นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 946

การเพิ่มเงินไปอีกสองล้านตำลึงจึงทำให้พูดง่ายขึ้น ทำง่ายขึ้น เงินของซูเหวินชิงต่างก็หมดไปกับเสบียงทหารหญ้าเลี้ยงม้าและธุรกิจแล้ว จึงไม่สามารถแลกเงินได้ในช่วงเวลาหนึ่ง

“เจ้าวางแผนไว้ว่าจะจัดการอย่างไร” หลานจิ่วชิงเอ่ยถามขึ้น

“เอาพื้นที่อันไกลโพ้นแห่งนั้นจัดเป็นแหล่งขายสินค้าแล้วขายทิ้งไป กดราคาลงสักหน่อย ก็คงจะขายสินค้าออกได้ง่าย ” ซูเหวินชิงถอนหายใจออกมา

วิธีการฆ่าเป็ดแล้วเก็บไข่เช่นนี้ถึงแม้ว่าจะดูไม่ฉลาดนัก แต่ตอนนี้เขาไม่มีวิธีการอื่นแล้ว เรื่องของภัยหิมะในตอนแรก เขาทุ่มเงินจำนวนมากเกินไป

เมื่อหลานจิ่วชิงฟังเช่นนั้นแล้ว ก็รีบปฏิเสธขึ้นมาทันที “แหล่งขายสินค้าเหล่านั้นขายได้เงินไม่เท่าไรหรอก ทั้งยังสามารถไม่มีวิธีเปลี่ยนแปลงได้ในเวลาอันสั้นอีกด้วย เรื่องเงินน่ะเจ้าไม่ต้องกังวลไป มอบให้ข้าเถอะ”

“เจ้า? เจ้าจะไปหาเงินจากที่ไหน” เงินทั้งหมดของจิ่วชิงต่างก็มีเขาเป็นผู้รับผิดชอบอยู่ ซูเหวินชิงไม่คิดเลยว่าจิ่วชิงจะมีผู้ที่ช่วยดูแลเรื่องเงินเช่นนี้ แล้วก็ไม่คิดเลยเช่นกันว่าจะมีผู้ช่วยคอยดูแลเรื่องเงินมากเพียงนี้......

แท้จริงแล้วหลานจิ่วชิงไม่ได้มีเงินเยอะขนาดนั้น แต่มีอยู่ที่ที่หนึ่งที่มีอย่างแน่นอน

นั่นก็คือภายใต้ความคาดหวังของซูเหวินชิง หลานจิ่งชิงพ่นคำพูดออกมาสองคำ “กระทรวง ครัวเรือน”

“อะไร? นี่เจ้าใช้เงินที่หมุนเวียนโดยกระทรวงครัวเรือนงั้นรึ” ซูเหวินชิงตกใจสะดุ้งโหยง “ถ้าหากว่าเกิดการตรวจสอบขึ้นมา เจ้ากรมกระทรวงครัวเรือนคงถึงคราวซวยเป็นแน่”

“อย่ากังวลใจไป ข้าจัดการเอง ” นัยน์ตาของหลานจิ่วชิงเฉิดฉายไปด้วยรังสีแห่งดวงอาทิตย์ แต่น่าเสียดายที่ถูกหน้ากากปิดบังไว้อยู่ มะเช่นนั้นหากว่าซูเวินชิงได้เห็นเข้าแล้ว จะต้องกลายเป็นใครสักคนที่ยืนนิ่งสงบอย่างแน่นอน

ซูเหวินชิงไม่เคยสงสัยในคำพูดของหลานจิ่วชิงเลย เนื่องจากคำพูดของหลานจิ่วชิงดูมีความน่าเชื่อถือ จึงทำให้ซูเหวินชิงไม่กล้าเอ่ยถามอีกเลยสักประโยคเดียว ส่วนเรื่องเงินนั้นได้รับการจัดการแล้ว ทำให้ซูเหวินชิงรู้สึงผ่อนคลายลงและมีความคิดอยากจะพูดเรื่องอื่นขึ้นมาอีก

“จิ่วชิง ทหารม้าทมิฬตั้งมั่นอยู่ที่สุสานจักรพรรดิมาเป็นเวลานานแล้ว สำหรับในส่วนด้านในโครงสร้างของสุสานจักรพรรดินั้นรู้หมือนหลับตาเห็น ” เป็นครั้งแรกที่ทหารม้าทมิฬปรากฏตัวบนแผ่นดินใหญ่ของจิ่วโจว ไม่ว่าจะเป็นซูเหวินชิงหรือหลานจิ่วชิงก็ตาม ต่างก็สนใจเป็นอย่างมาก

หลานจิ่วชิงไตร่ตรองอยู่พักหนึ่งแล้วจึงเอ่ยขึ้นว่า “หลังจากนี้อีกห้าวัน ให้เข้าไปตามแผนเดิมที่วางไว้ อย่าปล่อยให้ใครมีชีวิตรอดอยู่ได้ จากนั้นก็ไปยังเมืองจักรพรรดิทันที”

“ขอรับ ข้าจะออกคำสั่งให้ไป” ซูเหวินชิงพยักหน้าอย่างหนักแน่น ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดจึงให้ทหารม้าทมิฬมาที่เมืองจักรพรรดิก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถซักถามหรือเกิดข้อสงสัยในคำสั่งของจิ่วชิง

“ถึงแล้วเมืองจักรพรรดิ จัดการพวกเขาเข้าเมือง” หลานจิ่วชิงกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้ซูเหวินชิงไม่ได้สนับสนุนโดยตรง เพียงแค่ขอร้องออกมาเท่านั้น “ข้าต้องการความช่วยเหลือ”

เขาเป็นเพียงพ่อค้าคนหนึ่ง จึงไม่สามารถจัดคนหนึ่งพันคนเข้าเมืองได้โดยที่ไม่ให้ใครรับรู้หรือสังเกตเห็น

หลานจิ่วชิงพยักหน้า บ่งบอกว่าถึงเวลาที่จะมีคนคอยสนับสนุนเขาแล้ว

หลังจากที่เจรจาเรื่องใหญ่ทั้งสองเรื่องนี้จบลง หลานจิ่วชิงจึงเอ่ยถามอีกคนที่สั่งให้เขาเป็นผู้ที่ปวดหัวอย่างสาหัสว่า

“ปู้จิ่งหยุนล่ะ ได้ข่าวเขาบ้างหรือไม่”

ปู้จิ่งหยุนเจ้าคนนั้นได้หายสาบสูญไปแล้ว แล้วก็ทำทุกอย่างไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ถ้าไม่ใช่เพราะตั้งแต่วันนั้นที่มีการขนย้ายเงินชั่วคราวจากยอดชุมชน ทั้งหลานจิ่วชิงและซูเหวินชิงต่างก็ไม่รู้เรื่อง หลังจากที่เจ้าคนนี้ออกจากเผ่าเสวียนเซียวกงไปแล้ว ก็ไม่ได้กลับมาที่ยอดชุมชนอีกเลย ข่าวที่ออกมานั้น ล้วนแล้วแต่เป็นการกระทำของผู้ช่วยของเขา

น่าแปลกใจเล็กน้อยที่ท่านพี่ช่วยอะไรเจ้าไม่ได้แล้ว

ซูเหวินชิงรู้ว่าหลานจิ่วชิงโกรธแล้ว แต่ก็ไม่กล้าปิดบัง จึงบอกที่อยู่ของปู้จิงหยุนออกมาทันที

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ ปู้จิงหยุนจะอยู่ที่เหลียนเฉิง เพื่อออกตามหาฉินเป่าเปา

“เขาคงจะไม่มีข่าวออกมาเลยหรือ” ทั่วทั้งร่างของหลานจิ่วชิงส่งกลิ่นอายความหนาวเย็นยะเยือกออกมา ปล่อยให้ซูเหวินชิงรู้สึกสั่นสะท้าน

ซูเหวินชิงหัวเราะออกมาด้วยความขมขื่นเพียงเล็กน้อยแต่ก็ไม่กล้าส่งเสียงพูดออกมา......

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ