นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1029

ตอนที่ 1029 กลุ่มนักท่องเที่ยวแห่งต้าเซี่ย

รัชสมัยต้าเซี่ยปีที่หนึ่ง วันที่สิบแปด เดือนสี่ ยามเฉิน

มีขบวนรถม้าแล่นออกจากพระราชวังอย่างเอิกเกริกท่ามกลางสายตาตกตะลึงของขุนนางฝ่ายพลเรือนและฝ่ายทหาร ข่าวการออกประพาสประเทศต้าเซี่ยขององค์จักรพรรดิจึงเป็นที่ทราบกันอย่างแพร่หลาย…

“ไม่สิ…นี่กำลังจะไปรบกับราชวงศ์เหลียวมิใช่หรือ ? เหตุใดองค์จักรพรรดิถึงเสด็จออกประพาสได้เล่า ? ”

“หรือฝ่าบาททรงมีพระประสงค์จะเคลื่อนทัพไปตีราชวงศ์เหลียวด้วยพระองค์เอง ? ”

“มิใช่สิ ! เพราะเมื่อครู่ข้าเพิ่งอ่านกำหนดการจากกรมพิธีการอยู่เลย ฝ่าบาทประสงค์จะเดินทางไปยังเมืองหลวงรองจินหลิง ! ”

“จินหลิงเยี่ยงนั้นหรือ ? บางทีฝ่าบาทอาจจะทรงระลึกถึงเมืองจินหลิงใช่หรือไม่ ? เพราะพระองค์เคยประทับอยู่ที่นั่นและอาจจะเสด็จกลับไปเยี่ยมเยียน”

“ทว่าสงครามกำลังจะเริ่มในมิช้านี้แล้ว ! ”

“พวกเรายังมีกรมกลาโหมอยู่มิใช่หรือ ? เรื่องบ้านเมืองก็ยังมีสามสำนักคอยบริหารจัดการ ส่วนเรื่องกลยุทธ์ทางการทหารย่อมถูกจัดการโดยกรมกลาโหมเพื่อให้มีความเป็นหนึ่งเดียว”

“พระทัยของฝ่าบาทช่างกว้างขวางเสียจริง ! ”

มิใช่แค่ในพระราชวังเท่านั้น ทว่าชาวเมืองกวนหยุนก็คึกคักมากเช่นเดียวกัน

จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งต้าเซี่ยกำลังเสด็จประพาสประเทศอันเกรียงไกรของพระองค์เอง นี่ย่อมเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นในสายตาของราษฎร

ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาดั่งสายน้ำ ยืนขนาบอยู่สองข้างทางพร้อมกับกู่ร้องตะโกนอย่างสุดเสียง พวกเขาต่างก็โบกสะบัดมือไม้เพื่อแสดงถึงความเคารพที่ตนมีต่อองค์จักรพรรดิ

ฟู่เสี่ยวกวนเลิกมุมผ้าม่านด้านหนึ่งของราชรถมังกรขึ้น เขามิได้ยื่นมือหรือหน้าออกไปทักทายราษฎร เขาเพียงนั่งมองอย่างเงียบ ๆ ด้วยสีหน้าเปรมปรีดิ์

ความรู้สึกภาคภูมิใจเอ่อล้นขึ้นมาจนแน่นอก

ทันใดนั้นเขาก้รู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ลงแรงไปนั้นแสนคุ้มค่า !

นี่หมายถึงการที่ราษฎรยอมรับในองค์จักรพรรดิกลาย ๆ นี่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าจักรพรรดิพระองค์นี้ทำหน้าที่ได้ดีและได้เดินอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องแล้ว

เขาเป็นดั่งแกะจ่าฝูงของต้าเซี่ย ฝูงแกะจะสามารถหาสถานที่ที่หญ้าเขียวชอุ่มได้หรือไม่ จะสามารถเล็มหญ้าได้อย่างสุขสบายและปลอดภัยได้หรือไม่ก็ล้วนแต่เป็นหน้าที่ของจ่าฝูงทั้งสิ้น

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ช่างเปี่ยมล้นไปด้วยความหมาย การที่ได้ทำให้ราษฎรเหล่านี้วิ่งหนีออกมาจากความยากจน กระทั่งสามารถลืมตาอ้าปากและมีชีวิตที่สุขบายได้ มันช่างมีความหมายมากมายยิ่งนัก

จะว่าไปแล้วฟู่เสี่ยวกวนก็เปรียบดั่งเจ้าของที่ดินรายใหญ่ในประเทศต้าเซี่ยและราษฎรเหล่านี้ก็คือผู้เช่าที่ดิน ฟู่เสี่ยวกวนได้มอบชีวิตอันงดงามให้แก่พวกเขา ทว่าในความเป็นจริง…ตนกำลังกุมชะตาชีวิตของพวกเขาเอาไว้ต่างหาก

ดังนั้น…หากลองพิจารณาให้ละเอียดก็จะพบว่าการที่ถูกเคารพบูชามิใช่สิ่งที่ดี

หากวันใดวันหนึ่งราษฎรเหล่านี้เฉยเมยต่อสิ่งที่เป็นอยู่ขึ้นมาพลางคิดว่านี่คือสิ่งที่จักรพรรดิควรทำ และจักรพรรดิมิได้แตกต่างจากพวกตนแต่อย่างใด เพียงมีหน้าที่แตกต่างกันก็เท่านั้น

หรือแม้กระทั่งราษฎรอาจจะเป็นผู้ตัดสินเองว่าผู้ใดควรมาเป็นจักรพรรดิ เปลี่ยนให้พวกตนเป็นผู้บงการชะตาชีวิตของจักรพรรดิบ้าง นี่ต่างหากที่เป็นประเทศในอุดมคติของเขา

ทว่าทั้งหมดทั้งมวลนี้ล้วนเป็นหนทางที่จะนำพาไปสู่การพัฒนาด้านอารยธรรม สิ่งที่ฟู่เสี่ยวกวนสามารถทำได้มีเพียงช่วยส่องแสงสว่างนำทางให้แก่ราษฎรเท่านั้น

ส่วนเรื่องที่ราษฎรจะมองได้กว้างไกลเพียงใด จะตื่นรู้ได้เมื่อใด ฟู่เสี่ยวกวนคงมิอาจมีชีวิตยืนยาวจนได้เห็นวันนั้นมาเยือนหรอก

เมื่อหว่านเมล็ดพันธุ์ลงไปก็ย่อมหวังให้มันแตกหน่อกลายเป็นต้นกล้า ท้ายที่สุดมันอาจจะเน่าเสียอยู่ใต้ดินที่สกปรกหรืออาจจะแตกรากจนเจริญงอกงามก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

ผู้ใดจะไปล่วงรู้ได้เล่า ?

นี่คือกรอบความคิด จะมีเพียงต้นไม้…ต้นที่สามารถเจริญเติบโตจนสูงเสียดฟ้าเท่านั้น ที่จะทะลุกรอบแห่งข้อจำกัดต่าง ๆ ออกไปได้

“เจ้ามิมีความสุขเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

ภายในราชรถมังกร สวี่หยุนชิงจ้องมองสีหน้าปลื้มปีติของฟู่เสี่ยวกวนที่แปรเปลี่ยนเป็นเศร้าหมองอย่างมิเข้าใจเท่าใดนัก นี่เป็นการแสดงความภักดีของราษฎรที่มีต่อเขาแท้ ๆ ยุคสมัยอันรุ่งเรืองเช่นนี้เคยเกิดขึ้นเสียที่ใดกันเล่า ?

“ก็มิเชิงหรอก…ข้าเพียงแค่รู้สึกว่าพวกเขาช่างน่าสงสารเสียเหลือเกิน”

สวี่หยุนชิงยิ่งรู้สึกงงงวยเข้าไปใหญ่ ซูซูและสวี่ซินเหยียนก็รู้สึกฉงนเช่นเดียวกัน

“บัดนี้ราษฎรต่างก็มีชีวิตที่ดีขึ้น ขนส่งซีซานได้ส่งจดหมายมารายงานว่าผู้คนในแต่ละท้องถิ่นของต้าเซี่ยอย่างน้อยก็มีเครื่องนุ่งห่มและกินอิ่มนอนหลับสบายกันถ้วนหน้า ประเทศต้าเซี่ยเพิ่งถูกสถาปนาได้เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น หากผ่านไปอีกสัก 3 ปี พวกเขาย่อมมีชีวิตที่ดีกว่าเดิมอย่างแน่นอน ! ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)