นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1030

สรุปบท ตอนที่ 1030 นายน้อยหมายความว่าเยี่ยงไร ?: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

ตอนที่ 1030 นายน้อยหมายความว่าเยี่ยงไร ? – ตอนที่ต้องอ่านของ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

ตอนนี้ของ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายทะลุมิติทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1030 นายน้อยหมายความว่าเยี่ยงไร ? จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 1030 นายน้อยหมายความว่าเยี่ยงไร ?

ข่าวเรื่องจักรพรรดิต้าเซี่ยเสด็จประพาสมิได้ถูกปกปิดแต่อย่างใด

ทางหนังสือพิมพ์ต้าเซี่ยรายสัปดาห์รายงานข่าวนี้อย่างยาวเหยียดเสียด้วยซ้ำ

ทุกวันนี้หนังสือพิมพ์ต้าเซี่ยรายสัปดาห์ค่อย ๆ ขยายขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ… ทางหนังสือพิมพ์ได้ว่าจ้างนักข่าวจำนวนหนึ่ง…นี่คือพระดำริของฝ่าบาทที่ต้องการสัมภาษณ์คนกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ

นักข่าวกลุ่มนี้แบ่งเป็น 2 ประเภทด้วยกัน ประเภทแรกคือนักข่าวประจำราชสำนักที่สามารถเข้าออกวังหลวงเพื่อร่วมฟังการแถลงนโยบายต่าง ๆ จากส่วนกลางได้…แน่นอนว่านี่เป็นพระราชดำริของฝ่าบาทด้วยเช่นกัน !

พระองค์ตรัสว่าแต่ละกรมต้องมีการแถลงข่าวเป็นครั้งครา โดยให้แถลงนโยบายต่อสาธารณะหรือแถลงผลการดำเนินงานผ่านหนังสือพิมพ์ต้าเซี่ยรายสัปดาห์นี้

นักข่าวประจำราชสำนักสามารถสอบถามถึงข้อสงสัยของตนได้และโฆษกของแต่ละกรมต้องให้คำตอบได้เช่นกัน

ทั้งหมดนี้ต้องมีการประกาศออกสู่ใต้หล้าผ่านทางหนังสือพิมพ์ต้าเซี่ยรายสัปดาห์

สำหรับนักข่าวในประเภทที่สองจะรับผิดชอบข่าวบันเทิง พวกเขามิใช่นักข่าวในราชสำนัก ดังนั้นจึงสามารถเก็บรวบรวมข่าวสารทั่วทั้งประเทศแล้วส่งให้กับบรรณาธิการโดยจะได้รับค่าตอบแทนทันทีที่สำนักพิมพ์ได้รับข่าว

ทุกวันนี้หนังสือพิมพ์ต้าเซี่ยรายสัปดาห์สามฉบับแรกได้กระจายไปทั่วทั้งประเทศแล้ว ทั้งยังได้รับเสียงตอบรับอย่างท่วมท้น… ในหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับมีทั้งเรื่องสำคัญระดับประเทศ มีประสบการณ์ด้านการเกษตรที่สามารถใช้เป็นวิทยาทานแก่ราษฎรและมีเรื่องราวที่นิยมชมชอบกันในหมู่ชาวบ้าน

ข่าวเรื่องการเสด็จประพาสของฝ่าบาทเมื่อวานนี้ ทันทีที่หนังสือพิมพ์ถูกตีพิมพ์และวางจำหน่ายก็ถูกขายจนหมดเกลี้ยงในชั่วพริบตาเดียว ข่าวนี้จะแพร่หลายไปทั่วทั้งประเทศได้ตามความเร็วของระบบคมนาคม ปัจจุบันนี้อาจจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือน

เวลานี้ที่แปลงนาหลวงในโม่โจว หวางเอ้อได้รับหนังสือพิมพ์ฉบับที่สี่ซึ่งเป็นฉบับใหม่ล่าสุด

ในหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้ตีพิมพ์เรื่องราวของดอกไม้ชนิดหนึ่งซึ่งมีนามว่าดอกทิวลิป

ขณะเดียวกันหวางเอ้อก็ได้รับจดหมายฉบับหนึ่งที่นอกจากเขียนถึงข้าวโพดกับมันฝรั่งแล้ว ยังได้เอ่ยถึงดอกทิวลิปเป็นกรณีพิเศษอีกด้วย… หวางเอ้อจึงได้รู้จักนามของดอกไม้ชนิดนั้น

“หวางเฉียง…เจ้าคิดว่าเหตุใดนายน้อยถึงให้ข้าเพาะปลูกเจ้าดอกทิวลิปนี่อย่างจริงจังกัน ? ”

“คาดว่าคงเป็นเพราะดอกไม้ชนิดนี้งดงามและคาดว่าอาจจะนำมาทำน้ำหอมได้ขอรับ”

หวางเอ้อที่คาบมวนยาสูบอยู่ในปากมิได้ตอบรับอันใด ในใจครุ่นคิดว่าคงเป็นเช่นนั้นเพราะนายน้อยคงมิส่งจดหมายมาเป็นการเฉพาะหากไร้ความสำคัญ

แต่หวางเอ้อรู้สึกว่ามิน่าจะเป็นไปได้เพราะสิ่งที่นายน้อยต้องการคือเมล็ดของดอกทิวลิป ทั้งยังต้องการเมล็ดของเจ้าดอกไม้นั้นจำนวนมหาศาลอีกด้วย

หวางเอ้อมิได้คิดอันใดมากมายเพราะเมื่อนายน้อยสั่งมา เยี่ยงไรตนก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง

“นี่คือวิธีเพาะต้นกล้าข้าวโพดที่นายน้อยได้เขียนเอาไว้ เมื่อปีกลายพวกเราเก็บเมล็ดข้าวโพดได้ 300 จิน อีกประเดี๋ยวเจ้าจงไปเพาะตามวิธีการของนายน้อย…”

“อีกอย่างนี่คือวิธีปลูกมันฝรั่ง วิธีที่พวกเราใช้เพาะปลูกเมื่อปีกลายนั้นผิดมหันต์ เจ้าดูนี่สิ ! นายน้อยบอกไว้แล้วว่าหากเราปลูกมันฝรั่งอย่างถูกวิธีจะทำให้ผลผลิตของมันมีปริมาณเทียบเท่ากับมันเทศ นายน้อยบอกว่าให้ไปปลูกมันฝรั่งที่เป่ยเซียวเต้าก่อนที่อื่น ปีนี้พวกเราต้องปลูกเจ้ามันฝรั่งนี่ให้สำเร็จ ! ”

หวางเฉียงรับจดหมายมาเปิดอ่าน ครานี้เขาจึงเข้าใจวิธีการปลูกมันฝรั่งที่ถูกต้องว่าควรปลูกเยี่ยงไร

นี่ยิ่งทำให้เขารู้สึกประหลาดใจมากยิ่งนัก “ท่านพ่อ… ท่านคิดว่านายน้อยรู้เรื่องพวกนี้ได้เยี่ยงไรขอรับ ? ”

หวางเอ้อพ่นควันยาสูบออกมา ปากยังคงคาบมวนยาสูบอยู่ สองมือไพล่หลัง จากนั้นก็ตอบบุตรชายว่า “เพราะเขาเป็นนายน้อยของพวกเราเยี่ยงไรเล่า”

“นี่ ๆ ๆ ท่านพ่อ…ท่านเคยบอกมิใช่หรือว่าอยากหาเวลาว่างกลับไปเยี่ยมซีซาน ? ”

“รอก่อนเถิด จำต้องศึกษาเรื่องข้าวโพด มันฝรั่ง พริก อีกทั้งดอกทิวลิปให้เข้าใจเสียก่อนแล้วค่อยกลับไป ไม่สิ ! ครานี้พ่อต้องเดินทางไปชื่อเล่อชวนเพราะเรื่องมงคลของเสี่ยวจ้วงน้องชายของเจ้า พ่อต้องไปเยี่ยมครอบครัวของฝ่ายหญิงสักหน่อย”

……

……

“รับทราบขอรับ…ข้าน้อยจะให้เลขาธิการจัดเตรียมโครงการไว้ขอรับ”

หลี่เหวยจากไป บัดนี้จึงเหลือเพียงเยี่ยนซีเหวินที่นั่งขมวดคิ้วดื่มชาเพียงลำพัง… หนังสือพิมพ์ต้าเซี่ยรายสัปดาห์รายงานว่าฝ่าบาทจะเปิดศึกกับราชวงศ์เหลียว มิหนำซ้ำยังบอกอีกว่าพระองค์จะยกทัพไปตีด้วยตนเอง ตามหลักแล้วพระองค์ควรเตรียมตัวไปออกศึกมิใช่หรือ ?

ทันใดนั้นใบหน้าของเยี่ยนซีเหวินก็เผยรอยยิ้มจาง ๆ ออกมา บนผืนปฐพีนี้ยังมีผู้ใดคู่ควรเป็นคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อกับพระองค์อีกเล่า !

เขากลับมาแล้ว

ก่อนที่เขาจะออกจากราชวงศ์หยู เขาเคยบอกว่าจะกลับมาและก็ได้กลับมาจริง ๆ เพียงแต่วิธีการที่เขากลับมาแตกต่างไปจากความคิดของเยี่ยนซีเหวินอย่างสิ้นเชิง

เขากลับมาในฐานะของจักรพรรดิผู้สูงส่ง ตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้วควรต้อนรับให้คึกคักและยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ

ทว่าเขาก็ยังเป็นเขาคนเดิม มิได้ลำพองใจจนมิคบค้าสมาคมกับผู้ใด

เยี่ยนซีเหวินหวนนึกถึงหลังจากที่งานประชุมเชิงเศรษฐกิจสิ้นสุดลง หยุนซีเหยียนได้ต้อนรับบรรดาเต้าถาย ณ หลิวหยุนถาย

ในราตรีนั้น ฟู่เสี่ยวกวนก็มาร่วมงานเช่นกัน

เขาสวมชุดคลุมยาวผ้าฝ้ายสีเขียว แสดงท่าทีราวกับนายน้อยเศรษฐีที่ดินคนหนึ่ง

เขายังเป็นกันเองมิเปลี่ยนไป เขาดื่มสุราพลางสนทนาโดยมิถือตัว ทั้งยังมิได้แสดงท่าทีเย่อหยิ่งออกมา

เพียงแต่บุคลิกของเขาได้เปลี่ยนแปลงไปเนิ่นนานแล้ว มิว่าจะเป็นฉินโม่เหวินหรือหนิงหยู่ชุนก็มิอาจนำพาชายหนุ่มจากหลินเจียงผู้นั้นกลับมาได้อีก

ดังนั้นบรรยากาศจึงค่อนข้างอึดอัด

เหมือนว่าเขาจะรู้ตัวจึงเดินออกจากงานไปก่อนและจากไปอย่างโดดเดี่ยว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)