องค์หญิงอันผิงไม่รีบร้อนจะลงโทษลงทัณฑ์เฟิ่งชิงเฉินแต่อย่างใด นางลุกขึ้นยืนแล้วมองอุปกรณ์การลงโทษไปรอบห้อง
นางไม่รังเกียจต่อความสกปรก และไม่รังเกียจที่จะหันไปเอ่ยถามคนที่อยู่รอบกายถึงวิธีใช้เครื่องลงโทษเหล่านั้น
"องค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ นี่เรียกว่าการลงโทษด้วยแส้หวีเหล็ก มันเต็มไปด้วยตะปูเหล็ก เพียงสัมผัสเบาๆ ที่ด้านหลัง เนื้อก็จะหลุดออกมาเหมือนวุ้นเส้น"
"องค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ นี่เป็นแอกเล็ก สำหรับวางไว้บนนิ้วและแขน แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนนิ้วหรือแขนงอหัก วิธีนี้จะไม่ให้มีเลือดไหล แต่นิ้วและแขนก็ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง ไม่ว่าอย่างไร หมอเก่งแค่ไหนหมอก็ไม่อาจรักษา"
"องค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ นี่เรียกว่าโยวปี้ มันเต็มไปด้วยหนาม หากนำมันคลุมไปยังร่างกายส่วนล่างและทำให้ผู้สวมใส่กระสับกระส่าย เสี้ยนข้างในจะแทงร่างกายส่วนล่างและหน้าท้องส่วนล่างของคนผู้นั้น"
"องค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ......"
บรรดาคนที่อยู่ด้านหลังอธิบายอย่างละเอียดทีละอย่าง องค์หญิงอันผิงยืนฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ แต่ดวงตาของนางกลับมองไปทางเฟิ่งชิงเฉิน
น่าเสียดาย สิ่งที่ทำให้องค์หญิงอันผิงผิดหวังก็คือเฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ทำท่าทางหวาดกลัวหรือตกใจแต่อย่างใด
เฟิ่งชิงเฉินหลับตาก้มหน้าลง ท่าทางนางดูเหมือนจะตาย
องค์หญิงอันผิงไม่ได้โกรธ แต่กลับหัวเราะออกมาเบาๆ "เฟิ่งชิงเฉินอย่าได้รีบร้อนไป วันนี้ข้ามีเวลาทั้งวัน เนื่องด้วยกลัวว่าเจ้าจะทนไม่ไหว ข้าไม่เพียงแต่นำโสมร้อยปีมา อีกทั้งยังเชิญหมอหลวงมาด้วย ไม่ว่าอย่างไรก็จะทำให้เจ้าสามารถมีลมหายใจอีกเฮือก เพื่อชื่นชมกับสิ่งเหล่านี้"
องค์หญิงอันผิงทางเอ่ยถามและข่มขู่ แต่เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวออกมา จึงทำให้การข่มขู่นั้นไร้ประโยชน์ ดูเฉื่อยชาไม่สนุก เมื่อกลับมายังตำแหน่งที่นั่ง นางก็ยกมือขึ้นเรียกองครักษ์ให้ลงมือจัดการได้
"องค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ จะใช้เครื่องใดก่อน"
"ใต้เท้าลู่ มีคำแนะนำได้ดีๆ หรือไม่?" ลู่เส้าหลินตั้งใจจะปกป้องคุ้มครองเฟิ่งชิงเฉินเช่นนี้ องค์หญิงอันผิงจะไม่รู้ได้อย่างไร และนางจงใจที่จะทำเช่นนั้น
"สิ่งใดที่องค์หญิงชื่นชอบก็ทรงทำเถิด" ลู่เส้าหลินกล่าวด้วยความเยือกเย็น
"ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ใช้แส้ก่อนแล้วกัน ข้าจำได้ว่าที่หลังของคุณหนูเฟิ่ง ได้รับบาดเจ็บเมื่อครั้งอยู่ในเรือนแยกของพระราชวัง ไม่รู้ว่าเมื่อทำเช่นนี้จะเห็นกระดูกหรือไม่" น้ำเสียงขององค์หญิงอันผิงดูแลคล้ายกับกำลังสนทนาถึงเรื่องอากาศในวันนี้
เฟิ่งชิงเฉินลืมตาขึ้นช้าๆ จากนั้นก็ก้มหน้าหลับตาลง ราวกับต้นไม้แห้ง
เมื่อเผชิญหน้ากับลู่เส้าหลิน นางยังพอจะหาโอกาสเปิดปากได้บ้าง แต่กับองค์หญิงอันผิงเล่า?
ไม่ต้องแม้แต่จะคิด ต่อให้นางจะเอ่ยเพียงใดก็ไร้ประโยชน์ ดีไม่ดีหากนางเอ่ยมากความอาจจะถูกตัดลิ้นก็เป็นได้
"มัวชักช้าอยู่ไย ยังไม่รีบลงมืออีก หากว่าข้าไม่เห็นกระดูกนางโผล่ ข้าจะจับพวกเจ้าไปเฆี่ยนเอง" องค์หญิงอันผิงเอามือตบโต๊ะ
"เฟิ่งชิงเฉิน ข้าไม่เชื่อหรอกว่าข้าจะไม่สามารถหักกระดูกของเจ้าได้ ใต้เท้าลู่อาจจะมีความเมตตาต่อเจ้า แต่ข้ามไม่"
เฟิ่งชิงเฉินยังคงสงบนิ่ง ทำให้องค์หญิงอันผิงไม่รู้สึกถึงความเป็นผู้ชนะแม้แต่น้อย
ในพระราชวัง เพียงแค่การลงโทษเบาๆ ก็ทำให้นางกำนัลตกใจหวาดกลัวตัวสั่นงันงก เฟิ่งชิงเฉินช่างใจกล้าเสียจริง
"เกรงว่าองค์หญิงจะต้องผิดหวังเสียแล้ว เฟิ่งชิงเฉินจะไม่ทำให้องค์หญิงสมปรารถนาเด็ดขาด"
เฟิ่งชิงเฉินหลับตาลง แล้วปล่อยให้องครักษ์เหล่านั้นจัดการพาตนหันหลังให้แก่องค์หญิงอันผิง
อาจารย์ผู้ฝึกสอนนางมาเคยกล่าวว่า หากต้องพบกับสถานการณ์เช่นนี้ สามารถเลือกจะฆ่าตัวตายได้
แต่ว่า......
ผู้ที่เคยตายมาแล้วครั้งหนึ่งย่อมกลัวตายยิ่งนัก
ในเมื่อนางไม่มีแม้แต่ความกล้าหาญที่จะฆ่าตัวตาย แล้วจะไปเผชิญหน้ากับความกล้าหาญได้อย่างไร
ฟู่......
นางหันหน้าให้กำแพงแล้วสูดลมหายใจเข้า หลับตาลง
ไม่ว่าองค์หญิงอันผิงจะใช้วิธีใดในการลงโทษ แต่นางก็จะไม่เอ่ยร้องสักคำ
มารดาของนางในตอนนั้นก็เคยอยู่ในคุกขององครักษ์เสื้อโลหิต และผ่านการลงโทษหนักทั้งสี่อย่าง โดยไม่เอ่ยคำใดสักคำ นางก็ต้องทำให้ได้
ร่างกายของเฟิ่งชิงเฉินเกร็งแน่น รอความเจ็บปวดที่จะมาถึง
"องค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ" องครักษ์ยื่นแส้เหล็กไปให้
"ช้าก่อน หันร่างเฟิ่งชิงเฉินมา" องค์หญิงอันผิงเงยหน้าขึ้นแล้วกำชับ
นางไม่ต้องการจะเห็นด้านหลังของเฟิ่งชิงเฉิน นางต้องการเห็นใบหน้าอันเจ็บปวดรวดร้าวของเฟิ่งชิงเฉินต่างหาก
"พ่ะย่ะค่ะ" องครักษ์ทำตามคำสั่ง จากนั้นนำนางหมุนกลับมาและขยับตัวไปด้านหน้าเล็กน้อยเพื่อสะดวกต่อการลงโทษ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ