องครักษ์เสื้อโลหิตใจคอโหดเหี้ยม แต่ก็ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
แล้วพวกเขาก็เตะเข่าเฉียนจิ้นให้ล้มลง
เฉียนจิ้นในตอนนี้ไม่ต่างไปจากสุนัขที่ตายซาก เขาฟุบอยู่กับพื้น แทบกระดิกตัวไม่ไหว
ตงหลิงจิ่วไม่ต้องพูดอะไรมาก ลู่เส้าหลินสั่งคนให้นำฝากาน้ำชาออกมาจากปากของเฉียนจิ้น
"นักโทษเฉียนจิ้น ใครเป็นคนบงการเจ้าให้มาลอบปลงพระชนม์องค์หญิง" ลู่เส้าหลินไต่ถามอีกครั้ง เขาแอบหวั่นใจอยู่เล็กน้อย เฉียนจิ้นจะเป็นพวกสมองขี้เลื่อยแล้วพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมาหรือเปล่านะ หากเป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ในห้องขังกับเขาก็คงต้องถูกฝังร่างไปพร้อมกับเขาแน่
ดีที่เหตุการณ์ไม่เป็นไปตามความกังวลของลู่เส้าหลิน ต่อให้เฉียนจิ้นจะถูกทรมานเจียนตาย แต่เขาก็รู้ดีว่าหากเขาแย้มพรายเรื่ององค์หญิงอันผิง เขาคงต้องตายอย่างน่าอนาถกว่านี้แน่ เขาจึงให้การออกไปว่า
"ข้าน้อยไม่ได้ลอบปลงพระชนม์องค์หญิง แต่ข้าน้อยต้องการลอบสังหารแม่นางเฟิ่ง ด้วยความเคียดแค้นจึงได้ผลักแม่นางเฟิ่งตกน้ำ และหวังจะใช้โอกาสนี้ในการทำให้แม่นางเฟิ่งสิ้นใจ......"
ดีมาก!
ตงหลิงจิ่วพยักหน้าชื่นชม
ลู่เส้าหลินถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ในที่สุดก็ปิดคดีได้
อาการขององค์หญิงอันผิงก็ดูดีขึ้นเช่นกัน ดีที่เขาไม่พาดพิงมาถึงนาง
คำให้การของเฉียนจิ้นทำให้หลายๆคนโล่งอก ลู่เส้าหลินสั่งให้คนจดบันทึกคำรับสารภาพ แล้วยื่นให้กับตงหลิงจิ่ว "เชิญเสด็จอาเก้าทอดพระเนตรพ่ะย่ะค่ะ"
"ไม่ต้องหรอก เรื่องนี้เป็นเรื่องความปลอดภัยขององค์หญิงอันผิง ให้องค์หญิงอันผิงมาดูจะดีกว่า"
เฟิ่งชิงเฉินก้มหน้าเพื่อหลบสายตาที่กำลังเย้ยหยัน
เสด็จอาเก้าอยากให้องค์หญิงอันผิงอาเจียนให้ตายๆไปเสีย และอยากให้องค์หญิงอันผิงมาทรมานแทนนาง
แต่ทว่า ช่างถูกใจนางยิ่งนัก
องค์หญิงอันผิงโมโหจนตัวสั่น แต่นางก็ยังคงต้องทำตาม
เพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม วันนี้เสด็จอาเก้าก็ถือว่าได้กอบกู้ศักดิ์ศรีให้กับเสด็จแม่ของนาง
หากเรื่องในวันนี้ไปพัวพันกับนางหรือว่าเสด็จแม่ของนางแล้ว ต่อให้ฆ่าคนที่รู้เรื่องหมดทุกคน ก็ไม่อาจปิดบังเรื่องราวฉาวโฉ่ได้
องค์หญิงอันผิงอ่านคำรับสารภาพตั้งแต่ต้นจนจบ ต้องยอมรับจริงๆว่าองครักษ์เสื้อโลหิตทำงานอย่างยอดเยี่ยมกันจริงๆ
เฉียนจิ้นให้การเพียงไม่กี่คำ แต่องครักษ์เสื้อโลหิตกลับเขียนบันทึกออกมาว่า เฉียนจิ้นหมายปองเฟิ่งซิ่ว เมื่อเห็นว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเฟิ่งซิ่ว จึงวางแผนที่จะจบชีวิตพร้อมเฟิ่งซิ่ว แต่แผนการลอบสังหารเฟิ่งซิ่วกลับล้มเหลว เขาจึงรีบผลักเฟิ่งซิ่วลงน้ำ
คำให้การจอมปลอมนี้ ทำให้เหตุการณ์นี้ดูเหมือนว่าเฟิ่งชิงเฉินปองร้ายองค์หญิงอันผิง......
มันกำลังจะกลายเป็นความจริง เป็นสิ่งสำคัญในการปิดคดี
องค์หญิงอันผิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อดับเพลิงแค้นภายในใจ นางพยายามระมัดระวังไม่ให้เสียงของตัวเองห้วนเกินไป
"โชคดีที่เสด็จอาเก้าทรงระวังอย่างถี่ถ้วน ไม่อย่างนั้นแล้ว อันผิงจะต้องเข้าใจเฟิ่งซิ่วผิดแน่ๆเลยเพคะ ใต้เท้าลู่ ให้นักโทษประทับรอยนิ้วมือได้เลย"
แล้วองค์หญิงอันผิงก็นำกระดาษคำรับสารภาพวางลงตรงหน้าของลู่เส้าหลิน
ลู่เส้าหลินอึดอัดใจเพียงใดก็ไม่อาจพูดได้ เขาได้แต่พยักหน้าและทำตาม เขาจับมือของเฉียนจิ้นไปประทับรอยนิ้วมือตามคำสั่ง
คดีนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว
"ไม่ต้องให้เขามีชีวิตต่อไปอีกแล้ว" ตงหลิงจิ่วเอ่ยปาก นี่เป็นการชี้วัดโชคชะตาให้กับเฉียนจิ้น
หากไม่ถอนรากถอนโคน ประเดี๋ยวเรื่องราวคงคุกรุ่นขึ้นมาอีก และคดีนี้ก็คงจบไม่ได้
"พ่ะย่ะค่ะ" ลู่เส้าหลินตอบกลับเพียงคำเดียว แล้วถือมีดจ่อไปที่หัวใจของเฉียนจิ้น
จึ้ก......มีดปักลงไปจนเลือดกระฉูดออกมา ลู่เส้าหลินหลบเลี่ยงอย่างช่ำชอง ไม่ให้ตัวเองเปื้อนเลือดแม้แต่น้อย
ส่วนเฉียนจิ้น แววตาของเขากำลังบ่งบอกว่าหมดเวรหมดกรรมแล้ว
การมีชีวิตอยู่ท่ามกลางกลุ่มองครักษ์เสื้อโลหิต การตายคงจะดีเสียกว่า
องค์หญิงอันผิงไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก แต่คนก็ได้ตายไปแล้ว นางไม่มีโอกาสพลิกหมากอีกต่อไป จึงจำต้องปล่อยเลยตามเลย
ตงหลิงจิ่วไม่อยากอยู่ตรงนี้ให้คนบางคนต้องอึดอัดอีกต่อไป เขาลุกขึ้นยืนและกล่าวว่า "อันผิง ใต้เท้าลู่ปิดคดีเรียบร้อยแล้ว เจ้าก็ตามข้ากลับไปได้แล้ว"
แน่นอนว่านางไม่อาจจะปฏิเสธได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ