นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 972

“อาจารย์ อาจารย์ ท่านตื่นแล้วหรือยัง”

เสียงตะโกนดังขึ้นมา พร้อมกับเสียงเคาะประตูที่สุดแสนจะน่ารำคาญ ก๊อก ก๊อก ก๊อก......ต่อให้อยากเพิกเฉยก็ไม่สามารถทำได้

“คุณชายซุน นี่คือห้องนอนของคุณหนู ท่านจะเข้าไปไม่ได้” คนรับใช้เข้ามาขวาง ดึงซุนซือสิงออกมา แต่ซุนซือสิงไม่ยอมที่จะไป ใบหน้าเล็ก ๆ ของเขาเต็มไปด้วยความจริงจัง กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึมว่า “ข้ารู้แล้ว ข้าจะไม่เข้าไป ข้าจะรอท่านอาจารย์อยู่ที่นี่”

เพื่อแสดงออกถึงความจริงจังของตน ซุนซือสิงถอยหลังออกมาสามก้าว คนรับใช้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นก็ได้ยินเสียงซุนซือสิงตะโกนออกมาอีกว่า “ท่านอาจารย์ ท่านรีบตื่นขึ้นมาเร็ว ข้าอยากเข้าไปดูในห้องผ่าตัดของท่าน”

ตลอดทางที่ผ่านมา เขาได้ยินว่าเฟิ่งชิงเฉินจะผ่าตัดแหวกอกขององค์รัชทายาทเพื่อรักษาโรคหัวใจ ซุนซือสิงรู้สึกคาดหวังเป็นอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าเป็นเพียงบัณฑิตผู้อ่อนแอ แต่เขาก็พยายามทั้งคืนทั้งวัน เดินทางไม่หยุดพัก และไม่รู้สึกเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย

เมื่อมาถึงในยามดึก ซุนซือสิงอยากจะพบเฟิ่งชิงเฉินจนสุดใจ หากไม่ใช่เพราะคนรับใช้บอกว่าเฟิ่งชิงเฉินเข้านอนแต่หัววัน ซุนซือสิงคงจะบุกเข้ามาพบกับเฟิ่งชิงเฉินตั้งแต่เมื่อคืนเป็นแน่

ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีชีวิตมาถึงรุ่งสาง ซุนซือสิงเพิกเฉยต่อการอ่อนล้าของร่างกาย ลุกขึ้นมาแต่เช้าตรู่ ไม่กินแม้แต่อาหารเจ้า มุ่งตรงมาหาเฟิ่งชิงเฉินทันที

เขาอยากรู้ อยากรู้จริง ๆ อยากรู้ว่าอาจารย์ของเขาจะรักษาโรคหัวใจและแหวกอกขององค์รัชทายาทอย่างไร ถึงทำให้องค์รัชทายาทไม่ตาย ซุนซือสิงรู้สึกตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหว อยากเจอเฟิ่งชิงเฉินให้เร็วที่สุด

ดังนั้นคงไม่สามารถกล่าวโทษซุนซือสิงได้จากใจจริง เนื่องจากซุนซือสิงไม่รู้เลยว่า การที่เขามาหาเฟิ่งชิงเฉินแต่เช้าตรู่ เป็นการทำให้เสียบรรยากาศของเสด็จอาเก้า แน่นอน หากซุนซือสิงรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ เขาคงมาเช้ากว่านี้เสียอีก

คิดจะเอาเปรียบอาจารย์ของเขา หากมีเขาอยู่ ไม่มีทาง!

ซุนซือสิงที่งุนงงยังคงตะโกนอยู่นอกประตู พยายามทำให้เฟิ่งชิงเฉินลุกขึ้นมาเร็วที่สุด พาเขาเข้าไปในห้องผ่าตัด ครั้งที่แล้วเขาพลาดโอกาสการรักษาของหยุนเซียวไป เขารู้สึกเสียใจอย่างหาที่สุดไม่ได้ ครั้งนี้เขาไม่มีทางพลาดโอกาสไปแน่

ด้านใน เฟิ่งชิงเฉินหัวเราะอย่างไร้ความปรานี “ฮ่าฮ่าฮ่า......ศิษย์รัก อาจารย์มองเจ้าไม่ผิดจริง ๆ”

บ้าที่สุด! ถูกเจ้าซุนซือสิงรบกวนแต่เช้า เขาไม่ได้ทำอะไรเลย ช่างเป็นการเสียโอกาสไปโดยเปล่าประโยชน์

เสด็จอาเก้าอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา เห็นใบหน้าที่ภาคภูมิใจของเฟิ่งชิงเฉิน ใบหน้าของเขากลายเป็นสีดำ ก้มศีรษะลงและกัดจมูกของเฟิ่งชิงเฉิน “เจ้าวายร้ายตัวน้อย”

พูดจบเขาก็พลิกตัวและปล่อยเฟิ่งชิงเฉินไป

ถูกซุนซือสิงมารบกวนแต่เช้า เขาจะไปมีอารมณ์ได้อย่างไร ต่อให้เขามีอารมณ์ เฟิ่งชิงเฉินก็คงไม่ร่วมด้วย

เฟิ่งชิงเฉินกอดผ้าห่มและหัวเราะคิกคัก พยายามกลั้นเสียงหัวเราะของ พยายามกลั้นเสียงหัวเราะของนางเพราะเกรงว่าอาจจะทำให้เสด็จอาเก้าขุ่นเคือง เห็นว่าซุนซือสิงยังคงตะโกนอยู่ เฟิ่งชิงเฉินส่งเสียงออกไปบอกให้เขาไปรอนางในห้องโถง แล้วนางจะรีบตามออกไป

ก่อนหน้านี้อาศัยความใจร้อนในการใฝ่รู้บุกเข้ามายังที่พักของเฟิ่งชิงเฉิน เข้ามาโดยไม่สนใจใครทั้งสิ้น แต่เวลานี้ เมื่อสงบสติอารมณ์ลงแล้ว เขารู้ว่าเขานั้นใจร้อนเกินไป ทำอะไรไม่ถูกหลายอย่าง ใบหน้าของเขากลายเป็นสีแดง ระงับความร้อนรนในใจ และไปรอในห้องโถงอย่างเชื่อฟัง

“เด็กคนนี้ของเจ้านั้นช่างเชื่อฟังเหลือเกิน” เสด็จอาเก้ากางแขนของเขาออกเพื่อให้เฟิ่งชิงเฉินแต่งตัวให้เขา

เฟิ่งชิงเฉินไม่สนว่าความสุภาพคืออะไร นางปืนขึ้นไปทันที “มันก็แน่อยู่แล้ว เจ้าก็ลองดูสิว่าเขาเป็นศิษย์ของใคร แม้แต่ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยียังต้องการแย่งไปจากข้า แต่ข้าไม่มีทางยอมเป็นแน่”

เสด็จอาเก้าเคาะกะโหลกของเฟิ่งชิงเฉินเพื่อบอกนางว่าอย่าชะล่าใจเกินไป ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีเป็นหมอที่ไม่สนใจว่าจะดีหรือเลว เขาทำตามความชอบของเขาโดยไม่ถามความเห็นจากผู้อื่น

หากเวลานี้เขาดีต่อเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะทำสิ่งใดก็ดีไปหมด แต่หากเขาไม่ดีต่อเจ้า เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดเจ้า เขาถูกใจซุนซือสิงแล้ว หากเขาไม่ได้มาครอบครอง ระวังว่าเขาจะทำลายซุนซือสิง

เฟิ่งชิงเฉินยิ้มออกมา บอกเสด็จอาเก้าว่าไม่ต้องเป็นห่วง นางมองออกว่าปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีนั้นถูกใจในตัวลูกศิษย์ของนางมากเพียงใด และนอกจากนั้น นางเองก็ไม่มีความตั้งใจที่จะกักขังซุนซือสิงไว้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ