คนทางฝั่งขององค์รัชทายาทเองก็ไม่เคยคิดว่าเรื่องนี้จะสามารถทำให้ลั่วอ๋องหลุดพ้นจากตำแหน่งได้ การเสนอปลดลั่วอ๋องลงจากตำแหน่งเป็นเพียงการลอง ลองใจของจักรพรรดิ
เห็นได้ชัด แม้ว่าลั่วอ๋องจะทำให้จักรพรรดิผิดหวัง แต่จักรพรรดิก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะด้อยค่าลั่วอ๋อง เห็นเสด็จอาเก้าเอ่ยปากออกมาเช่นนั้น คนทางฝ่ายขององค์รัชทายาทชอบใจ พวกเขารู้ได้ว่าโอกาสของพวกเขามาถึงแล้ว
ดังนั้นคนทางฝั่งขององค์รัชทายาทจึงล้มเลิกความคิดที่จะปลดลั่วอ๋องลงจากตำแหน่ง แต่เปลี่ยนเป็นการแนะนำองค์จักรพรรดิให้หาผู้นำที่แท้จริงขององครักษ์เสื้อโลหิต เนื่องจากลั่วอ๋องไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำขององครักษ์เสื้อโลหิตอีกต่อไป
ความคิดนี้ตรงกับความคิดของจักรพรรดิ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานทำให้จักรพรรดิสงสัยในความสามารถของตงหลิงจื่อลั่ว องครักษ์เสื้อโลหิตตกอยู่ในมือของลั่วอ๋อง แม้ว่าจะเป็นประสงค์ของเขา แต่ลั่วอ๋องกลับไม่สามารถแสดงพลังที่แท้จริงขององครักษ์เสื้อโลหิตออกมาได้ จักรพรรดิคิดถึงจุดนี้ จึงเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว สั่งให้ตงหลิงจื่อลั่วส่งมอบหน้าที่ทั้งหมด และทบทวนตนเองอยู่ในจวน
เมื่อจักรพรรดิตรัสออกมาด้วยพระองค์เองก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยปาก ไม่สนว่าจะเป็นลั่วอ๋องหรือองค์รัชทายาท พวกเขาทั้งหมดไม่ใช่เสด็จอาเก้า เกียรติยศและสัมพันธ์ของพวกเขาเชื่อมโยงกับจักรพรรดิและทัศนคติของจักรพรรดิจะเป็นสิ่งซึ่งกำหนดทุกอย่าง
คนทางฝ่ายของลั่วอ๋องรู้ดีว่าเรื่องทุกอย่างจบลงแล้ว จักรพรรดิทรงปลดตงหลิงจื่อลั่วออกจากตำแหน่งผู้นำขององครักษ์เสื้อโลหิต ตัดสินว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานไม่ใช่ความผิดขององค์รัชทายาท หากพวกเขาทำร้ายองค์รัชทายาทสุ่มสี่สุ่มห้า มีแต่จะทำให้จักรพรรดิทรงโกรธ แต่หากให้พวกเขาจำยอมเช่นนี้ พวกเขาก็คงไม่อาจกลืนลมหายใจนี้ได้
องค์รัชทายาทสังหารองครักษ์เสื้อโลหิตมากกว่าร้อยนาย ยังไงองค์รัชทายาทก็ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ ไม่สามารถปลดองค์รัชทายาทลงจากตำแหน่งได้ เช่นนั้นการกักบริเวณองค์รัชทายาทคงเป็นเรื่องที่อาจเป็นไปได้ ดังนั้นคนทางฝ่ายของลั่วอ๋องจึงโจมตีองค์รัชทายาทอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้องค์รัชทายาทรับโทษจากการกระทำของเขา
แน่นอนว่าจักรพรรดิไม่สามารถปล่อยองค์รัชทายาทไปได้ หากลงโทษเพียงแค่ลั่วอ๋อง ไม่ลงโทษองค์รัชทายาท เช่นนั้นความเย่อหยิ่งขององค์รัชทายาทจะยิ่งเพิ่มขึ้น ทำให้คนไปอยู่ฝั่งขององค์รัชทายาทมากขึ้น นี่ไม่ใช่สิ่งที่จักรพรรดิอยากเห็น ทันใดที่คนของลั่วอ๋องกล่าวถึงเรื่องนี้ขึ้นมา จักรพรรดิก็เอ่ยปากเห็นด้วย กักบริเวณองค์รัชทายาทเป็นเวลาสามเดือน ซึ่งเริ่มนับตั้งแต่หลังวันขึ้นปีใหม่
ในวันขึ้นปีใหม่ สามประเทศจากเมืองจิ่วจะมาแสดงความยินดี ไม่เป็นไรหากลั่วอ๋องไม่สามารถเข้าร่วมงานได้ แต่หากองค์รัชทายาทไม่ปรากฏตัวออกมา มันก็ยากที่จะทำให้เหล่าขุนนางไม่สงสัยในการตัดสินใจขององค์จักรพรรดิ
การแย่งชิงระหว่างองค์รัชทายาทกับลั่วอ๋องส่งผลให้เกิดการสูญเสียทั้งสองฝ่าย มีเพียงจักรพรรดิเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ จักรพรรดิลงโทษและตักเตือนทั้งองค์รัชทายาทและลั่วอ๋อง สิ่งเหล่านี้ให้เหล่าเสนาบดีเข้าใจอย่างชัดเจนว่า เขาคือผู้กุมอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในตงหลิง เขาคือผู้ชี้ชะตา และเป็นผู้อยู่เหนืออำนาจของเหล่าเสนาบดี
จักรพรรดิกำลังใช้การกระทำของตัวเองเพื่อบอกทุกคนว่าไม่ว่าจะเป็นองค์รัชทายาท ลั่วอ๋อง หรือเสด็จอาเก้า การแย่งชิงของพวกเขาทั้งหมด ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องมีองค์จักรพรรดิอย่างเขาเป็นผู้ตัดสิน และหากเขาอยู่ฝ่ายไหน ฝ่ายนั้นก็จะมีอำนาจในการเอาชนะมากที่สุด
เสด็จอาเก้าไม่แม้แต่จะหันมองจักรพรรดิ เมื่อพิธีการจบลง เขารับเสด็จออกทันที
แม้ว่าจักรพรรดิจะแสดงอำนาจอันยิ่งใหญ่ออกมา แต่ใช่ว่าเขาจะอารมณ์ดี เขากำลังกังวลเรื่องของตระกูลหวัง แต่เขาสั่งให้คนของเขาค้นหาทั่วทั้งเมืองจักรพรรดิ แต่กลับไม่เห็นวี่แววของหวังจิ่นหลิงเลยแม้แต่น้อย
หลังจากพิธี จักรพรรดิหันไปถามกับขันทีว่า “ใต้เท้าฝู่เข้ามาในพระราชวังแล้วหรือยัง?”
“ฝ่าบาท ใต้เท้าฝู่กำลังรอท่านอยู่ด้านนอกห้องทรงพระอักษร” ขันทีก้าวไปข้างหน้าอย่างชาญฉลาด เวลานี้ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อจักรพรรดิรู้สึกโกรธ มีเพียงใต้เท้าฝู่ผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถนำทางองค์จักรพรรดิได้
จักรพรรดิพยักหน้า เดินไปยังห้องทรงพระอักษรเพื่อพบกับฝู่หลิน
“ถวายบังคมฝ่าบาท” แม้ว่าฝู่หลินจะได้รับความโปรดปรานจากจักรพรรดิเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังคงปฏิบัติเหมือนกับช่วงที่เข้ามาในวังช่วงแรกทุกประการ ให้เกียรติและเคารพองค์จักรพรรดิเป็นอย่างมาก
“ลุกขึ้นเถิด มิต้องมากพิธี เชิญนั่ง”
การได้นั่งในห้องทรงพระอักษรถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม ในราชวงศ์ตงหลิงมีคนที่สามารถเข้ามานั่งในห้องนี้ได้ไม่ถึงห้าคน สิ่งนี้แสดงให้เห็นความฝู่หลินนั้นสำคัญกับองค์จักรพรรดิมาเพียงใด
“ข้าน้อยมิกล้า ข้าน้อยสมควรตายในสิ่งที่ทำลงไป ข้าทำให้ฝ่าบาททรงผิดหวัง” ขันทีเลื่อนเก้าอี้มาให้ แต่ฝู่หลินกลับไม่กล้านั่ง คุกเข่าลงต่อหน้าองค์จักรพรรดิ
จักรพรรดิขมวดคิ้ว “มิพบร่องรอยของหวังจิ่นหลิงงั้นหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...