ขอบพระคุณองค์รัชทายาท” น้ำเสียงแผ่วเบา ไม่ได้ปกปิดความไม่พอใจแต่อย่างใด องค์รัชทายาทเองก็รับรู้แต่ทำได้เพียงอดทน ในฐานะที่ตนเองเป็นองค์รัชทายาท ต่อให้เขาไม่พอใจก็ไม่สามารถมีเรื่องกับคนต่ำต้อยอย่างพวกนี้ได้ องค์รัชทายาทจึงสั่งออกไปโดยตรง “ไปเชิญลั่วอ๋องมา ข้าต้องการพบเขา”

ตราบเท่าที่เขายังเป็นองค์รัชทายาทอยู่ เขาก็จะเป็นผู้ซึ่งมีอำนาจเป็นอันดับสองในตงหลิง ต่อให้เขาไม่ได้เป็นที่โปรดปราน ตงหลิงจื่อลั่วก็ต้องเป็นคนที่มาพบเขา ไม่ใช่เขาที่ต้องเป็นคนไปพบตงหลิงจื่อลั่ว

ด้วยความต่างของสถานะดังกล่าว นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมตงหลิงจื่อลั่วถึงต้องการทำลายสถานะองค์รัชทายาทของเขา และนั่งอยู่ในตำแหน่งองค์รัชทายาทด้วยตัวเอง

ในฐานะลูกของฮองเฮา ตงหลิงจื่อลั่วไม่มีทางผลักดันองค์รัชทายาท องค์รัชทายาทเองก็ไม่มีทางปล่อยเขาไป บุตรที่ชอบด้วยกฎหมายมีสิทธิ์สืบทอดกิจการของครอบครัว ในหมู่ของพี่น้อง นอกจากองค์รัชทายาทแล้ว ตงหลิงจื่อลั่วเป็นหนึ่งในผู้ซึ่งเหมาะสมที่สุด ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไม่ว่าจะตงหลิงจื่อลั่วจะอยากสู้หรือไม่ เขาก็ต้องสู้อยู่ดี

ทันทีที่ลืมตาดูลอง ตงหลิงจื่อลั่วก็ถูกกำหนดให้ต้องขัดแย้งกับองค์รัชทายาท ดังนั้นตอนที่ตงหลิงจื่อลั่วได้ยินคำรายงานขององครักษ์เสื้อโลหิต บอกว่าองค์รัชทายาทเสด็จมาและต้องการพบเขา จิตสังหารในดวงตาของเขาชัดเจนขึ้นทันใด......

องค์รัชทายาทมาขวางทางเขาอีกแล้ว!

หากตำแหน่งองค์รัชทายาทยังอยู่ เมื่อตงหลิงจื่อลั่วพบกับองค์รัชทายาทเขาก็ต้องเป็นฝ่ายทำความเคารพ ไม่ว่าเขาจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ไม่ว่าในมือของเขาจะมีอำนาจมากมายแค่ไหน นี่ก็ยังคงเป็นสิ่งที่เขาต้องทำ

หย่งอ๋องและโจวอ๋องมาเพื่อทำน้ำซีอิ๊วเท่านั้น แม้ว่าพวกเขาจะเป็นมิตรกับตงหลิงจื่อลั่ว แต่พวกเขาก็ไม่รังเกียจที่จะดูการต่อสู้ระหว่างตงหลิงจื่อลั่วกับองค์รัชทายาท

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ