ตอนที่ 1021 เบื้องหน้าและเบื้องหลัง
“ฝ่าบาท…หมายความว่าจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยทรงทราบอยู่แล้วว่าราชวงศ์เหลียวซุ่มฝึกฝนกองทัพ ดังนั้นเขาจึงตัดสินพระทัยยกทัพไปกำจัดราชวงศ์เหลียวเยี่ยงนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ ? ”
ณ ลานคฤหาสน์ของคณะทูตซีเซี่ย หลังจากที่ท่าป๋าวั่งและฟู่เสี่ยวกวนได้ร่วมรับประทานมื้อเย็นด้วยกันในห้องทรงพระอักษรและได้ฟังฟู่เสี่ยวกวนพรรณนาถึงสารพันเรื่องราวจนดึกดื่น ท่าป๋าวั่งถึงได้กลับมาที่นี่
ท่าป๋ายวี่นั่งรออยู่ที่ลานของคฤหาสน์อย่างกระวนกระวายใจ และแล้วฝ่าบาทก็กลับมาในที่สุด ฝ่าบาทดูอารมณ์ดีพอสมควร อาจเป็นเพราะการเจรจากับจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
“อย่าเรียกข้าว่าฝ่าบาทอีกเลย…”
ท่าป๋าวั่งสูดลมหายใจเข้าลึกหนึ่งครา จากนั้นก็ทอดสายตามองไปยังท้องนภากว้างไกล “จะมิมีแคว้นซีเซี่ยอีกต่อไปแล้ว จะมีเพียงเขตปกครองตนเองซีเซี่ยแห่งประเทศต้าเซี่ยเท่านั้น”
แม้ท่าป๋ายวี่จะพอคาดเดาผลสรุปในวันนี้ได้ ทว่าเขาก็ยังยืนอึ้งอยู่เนิ่นนานกว่าจะรวบรวมสติกลับมาได้ จากนั้นก็เม้มริมฝีปากที่เริ่มแห้งผาก แล้วก้มลงคำนับจนศีรษะแทบจะติดพื้น “ฝ่าบาท…พระองค์คงปวดใจยิ่งนัก ! ”
ท่าป๋าวั่งรู้สึกเจ็บใจที่ผลออกมาเป็นเยี่ยงนี้จริง ๆ หรือ ?
บัดนี้แม้แต่ท่าป๋าวั่งก็ยังมิรู้ใจของตนเองว่ารู้สึกเช่นไรกันแน่
เยี่ยงไรเสียที่ซีเซี่ยเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ก็เป็นเพราะฮ่องเต้ที่ไร้ความสามารถเยี่ยงตน บัดนี้ต้องสูญเสียพระราชอำนาจ จากฮ่องเต้กลายมาเป็นขุนนาง แท้จริงแล้วข้ารู้สึกเจ็บปวดหัวใจเสียเหลือเกิน
ทว่าหลังจากที่ได้ยินฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยถ้อยคำเหล่านั้นในระหว่างร่วมรับประทานอาหาร ท่าป๋าวั่งก็รู้สึกได้ว่าตนเองได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว… เนื่องจากการสูญเสียอำนาจคับฟ้าก็เพื่ออนาคตอันยาวไกลของซีเซี่ย นี่ก็คือการสูญเสียผลประโยชน์ส่วนตนเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมอย่างที่ฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยเอาไว้
เส้นทางสายไหมยังมิเคยถูกเผยแพร่ที่ใดมากก่อน ทว่าฟู่เสี่ยวกวนกลับบรรยายมันได้อย่างเห็นภาพราวกับว่าเคยเห็นมากับตาและเคยสัมผัสมาด้วยตนเอง
“ท่านราชครู…นี่เป็นการเดิมพันครั้งยิ่งใหญ่และเป็นการเดิมพันที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของข้าแล้ว”
“สิ่งที่ข้าเดิมพันไว้ก็คือ ฟู่เสี่ยวกวนจะทำในสิ่งที่เขาเอ่ยและหวังว่าเขาจะรักษาคำมั่นสัญญาเอาไว้ได้ หากเขาทำลายล้างราชวงศ์เหลียวได้จริงและสามารถเปิดเส้นทางสายไหมได้จริง…ซีเซี่ยก็จะกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ของเส้นทางสายไหม เช่นนั้นแล้วอนาคตของเขตปกครองตนเองซีเซี่ยก็จะเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น”
“ราษฎรแห่งซีเซี่ยก็ย่อมมั่งคั่งร่ำรวย มีความมั่นคงทางด้านความเป็นอยู่และมีงานรองรับจากเส้นทางสายไหมนี้”
ท่าป๋าวั่งมิได้เอ่ยว่าหากพ่ายแพ้แล้วจะเป็นเยี่ยงไร เพราะผลลัพธ์ที่ร้ายแรงที่สุดของความพ่ายแพ้ก็คงมิแตกต่างอันใดกับการถูกราชวงศ์เหลียวทำลาย ณ ปัจจุบันนี้หรอก
ท่าป๋ายวี่นิ่งเงียบอยู่เนิ่นนาน ฮ่องเต้ซีเซี่ยเลือกเส้นทางใดให้กับราษฎรชาวซีเซี่ยกัน ? ตัวเขาเองก็จนปัญญาที่จะพิพากษา
ทว่าทางเลือกนี้ดูเหมือนจะเหมาะสมกับซีเซี่ยมากที่สุดแล้วจริง ๆ จากที่ได้ทำความรู้จักกับฟู่เสี่ยวกวนอย่างผิวเผินในระยะเวลาที่ผ่านมา พบว่าจักรพรรดิผู้นั้นเหมือนมิเคยทำเรื่องเหลวแหลกให้เห็นเลยสักครา
การส่งมอบอนาคตของแคว้นและราษฎรซีเซี่ยไว้ในมือของอีกฝ่าย ก็คาดว่าสามารถวางใจได้ในระดับหนึ่ง
“พวกเราจะเดินทางกลับเมื่อใดเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“คาดว่าอีกสักพัก พรุ่งนี้เจ้าต้องไปที่ราชสำนักกับข้า”
ท่าป๋ายวี่ผงะ “พวกเราจะไปเข้าร่วมประชุมราชสำนักเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“มิใช่ ! ที่ประเทศต้าเซี่ยมิมีประชุมราชสำนัก ฝ่าบาททรงรับสั่งให้พวกเราไปเยือนที่ทำการของสำนักเสมียนกลาง สำนักตรวจสอบพระราชโองการและสำนักเสนาบดีรวมทั้งที่ทำการของกรมการค้า อาจจะต้องใช้เวลากว่าครึ่งเดือนในการเรียนรู้รูปแบบการทำงานของราชสำนักต้าเซี่ยและเพื่อให้เข้าใจนโยบายด้านต่าง ๆ ของประเทศนี้”
“แล้วทางซีเซี่ยเล่า ? ”
เนื่องจากปัจจุบันนี้ประเทศต้าเซี่ยได้ประกาศอย่างกระจ่างชัดแล้วว่าจะยกทัพเข้าตีราชวงศ์เหลียว เมื่อคณะทูตของราชวงศ์เหลียวเดินทางกลับแคว้นแล้ว มีความเป็นไปได้สูงว่าราชวงศ์เหลียวจะส่งกองทัพเข้ามาจัดการกับซีเซี่ยก่อน ดังนั้นพวกเราจะมีสมาธิศึกษางานที่ต้าเซี่ยได้เยี่ยงไร ?
“ในวันพรุ่งนี้ ทหารบกกองทัพที่หนึ่งประจำเขตปกครองตนเองชื่อเล่อชวนจะเคลื่อนพลเข้าซีเซี่ย”
“กองทัพที่หนึ่งมีกำลังทหารเพียงแค่ 100,000 นาย แต่การโจมตีในครานี้ของราชวงศ์เหลียว พวกเขาอาจจะใช้แสนยานุภาพของกองทัพทั้งหมดที่พวกเขามี ดังนั้นฝั่งเรามีกำลังพลน้อยเกินไปหรือไม่ ? ”
“ข้าได้ทูลถามฝ่าบาทแล้วเช่นกัน ทว่าพระองค์มิได้ขยายความเพียงแค่ตรัสว่าเมื่อถึงเวลานั้นคงมีเรื่องให้ตะลึงพรึงเพริดเอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)