ตอนที่ 1008 การหวนคืนของศูนย์วิจัยซีซาน
เช้าวันรุ่งขึ้นเซียวยวี่โหลวจึงถูกเรียกไปที่ห้องทรงพระอักษรซึ่งตรงตามที่เหวินสิงโจวได้คาดการณ์เอาไว้มิมีผิดเพี้ยน
ฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยตักเตือนเซียวยวี่โหลวและท้ายที่สุดก็ตัดสินใจริบเบี้ยหวัดของอีกฝ่ายเป็นเวลาครึ่งปี ส่วนเรื่องทั้งหมดก็ให้ผ่านพ้นไป
“ห้ามมีคราต่อไปเป็นอันขาด ! ”
“ทูลฝ่าบาท กระหม่อม… กระหม่อมมิกล้าทำอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ ! ”
น้ำตาของเซียวยวี่โหลวใกล้ร่วงลงมาเต็มแก่ รสชาติของการกลับจวนเมื่อคืนช่างขมขื่นเกินรับไหว ต่อให้วันนี้ฝ่าบาทมิทรงเรียกมาตักเตือน เขาก็คงมิกล้าก้าวเท้าไปเหยียบหอหลิวหยุน
“บัดนี้การเตรียมพิธีถวายความเคารพของราชทูตไปถึงไหนแล้ว ? ” ฟู่เสี่ยวกวนรินน้ำชาแล้วส่งให้เซียวยวี่โหลว
“ทูลฝ่าบาท กำหนดการคือวันที่สิบแปดเดือนสาม ยังมีเวลาอีก 5 วันพ่ะย่ะค่ะ ทางราชทูตของแคว้นเล็ก ๆ เยี่ยง หลู่ซ่ง เปอร์เซีย อาหรับ เกาหลี เย่หลางรวมถึงแคว้นอื่น ๆ ได้แจ้งมาว่าฮ่องเต้ของพวกเขาจะเสด็จมาร่วมพิธีด้วยพระองค์เอง คาดว่าจะมาถึงเมืองกวนหยุนภายในสองวันนี้พ่ะย่ะค่ะ”
“ทางซีเซี่ยแจ้งมาว่าองค์ฮ่องเต้ของพวกเขาได้รับเทียบเชิญจากฝ่าบาทแล้ว และคาดว่าจะมาถึงในวันพรุ่งนี้ ส่วนราชวงศ์เหลียว…ราชทูตของราชวงศ์เหลียวแจ้งมาว่าฮ่องเต้ของเขามีพระราชกรณียกิจรัดตัว ครานี้จึงมิอาจมาได้พ่ะย่ะค่ะ”
ฟู่เสี่ยวกวนถือถ้วยน้ำชาพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น “ข้ารู้แล้ว”
“ฝ่าบาท…” เซียวยวี่โหลวนิ่งเงียบไปชั่วครู่ จากนั้นก็เอ่ยถามต่อว่า “เรื่องธรรมเนียมของการมาเยือน ฝ่าบาททรงวางแผนเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ ? ”
“สิ่งที่ใต้เท้าหนานกงเอ่ยมีเหตุผลยิ่ง เพราะครานี้บรรดาแคว้นเล็ก ๆ เหล่านั้นเป็นผู้เดินทางมาเยือน ตามหลักแล้วพวกเขาควรมอบเครื่องบรรณาการให้เจิ้น เหตุใดเจิ้นต้องประทานสิ่งของให้แก่พวกเขาด้วย ? ”
ฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาพลางก้มหน้าลงจิบชา ทำเอาเซียวยวี่โหลวชะงักงัน “พวกเรา…เป็นใหญ่เหนือแคว้นทั้งปวง”
“ท่านจงจำเอาไว้ว่าราชวงศ์อู๋มีประวัติศาสตร์ยาวนานมานับพันปี มีคราใดบ้างที่มีแคว้นจากแดนไกลมาเยี่ยมเยือน ? มิเคยมีแม้แต่คราเดียว เป็นเพราะเหตุใดท่านรู้หรือไม่ ? ก็เพราะต้าเซี่ยเป็นเอกราชและมีอาณาเขตกว้างไกล ทั้งยังเปี่ยมไปด้วยอำนาจที่ยิ่งใหญ่ ! ”
“พวกเขาจึงกังวลว่าหากต้าเซี่ยคิดที่จะขยายอาณาเขตต่อไป พวกเขาคงต้องย่อยยับสูญสลาย ดังนั้นเหล่าแคว้นเล็กแคว้นน้อยทั้งหลายจึงพร้อมใจกันมาเยือน”
“การที่พวกเขาถวายสิ่งของให้แก่เจิ้นก็เพื่อซื้อความสบายใจ ส่วนเจิ้นก็มีหน้าที่ช่วยบรรลุความปรารถนาของพวกเขา”
“ตั้งแต่บัดนี้สืบไป หากมีเรื่องเยี่ยงนี้ขึ้นมาอีกก็ขอให้ปฏิบัติตามธรรมเนียมของครานี้ ให้จัดหงหลูซื่อเป็นที่รับรอง พวกเขาต้องจ่ายค่าที่พักและค่าอาหารให้แก่หงหลูซื่อ หากจ่ายเงินมากก็ให้จัดหาเรือนดี ๆ รับรอง ทว่าถ้าจ่ายเงินน้อยก็ให้อาศัยอยู่ในห้องเล็ก ๆ ก็พอ”
เมื่อเซียวยวี่โหลวได้ยินดังนั้นก็เบิกตาโพลงขึ้นมาทันใด… ต้าเซี่ยขาดแคลนเงินทองมากถึงเพียงนั้นเชียวหรือ ? แล้วบรรดาแคว้นต่าง ๆ จะมองพวกเราเยี่ยงไร ?
“ต้าเซี่ย…มิจำเป็นต้องเห็นแก่หน้าผู้ใดหรือแคว้นใดทั้งนั้น ! ”
“ทว่าในทางตรงกันข้าม แคว้นอื่น ๆ หรือแม้แต่ประเทศที่ตั้งอยู่ห่างไกลออกไป ณ อีกฟากฝั่งของมหาสมุทร เจิ้นจะทำให้พวกเขาถวายพระเกียรติต่อประเทศต้าเซี่ยให้จงได้ ! ”
……
……
เซียวยวี่โหลวได้รับการสั่งสอนมาตามธรรมเนียมเดิมที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง จึงทำให้เขาต้องมานั่งตริตรองอยู่นานกว่าหนึ่งวัน สุดท้ายเขาถึงได้เข้าใจสัจธรรมข้อหนึ่งซึ่งก็คือ…ผู้ใดแข็งแกร่งผู้นั้นคือฝ่ายกำหนดกฎเกณฑ์
และในทุกวันนี้ประเทศต้าเซี่ยก็เป็นใหญ่เหนือผู้ใดในผืนปฐพี !
โดยเฉพาะหลังจากที่เรือรบเหล่านั้นสร้างเสร็จขึ้นมา ผู้คนในต้าเซี่ยเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีชัยเหนือทุกแว่นแคว้นที่กองทัพต้าเซี่ยก้าวผ่าน
พวกเขาล้วนมีความเชื่อมั่นในตัวองค์จักรพรรดิและเชื่อมั่นในพลานุภาพของทัพทหารบก กองทัพเรืออันแข็งแกร่งรวมถึงอาวุธที่ล้ำสมัยของต้าเซี่ยเหล่านั้นด้วย
การวิจัยอาวุธและยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ มิเคยหยุดนิ่งแม้แต่อึดใจเดียว
เซียวยวี่โหลวยังมิรู้ว่า บัดนี้มีศูนย์วิจัยแห่งใหม่ผุดขึ้นมาอีกหนึ่งแห่ง…มันมิใช่ศูนย์วิจัยของราชสำนักต้าเซี่ย ทว่าเป็นศูนย์วิจัยของภาคเอกชน !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)