นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1020

สรุปบท ตอนที่ 1020 เขตปกครองตนเองซีเซี่ย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

ตอนที่ 1020 เขตปกครองตนเองซีเซี่ย – ตอนที่ต้องอ่านของ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

ตอนนี้ของ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายทะลุมิติทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1020 เขตปกครองตนเองซีเซี่ย จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 1020 เขตปกครองตนเองซีเซี่ย

“พวกท่านคิดว่าจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยเชิญฮ่องเต้ซีเซี่ยไปทำอันใด ? ”

“วันนี้จักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยได้ประกาศสงครามกับราชวงศ์เหลียวเพื่อแคว้นซีเซี่ย ข้าคิดว่าพวกเขาคงจะบรรลุข้อตกลงบางประการร่วมกันแล้ว”

“พวกท่านคิดว่า…ประเทศต้าเซี่ยจะเปิดศึกกับทางราชวงศ์เหลียวเพื่อแคว้นซีเซี่ยจริง ๆ หรือ ? ”

“ศึกครานี้มิสูญเปล่าอย่างแน่นอน ต้าเซี่ยและซีเซี่ยแม้จะมีคำว่าเซี่ยเหมือนกัน ทว่าความจริงแล้วสองประเทศนี้ไร้ความเกี่ยวข้องกันโดยสิ้นเชิง ตามความคิดของข้า…เกรงว่าพวกเราจะประมาทจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยพระองค์นี้มากจนเกินไป ! ”

“ท่านหมายความว่าจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยต้องการคว้าแคว้นซีเซี่ยมาไว้ในครอบครองเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

ประมุขแห่งอาหรับส่งยิ้มบางให้ทุกคน เขามิได้ตอบคำถามนี้เพราะคิดว่าแผนการของจักรพรรดิต้าเซี่ยคงยิ่งใหญ่เกินกว่าที่พวกเขาจะคาดคิด !

……

……

ฟู่เสี่ยวกวนพาท่าป๋าวั่งไปยังห้องทรงพระอักษร

“หลิวจิ่น…เจ้าจงไปสั่งให้ทางห้องเครื่องเตรียมเครื่องเสวยรสเลิศไว้ แล้วจงปิดประตูที่นี่ให้สนิท”

ท่าป๋าวั่งขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความฉงน ยามที่ยังอยู่ในหงหลูซื่อก็พบว่าฟู่เสี่ยวกวนเรียกชื่อของตนออกมาโดยตรง คาดว่าเขาคงเห็นตนเป็นหนึ่งในขุนนางภายใต้บัญชาไปแล้ว

ในพิธีถวายความเคารพ ฟู่เสี่ยวกวนสามารถบังคับให้ตนแสดงจุดยืนได้ ทว่าเขากลับเลือกที่จะแบกรับทุกอย่างเอาไว้เสียเอง นี่เป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการรักษาหน้าให้กับแคว้นซีเซี่ย

ชายหนุ่มผู้นี้วางกลอุบายได้อย่างแยบยล ยากที่จะคาดเดาออก !

มิแปลกใจเลยที่อีกฝ่ายสามารถโจมตีแคว้นฮวงแล้วส่งไม้ต่อให้ท่าป๋าคังขึ้นบริหาร นี่คือความยิ่งใหญ่และความมั่นใจในตนเองของเขา

เมื่อปิดประตูดีแล้ว ในห้องทรงพระอักษรจึงเหลือเพียงแค่ฟู่เสี่ยวกับท่าป๋าวั่งสองเท่านั้น พวกเขาต้องร่วมตกลงเรื่องผลประโยชน์ที่ต้าเซี่ยสมควรจะได้รับเมื่อยกทัพประชิดราชวงศ์เหลียว

“เชิญนั่ง ! ”

ฟู่เสี่ยวกวนจัดแจงต้มชา ใบหน้าของเขาเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม “เชื่อข้าเถิดว่านโยบายชาวฮวงปกครองชาวฮวงด้วยกันเอง ได้ผ่านการทดสอบโดยการใช้งานจริงมาแล้ว หลายปีมานี้ได้พิสูจน์ประสิทธิภาพของนโยบายนี้ได้ดีเป็นอย่างยิ่ง”

ท่าป๋าวั่งนั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับฟู่เสี่ยกวนพลางขมวดคิ้วมุ่น คาดมิถึงว่าฟู่เสี่ยวกวนจะโพล่งออกมาโดยไร้ความเกรงใจเช่นนี้

เจ้าจะมิถามความเห็นของข้าสักหน่อยหรือ ?

บัดนี้ข้ายังดำรงตำแหน่งฮ่องเต้อยู่มิใช่หรือ ?

ฟู่เสี่ยวกวนมิได้สังเกตเห็นสีหน้าผิดปกติของท่าป๋าวั่งเลยสักนิด เขายื่นถ้วยชาให้กับท่าป๋าวั่ง จากนั้นก็ถูมือไปมาแล้วเอ่ยว่า “นโยบายที่ทำให้ชื่อเล่อชวนมีสภาพอย่างที่เห็นในทุกวันนี้ คาดว่าท่านคงมีความเข้าใจมาบ้างแล้ว นโยบายนี้มีบัญญัติไว้ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งต้าเซี่ย เมื่อเอ่ยถึงรัฐธรรมนูญ…ท่านอาจจะมิค่อยรู้ชัดสักเท่าใดนัก รัฐธรรมนูญคือกฎหมายขั้นพื้นฐานของประเทศ มิว่าผู้ใดก็ตามรวมถึงตัวข้าล้วนต้องเคารพรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทั้งสิ้น”

เมื่อสิ้นเสียงของฟู่เสี่ยวกวน ท่าป๋าวั่งก็ตกตะลึงขึ้นมาทันใด… จักรพรรดิมิใช่ผู้กุมอำนาจสูงสุดหรอกหรือ ?

กฎหมายใดก็มิอาจมีอำนาจเหนือองค์จักรพรรดิได้หรอก นี่คือสิ่งที่ทุกคนทราบโดยทั่วกัน

ท่าป๋าวั่งรู้สึกสงสัยมากยิ่งนักว่าถ้อยคำของอีกฝ่ายเป็นจริงหรือเท็จ ทว่าเมื่อจ้องมองสีหน้าของฟู่เสี่ยวกวนก็เหมือนจะเป็นจริงดังนั้น และอีกอย่างฟู่เสี่ยวกวนก็มิมีเหตุผลใดต้องโกหกตน

เช่นนั้นต้องซื้อหนังสือเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญกลับไปศึกษาสักเล่มแล้ว

“เรื่องเหล่านี้ที่ข้าเอ่ยให้ท่านฟัง ท่านอาจจะยังมิค่อยเชื่อ แต่มิเป็นไร…เวลาจะช่วยพิสูจน์ทุกอย่างเอง ทว่าวันนี้ข้ายอมชักดาบออกมาปกป้องท่านแล้ว การส่งกองทัพไปรบกับราชวงศ์เหลียวถือเป็นเรื่องเร่งด่วน ข้ามิอยากเห็นราชวงศ์เหลียวยึดแคว้นซีเซี่ยไปก่อนที่ท่านจะตอบตกลงในข้อเสนอของข้า”

“ข้ามิชอบความอ้อมค้อม บัดนี้ท่านเข้าใจสถานการณ์ได้ดีมากกว่าข้า หากแคว้นซีเซี่ยมิยอมสวามิภักดิ์ต่อประเทศต้าเซี่ย แคว้นซีเซี่ยก็อาจจะมิสามารถดำรงอยู่ต่อไปได้อีก”

“เป็นดั่งที่ข้าเคยเอ่ยให้ท่านฟังเมื่อสองคืนก่อน หากซีเซี่ยยอมสวามิภักดิ์ต่อต้าเซี่ย พวกเราจะโจมตีราชวงศ์เหลียวให้สูญสิ้นและดินแดนตรงนั้นก็จะกลายเป็นหยวนเป่ยเต้าของต้าเซี่ย”

“ท่านคงสงสัยใคร่รู้ว่าเหตุใดข้าถึงเลือกทำเช่นนี้ ในราตรีนั้นข้าได้บอกแล้วว่า… ข้าต้องการสร้างเส้นทางทองคำขึ้นมาและบังเอิญถนนสายนี้ได้ตัดผ่านซีเซี่ยกับราชวงศ์เหลียวพอดี เช่นนั้นก็หมายความว่าพวกท่านกำลังขวางทางข้าอยู่ มิว่าจะเป็นท่านหรือเยลู่ชิงก็ล้วนต้องหลีกทางให้กับข้า”

“ส่วนวิธีการหลีกทางที่จะเลือกใช้ก็มีสารพัดรูปแบบ ยกตัวเช่น ยอมสวามิภักดิ์หรืออาจจะเลือกก่อสงครามเฉกเช่นราชวงศ์เหลียว… และท่านย่อมเลือกเส้นทางที่สามได้เช่นกัน…นั่นก็คือถูกเนรเทศ ข้าขอรับประกันเลยว่าจะมิตามไปสังหารท่านอย่างแน่นอน และข้าก็ขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะดูแลราษฎรในซีเซี่ยให้ดีที่สุด”

ความหวั่นวิตกของท่าป๋าวั่งพลันเหือดหายไปทันตา เขาเผยรอยยิ้มเห็นฟันออกมาราวกับว่าความเหนื่อยล้าที่สะสมมาเนิ่นนานได้หายไปในห้วงเวลานี้

เขาโค้งตัวลงคำนับ “กระหม่อม…ท่าป๋าวั่ง ขอบพระทัยฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ! ”

“มิต้องมากพิธีรีตองหรอก นั่งลงเถิด จริงสิ ! ตัวข้าเป็นคนมิเน้นพิธีการสักเท่าใด ระหว่างจักรพรรดิกับขุนนาง…สองบทบาทนี้เพียงแค่มีหน้าที่ที่แตกต่างกันเท่านั้นเอง มิมีผู้ใดสูงหรือต่ำ ประเดี๋ยวต่อไปท่านก็จะรู้เอง”

ท่าป๋าวั่งรู้สึกราวกับได้ยกภูเขาที่หนักอึ้งออกจากอก เขายกถ้วยชาขึ้นดื่ม รู้สึกว่าชาถ้วยนี้ช่างหอมหวานกว่าที่เคยดื่มมา

จากฮ่องเต้สู่ขุนนางมันทำให้เขาลังเลใจเพราะเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งวันนี้เขาถึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว สิ่งที่ยากจะปล่อยวางมากที่สุดก็คือศักดิ์ศรี

ทว่าบัดนี้เขาปล่อยวางมันลงแล้ว รู้สึกว่ามีศักดิ์ศรีไปมันก็แค่นั้น

หากนำไปเปรียบเทียบกับการทำให้ชาวซีเซี่ยหลายสิบล้านคนได้มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม ศักดิ์ศรีนี้…มิมีก็ช่างปะไร

คำเอ่ยของฟู่เสี่ยวกวนทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมา แต่เมื่อนึกถึงราชวงศ์เหลียว รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็หุบลงทันใด “ทูลฝ่าบาท พระองค์ต้องการยกทัพไปตีราชวงศ์เหลียวจริงหรือพ่ะย่ะค่ะ ? ”

“แน่นอนอยู่แล้ว เว้นแต่ราชวงศ์เหลียวจะยอมสวามิภักดิ์เสียก่อน”

“กระหม่อมได้ยินมาว่า…เยลู่ชิงซุ่มฝึกกองทัพแสนยานุภาพสูงจำนวนหลายแสนนายพ่ะย่ะค่ะ ! ”

นี่ต่างหากที่เป็นสาเหตุให้ท่าป๋าวั่งตัดสินใจยอมศิโรราบต่อต้าเซี่ย !

เนื่องจากกองทัพอาชาทมิฬซึ่งแข็งแกร่งที่สุดของแคว้นซีเซี่ยหลงเหลืออยู่เพียงห้าหมื่นนายเท่านั้น

มองผิวเผินเหมือนว่ากองทัพหลักของราชวงศ์เหลียวเหลือเพียงแค่สองแสนกว่านายเท่านั้น แต่ความเป็นจริงตนได้รับรายงานว่าที่ภูเขาต้าเซียนเปยมีกองทัพที่แปลกออกไปจากกองทัพของราชวงศ์เหลียว ซุ่มฝึกฝนอยู่หลายแสนนาย !

เมื่อเขาทราบข่าวนี้ก็ตั้งมั่นว่าต้องมาเยือนแคว้นต้าเซี่ยให้จงได้ เพราะรู้ตัวดีว่าซีเซี่ยมิมีทางรบชนะกองทัพนั้นของราชวงศ์เหลียวได้เลย

“ข้าทราบแล้ว ! เพราะเหตุนี้ข้าถึงต้องยกทัพไปตีราชวงศ์เหลียว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)