นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1021

สรุปบท ตอนที่ 1021 เบื้องหน้าและเบื้องหลัง: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

สรุปตอน ตอนที่ 1021 เบื้องหน้าและเบื้องหลัง – จากเรื่อง นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) โดย Internet

ตอน ตอนที่ 1021 เบื้องหน้าและเบื้องหลัง ของนิยายทะลุมิติเรื่องดัง นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 1021 เบื้องหน้าและเบื้องหลัง

“ฝ่าบาท…หมายความว่าจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยทรงทราบอยู่แล้วว่าราชวงศ์เหลียวซุ่มฝึกฝนกองทัพ ดังนั้นเขาจึงตัดสินพระทัยยกทัพไปกำจัดราชวงศ์เหลียวเยี่ยงนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ ? ”

ณ ลานคฤหาสน์ของคณะทูตซีเซี่ย หลังจากที่ท่าป๋าวั่งและฟู่เสี่ยวกวนได้ร่วมรับประทานมื้อเย็นด้วยกันในห้องทรงพระอักษรและได้ฟังฟู่เสี่ยวกวนพรรณนาถึงสารพันเรื่องราวจนดึกดื่น ท่าป๋าวั่งถึงได้กลับมาที่นี่

ท่าป๋ายวี่นั่งรออยู่ที่ลานของคฤหาสน์อย่างกระวนกระวายใจ และแล้วฝ่าบาทก็กลับมาในที่สุด ฝ่าบาทดูอารมณ์ดีพอสมควร อาจเป็นเพราะการเจรจากับจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

“อย่าเรียกข้าว่าฝ่าบาทอีกเลย…”

ท่าป๋าวั่งสูดลมหายใจเข้าลึกหนึ่งครา จากนั้นก็ทอดสายตามองไปยังท้องนภากว้างไกล “จะมิมีแคว้นซีเซี่ยอีกต่อไปแล้ว จะมีเพียงเขตปกครองตนเองซีเซี่ยแห่งประเทศต้าเซี่ยเท่านั้น”

แม้ท่าป๋ายวี่จะพอคาดเดาผลสรุปในวันนี้ได้ ทว่าเขาก็ยังยืนอึ้งอยู่เนิ่นนานกว่าจะรวบรวมสติกลับมาได้ จากนั้นก็เม้มริมฝีปากที่เริ่มแห้งผาก แล้วก้มลงคำนับจนศีรษะแทบจะติดพื้น “ฝ่าบาท…พระองค์คงปวดใจยิ่งนัก ! ”

ท่าป๋าวั่งรู้สึกเจ็บใจที่ผลออกมาเป็นเยี่ยงนี้จริง ๆ หรือ ?

บัดนี้แม้แต่ท่าป๋าวั่งก็ยังมิรู้ใจของตนเองว่ารู้สึกเช่นไรกันแน่

เยี่ยงไรเสียที่ซีเซี่ยเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ก็เป็นเพราะฮ่องเต้ที่ไร้ความสามารถเยี่ยงตน บัดนี้ต้องสูญเสียพระราชอำนาจ จากฮ่องเต้กลายมาเป็นขุนนาง แท้จริงแล้วข้ารู้สึกเจ็บปวดหัวใจเสียเหลือเกิน

ทว่าหลังจากที่ได้ยินฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยถ้อยคำเหล่านั้นในระหว่างร่วมรับประทานอาหาร ท่าป๋าวั่งก็รู้สึกได้ว่าตนเองได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว… เนื่องจากการสูญเสียอำนาจคับฟ้าก็เพื่ออนาคตอันยาวไกลของซีเซี่ย นี่ก็คือการสูญเสียผลประโยชน์ส่วนตนเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมอย่างที่ฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยเอาไว้

เส้นทางสายไหมยังมิเคยถูกเผยแพร่ที่ใดมากก่อน ทว่าฟู่เสี่ยวกวนกลับบรรยายมันได้อย่างเห็นภาพราวกับว่าเคยเห็นมากับตาและเคยสัมผัสมาด้วยตนเอง

“ท่านราชครู…นี่เป็นการเดิมพันครั้งยิ่งใหญ่และเป็นการเดิมพันที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของข้าแล้ว”

“สิ่งที่ข้าเดิมพันไว้ก็คือ ฟู่เสี่ยวกวนจะทำในสิ่งที่เขาเอ่ยและหวังว่าเขาจะรักษาคำมั่นสัญญาเอาไว้ได้ หากเขาทำลายล้างราชวงศ์เหลียวได้จริงและสามารถเปิดเส้นทางสายไหมได้จริง…ซีเซี่ยก็จะกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ของเส้นทางสายไหม เช่นนั้นแล้วอนาคตของเขตปกครองตนเองซีเซี่ยก็จะเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น”

“ราษฎรแห่งซีเซี่ยก็ย่อมมั่งคั่งร่ำรวย มีความมั่นคงทางด้านความเป็นอยู่และมีงานรองรับจากเส้นทางสายไหมนี้”

ท่าป๋าวั่งมิได้เอ่ยว่าหากพ่ายแพ้แล้วจะเป็นเยี่ยงไร เพราะผลลัพธ์ที่ร้ายแรงที่สุดของความพ่ายแพ้ก็คงมิแตกต่างอันใดกับการถูกราชวงศ์เหลียวทำลาย ณ ปัจจุบันนี้หรอก

ท่าป๋ายวี่นิ่งเงียบอยู่เนิ่นนาน ฮ่องเต้ซีเซี่ยเลือกเส้นทางใดให้กับราษฎรชาวซีเซี่ยกัน ? ตัวเขาเองก็จนปัญญาที่จะพิพากษา

ทว่าทางเลือกนี้ดูเหมือนจะเหมาะสมกับซีเซี่ยมากที่สุดแล้วจริง ๆ จากที่ได้ทำความรู้จักกับฟู่เสี่ยวกวนอย่างผิวเผินในระยะเวลาที่ผ่านมา พบว่าจักรพรรดิผู้นั้นเหมือนมิเคยทำเรื่องเหลวแหลกให้เห็นเลยสักครา

การส่งมอบอนาคตของแคว้นและราษฎรซีเซี่ยไว้ในมือของอีกฝ่าย ก็คาดว่าสามารถวางใจได้ในระดับหนึ่ง

“พวกเราจะเดินทางกลับเมื่อใดเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

“คาดว่าอีกสักพัก พรุ่งนี้เจ้าต้องไปที่ราชสำนักกับข้า”

ท่าป๋ายวี่ผงะ “พวกเราจะไปเข้าร่วมประชุมราชสำนักเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

“มิใช่ ! ที่ประเทศต้าเซี่ยมิมีประชุมราชสำนัก ฝ่าบาททรงรับสั่งให้พวกเราไปเยือนที่ทำการของสำนักเสมียนกลาง สำนักตรวจสอบพระราชโองการและสำนักเสนาบดีรวมทั้งที่ทำการของกรมการค้า อาจจะต้องใช้เวลากว่าครึ่งเดือนในการเรียนรู้รูปแบบการทำงานของราชสำนักต้าเซี่ยและเพื่อให้เข้าใจนโยบายด้านต่าง ๆ ของประเทศนี้”

“แล้วทางซีเซี่ยเล่า ? ”

เนื่องจากปัจจุบันนี้ประเทศต้าเซี่ยได้ประกาศอย่างกระจ่างชัดแล้วว่าจะยกทัพเข้าตีราชวงศ์เหลียว เมื่อคณะทูตของราชวงศ์เหลียวเดินทางกลับแคว้นแล้ว มีความเป็นไปได้สูงว่าราชวงศ์เหลียวจะส่งกองทัพเข้ามาจัดการกับซีเซี่ยก่อน ดังนั้นพวกเราจะมีสมาธิศึกษางานที่ต้าเซี่ยได้เยี่ยงไร ?

“ในวันพรุ่งนี้ ทหารบกกองทัพที่หนึ่งประจำเขตปกครองตนเองชื่อเล่อชวนจะเคลื่อนพลเข้าซีเซี่ย”

“กองทัพที่หนึ่งมีกำลังทหารเพียงแค่ 100,000 นาย แต่การโจมตีในครานี้ของราชวงศ์เหลียว พวกเขาอาจจะใช้แสนยานุภาพของกองทัพทั้งหมดที่พวกเขามี ดังนั้นฝั่งเรามีกำลังพลน้อยเกินไปหรือไม่ ? ”

“ข้าได้ทูลถามฝ่าบาทแล้วเช่นกัน ทว่าพระองค์มิได้ขยายความเพียงแค่ตรัสว่าเมื่อถึงเวลานั้นคงมีเรื่องให้ตะลึงพรึงเพริดเอง”

ในทางกลับกัน เขาคือผู้ที่ลงมือทำทุกอย่างด้วยความรอบคอบ ทุกสิ่งอย่างผ่านการคิดและวางแผนมาแล้วอย่างดี

เช่นนั้นเขาจะใช้แผนการใดในการกำราบราชวงศ์เหลียวกัน ?

แคว้นซีเซี่ยได้หันไปพึ่งพาเขาโดยมิต้องสงสัยแล้ว

เมื่อได้ครอบครองซีเซี่ยแล้ว กองทัพบกของต้าเซี่ยย่อมมีแหล่งพักพิงอาศัย ส่วนซีเซี่ยที่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศต้าเซี่ยอยู่เบื้องหลังก็คงหมดปัญหาเรื่องเสบียงอาหารไปอย่างสิ้นเชิง

นี่คือเบื้องหน้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เป็นสงครามที่มีการต่อสู้ด้วยดาบและอาวุธของจริง เยลู่ตานมิได้หวั่นกลัวสงครามแต่อย่างใด ท้ายที่สุดแล้วสงครามก็คือการแข่งขันด้านความแข็งแกร่งของกองทัพ

ทว่าสิ่งที่เขากลัวคือเบื้องหลังที่ยังมิรู้ต่างหาก !

ในเมื่อฟู่เสี่ยวกวนวางแผนจะกำจัดราชวงศ์เหลียวมาเนิ่นนานแล้ว เบื้องหลังย่อมมีแผนการที่คาดมิถึงแอบซ่อนอยู่ ซึ่งแผนการนี้ต่างหากที่น่าหวาดกลัวที่สุด

“ตาเฒ่า ข้ากำลังสนทนากับเจ้าอยู่ เจ้าหมดลมแล้วหรือเยี่ยงไรกัน ? ส่งเสียงออกมาสิ ! ”

เยลู่ตานจ้องมองไปยังใบหน้าของเยลู่ฮัว อยู่ ๆ เขาก็ส่งยิ้มออกมา เจ้าคนโง่เขลาเบาปัญญาเอ๋ย ราชวงศ์เหลียวจวนจะพังพินาศอยู่รอมร่อ เจ้ายังมีหน้ามาเหน็บแนมข้าอยู่อีก…

เขาพลิกตัวลุกขึ้นจากเตียงทันใด จากนั้นก็ผลักเยลู่ฮัวออกไป “เจ้าหน้าที่… ! ”

“ตาเฒ่า เจ้าจะทำอันใด ? ”

เยลู่ตานจ้องมองไปทางเยลู่ฮัวแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “กระหม่อมหิว…สนใจมารับประทานอาหารร่วมกันสักมื้อหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ ? ”

มีเจ้าหน้าที่ทางการทูตวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน เยลู่ตานออกคำสั่งอย่างเหนื่อยหน่าย “เก็บของแล้วออกเดินทางในเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ อีกอย่าง…เรื่องในวันนี้จงส่งข่าวถึงฮ่องเต้แห่งราชวงศ์เหลียวโดยเร็วที่สุด ! ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)