ตอนที่ 1033 ยึดมั่น
“พี่ฉิน…หลายปีที่ผ่านมานี้ลำบากท่านแล้ว ! ”
“ลำบากอันใดกัน เจ้าต่างหากที่ลำบาก เจ้าทำให้ต้าเซี่ยมีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลเยี่ยงทุกวันนี้และที่สำคัญเจ้ายังทำให้ชาวต้าเซี่ยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น…”
ฟู่เสี่ยวกวนพยุงฉินปิ่งจงไปนั่งในศาลาพักร้อน
ฉินปิ่งจงลูบเครายาว ถอนหายใจออกมาพลางเอ่ยว่า “ข้าได้รู้เรื่องราวจากพื้นที่ห่างไกลผ่านหนังสือพิมพ์ต้าเซี่ยรายสัปดาห์และทุกวันนี้ซีซานก็กลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครา”
“เมื่อพวกเจ้าย้ายจากไป สถานที่แห่งนี้ก็เงียบเหงาขึ้นมากโข ทว่าเมื่อปีกลาย…ซีเหวิน เมื่อปีกลายใช่หรือไม่ ? ที่เจ้าอพยพราษฎรจำนวน 50,000 คนมายังหมู่บ้านเสี้ยชุน”
เยี่ยนซีเหวินที่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่งพยักหน้ารับ “เมื่อเดือนเก้าของปีที่แล้วขอรับท่านปู่ฉิน”
“ใช่ ๆ ๆ เดือนเก้าเมื่อปีกลาย ซีเหวินได้อพยพราษฎรจำนวน 50,000 คนมายังหมู่บ้านเสี้ยชุน ที่นี่จึงกลับมาคึกคักอีกครา”
เขาตบหลังมือของฟู่เสี่ยวกวนเบา ๆ ด้วยความปลาบปลื้ม จากนั้นก็เอ่ยต่อว่า “เดิมทีสำนักศึกษาซีซานมีนักเรียนเหลืออยู่แค่หลักร้อยคนเท่านั้น ทว่าบัดนี้กลับมีนักเรียนหลายพันคน”
“อ้อ…จริงสิ ! น้องชาย เมื่อปีที่แล้วสำนักศึกษาซีซานของเราได้ไปเข้าร่วมการสอบครั้งแรกและ 39 คนจากหนึ่งร้อยกว่าคนสอบได้ซิ่วไฉ ! ฮ่า ๆ ๆ ๆ คนที่อายุน้อยที่สุดเพิ่งจะอายุได้ 12 ปีและมากสุดก็แค่ 15 ปีเท่านั้น ! ”
“ทุกวันนี้พวกเขายังคงศึกษาอยู่ในสำนักศึกษาซีซาน ข้าได้จัดห้องเรียนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นจู่เหรินโดยเฉพาะ ในฤดูใบไม้ร่วงของปีนี้พวกเขาก็จะเข้าสู่สนามสอบระดับมณฑล คาดว่าครึ่งหนึ่งจะได้รับตำแหน่งจู่เหริน หลังจากนั้นก็ไปสอบระดับประเทศต่อเพื่อเข้ารับตำแหน่งจิ้นซื่อแห่งต้าเซี่ย ! ”
“แต่ละคนล้วนมากความสามารถ พวกเขาเกิดมาเพื่อช่วยเหลือฝ่าบาทบริหารบ้านเมือง ! ข้ามิอาจทำตัวเกียจคร้านไร้ประโยชน์ได้ ข้าจำต้องบ่มเพาะพวกเขาให้ดีพร้อมแล้วส่งมอบให้กับเจ้า แบบนี้พี่ชายถึงจะสบายใจขึ้นมาบ้าง ! ”
ฟู่เสี่ยวกวนรู้สึกตื้นตันขึ้นมาทันใด เขาอ้าปากเพื่อสูดลมหายใจเข้า จากนั้นก็หันไปมองอีกฝ่าย
นี่คือประเทศต้าเซี่ยที่ยังห่างไกลจากประเทศในอุดมคติของข้า !
ทว่าต้าเซี่ยในวันนี้มีผู้คนมากมายออกเดินทางไขว่คว้าตามหาความฝันและยึดมั่นในความเชื่อของเขาแล้ว
ทุกสิ่งที่ข้าทุ่มเทให้กับต้าเซี่ยจึงถือว่าคุ้มค่ามากยิ่งนัก ประเทศต้าเซี่ยจะเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปอีกเพราะพวกเขาเหล่านี้ !
ฉินปิ่งจงนั่งสนทนากับฟู่เสี่ยวกวนอยู่เนิ่นนานราวกับว่ามีเรื่องอัดอั้นตันใจที่รอการระบายออกมา หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะที่ผ่านมามิได้พบเจอผู้ใดที่มีจิตวิญญาณคล้ายคลึงกับตน
ที่ฉินปิ่งจงยอมเอ่ยต่อหน้าฟู่เสี่ยวกวนก็เพราะมีเพียงสหายต่างวัยผู้นี้เท่านั้นที่คู่ควรรับฟังความในใจของเขา
เขายังเอ่ยถึงสุราซีซาน ผืนนาซีซาน และดอกไม้ที่บานสะพรั่ง ณ ซีซาน
ตั้งแต่ที่ฉินปิ่งจงย้ายมาอยู่ซีซาน เขาก็มิเคยกลับไปยังเมืองจินหลิงอีกเลย เขาเอ่ยถึงการที่ต้องอยู่ที่นี่อย่างเดียวดายในช่วงหยุดยาววันปีใหม่และเอ่ยถึงลูกศิษย์ที่นำเนื้อหมูมาเยี่ยมแล้วฉลองเทศกาลปีใหม่ย้อนหลังด้วยกันอย่างสนุกสนาน
อีกทั้งยังมีคนชราเหล่านั้นที่เคยตกระกำลำบากแล้วถูกฟู่เสี่ยวกวนรับเข้ามาดูแลในบ้านพักคนชรา
ในบรรดาคนชราเหล่านั้น ได้ตายจากไปแล้วหลายคน แม้ว่าจะตายด้วยโรคชรา แต่ก็ตายด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
ทุกคนล้วนถูกฝังไว้ที่ซีซานและทุกคนก็ยกให้ซีซานเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง
“พี่ฉิน การเดินทางในครานี้ ข้าได้เตรียมตัวไปเยือนหลายสถานที่ ท่านอยากร่วมเดินทางไปด้วยกันกับข้าหรือไม่ พวกเราไปเยี่ยมชมอาณาเขตอันงดงามของต้าเซี่ยด้วยกันดีหรือไม่ ? ”
ฉินปิ่งจงผงะ “พี่ชายผู้นี้…รู้สังขารของตนเองดี ข้าชราเกินไปและคงจะแบกรับความเหนื่อยล้าจากการเดินทางไกลมิไหว”
“มิเห็นจะเป็นอันใดเลย ข้าจะให้ตงเซวี๋ยคอยติดตามท่าน อ้อ…จริงสิ ! นางเป็นหมอที่มีชื่อเสียงโด่งดัง พวกเราจะเดินทางกันช้า ๆ หากเหนื่อยก็พัก มิต้องรีบร้อนไปหรอก”
“แต่ข้าเพิ่งอ่านจากหนังสือพิมพ์ต้าเซี่ยว่าในพิธีถวายความเคารพ เจ้าได้ประกาศศึกกับราชวงศ์เหลียวมิใช่หรือ ? ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)