นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1050

ตอนที่ 1050 ไล่โจมตี

กองพลทหารม้าทั้งสองของหยูติ้งชานและหยูติ้งเหอมีนายทหารทั้งสิ้น 5,000 นาย ทว่าการจู่โจมสายฟ้าแลบครานี้ ได้สูญเสียนายทหารทั้งสิ้นหนึ่งพันกว่านาย

แต่เยี่ยงไรเสียก็ถือเป็นผลการรบที่ยอดเยี่ยมอยู่ดี !

พวกเขาลงมือสังหารข้าศึกไปมิรู้ตั้งกี่ราย จนกระทั่งในที่สุดกองทัพฝ่ายซ้ายทั้งหนึ่งแสนนายถูกตีจนราบเป็นหน้ากลอง

“รอให้ท่านแม่ทัพกวนตามมาถึงก่อนดีหรือไม่ ? ” หยูติ้งเหอเอ่ยถาม

“มิรอ ! ทหารจงไปหาม้าของศัตรูมา ข้าให้เวลาพวกเจ้า 1 ก้านธูป ! ”

เวลาผ่านไป 1 ก้านธูป ทหารม้าทั้งสี่พันกว่านายก็ได้หายไปในความมืดมิดของราตรีกาลอีกครา

เพียงมิกี่อึดใจหลังจากนั้น ทหารม้า 100,000 นายภายใต้การนำของท่าป๋าเฟิงก็ได้เดินทางมาถึงที่นี่ สิ่งที่พวกเขาเห็นคือซากศพและเสบียงเกลื่อนกลาดไปทั่วบริเวณ

เขาแหงนหน้าขึ้นทอดสายตามองท้องนภายามราตรี “กวนเสี่ยวซี…เจ้าช่างใจกล้าบ้าบิ่นเสียจริง ! ”

“ทหาร…ไล่ตามพวกมันไป ! ”

……

ณ ชนเผ่าหวานเหยียน รัฐลู่ฉี เขตปกครองชื่อเล่อชวน

ราตรีนั้น…โคมไฟภายในเรือนของหัวหน้าชนเผ่าเผิงยังมิได้มอดดับลง

เผิงยวี๋เยี่ยนกำลังเย็บกระโปรงสีแดงตัวหนึ่ง โดยมีหยูรั่วซิงที่นั่งอยู่เป็นเพื่อนในสภาพที่ง่วงนอนเต็มแก่

“ท่านแม่…ลูกมิได้รีบร้อนจะใส่สักหน่อย ฟ้าใกล้จะสางแล้ว…ท่านไปนอนเถิด”

เผิงยวี๋เยี่ยนแหงนหน้าขึ้นมองท้องนภาด้านนอก “เจ้าไปนอนก่อนเถิด เมื่อแม่เย็บกระโปรงเสร็จแล้ว รออีกสักเดือนค่อยเดินทางไปยังเมืองกวนหยุน”

หยูรั่วซิงเบิกตาโพลงขึ้นมาทันใด “ไปเมืองกวนหยุนเยี่ยงนั้นหรือ ? ข้าสามารถไปหาพี่เสี่ยวจ้วงได้แล้วใช่หรือไม่ ? ”

“อืม…” เผิงยวี๋เยี่ยนใช้ฟันกัดเส้นด้ายให้ขาด จากนั้นก็หรี่ตาสอดด้ายเข้าไป “เมื่อเจ้าไปถึงเมืองกวนหยุน คาดว่าพี่เสี่ยวจ้วงอีกทั้ง… อีกทั้งพี่ชายทั้งสองของเจ้าก็คงกลับมาถึงเมืองกวนหยุนแล้ว”

หยูรั่วซิงหน้าแดงเพราะความเขินอาย นางกัดริมฝีปากของตนเองเบา ๆ “ท่านแม่ ท่านคิดว่า…ถ้าหากว่าข้าแต่งงานกับพี่เสี่ยวจ้วง ข้าเกรงว่า…เกรงว่าจะต้องลงหลักปักฐานอยู่ที่เมืองกวนหยุนหรือไม่ก็โม่โจว และทุกวันนี้พี่ชายทั้งสองก็ไปเป็นทหารดาบเทวะแล้ว คงอยากที่จะหวนกลับมาที่นี่อีก เช่นนั้น…เช่นนั้นก็รอให้เรื่องของข้ากับพี่เสี่ยวจ้วงเรียบร้อยเสียก่อน ท่านแม่ค่อยตามมาอาศัยกับข้าดีหรือไม่ ? ”

เผิงยวี๋เยี่ยนยกยิ้มด้วยสีหน้าเรียบเฉย จากนั้นก็ลงมือเย็บกระโปรงต่อ “เจ้าอย่ามาเป็นห่วงข้าเลย ข้าอยู่ที่นี่ก็มีความสุขดี ทว่าอีกมิกี่วันหลังจากนี้ พี่ชายและพ่อของเสี่ยวจ้วงจะเดินทางมาที่นี่ คาดว่าจะมาสู่ขอเจ้า…”

เผิงยวี๋เยี่ยนจ้องมองใบหน้าของลูกสาวที่แดงขึ้นกว่าเดิมพลางเอ่ยถามว่า “เจ้าคิดดีแล้วใช่หรือไม่ ? ”

“เกิดเป็นสตรี การแต่งงานถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิต ข้าต้องคิดใคร่ครวญอย่างละเอียดถี่ถ้วนที่สุดอยู่แล้ว”

“บัดนี้เสี่ยวจ้วงเป็นผู้บัญชาการทหาร เวลาส่วนใหญ่ของเขาย่อมหมดไปกับการทำสงคราม แม้ว่าจะพาครอบครัวติดตามไปได้ แต่การที่สตรีจะเข้าไปอยู่ในกองทัพนั้นลำบากพอสมควร บัดนี้มันดีตรงที่ว่า…เมื่อศึกครานี้สิ้นสุดลง แม่คาดว่าจะมิมีสงครามคราใหญ่เกิดขึ้นอีก”

“แม่คิดว่าต่อไปในอนาคตสงครามจะเกิดขึ้นในทะเลเสียมากกว่า มิแน่ชัดว่าฝ่าบาทจะทรงมีความทะเยอทะยานที่อยากจะคว้าอาณาเขตทางทะเลมาไว้ในครอบครองหรือไม่ ถ้าหากมี…กองทัพบกก็อาจจะต้องไปทำสงครามในทะเล ในมหาสมุทร เมื่อต้องออกรบก็คงมิอาจกลับมาได้ในครึ่งปีหรือหนึ่งปี”

“เจ้าต้องเข้าใจ จงเข้าใจให้ลึกซึ้ง การแต่งงานกับทหาร เจ้าต้องทำความคุ้นชินกับความโดดเดี่ยวเอาไว้ และเจ้าต้องรับผิดชอบทั้งครอบครัวของเจ้าด้วยตัวเอง ซึ่งแท้ที่จริงก็ลำบากพอควรเลยล่ะ”

เผิงยวี๋เยี่ยนเอ่ยย้ำถ้อยคำเหล่านี้ให้หยูรั่วซิงฟังอยู่บ่อยครั้ง เมื่อหยูรั่วซิงค่อย ๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ นางจึงเริ่มเข้าใจความหมายของถ้อยคำพวกนี้มากยิ่งขึ้น

ก็เหมือนกับพี่ชายทั้งสองของนางที่เข้าร่วมกองทัพบกที่หนึ่ง แม้เขาจะประจำอยู่ที่ชื่อเล่อชวน ทว่าเขาก็มิได้กลับเรือนมาเป็นเวลาเกือบหนึ่งปีแล้ว

ทว่าความเชื่อมั่นและศรัทธาของนางมิได้เปลี่ยนไปเพราะเรื่องแค่นี้ นางจึงหันไปเอ่ยกับเผิงยวี๋เยี่ยนอย่างแน่วแน่ว่า “ท่านแม่ ข้าคิดดีแล้วจริง ๆ พี่เสี่ยวจ้วงอุทิศตนเพื่อต้าเซี่ย และเขาก็ยังเป็นถึงผู้บัญชาการทหารอีกด้วย เขาต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับทหารทั้งหลายทั้งปวงของต้าเซี่ย”

“เมื่อแต่งงานกับเขาแล้ว ข้าคิดว่าจะไปหาอันใดเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำที่เมืองกวนหยุนหรือไม่ก็ไปอยู่ที่โม่โจว คอยอยู่ข้างกายพ่อกับแม่สามี แม้ว่าข้าจะทำไร่ทำสวนมิเป็น แต่ก็สามารถทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ และอีกอย่าง…พี่สะใภ้ใหญ่ก็กลับไปแล้วมิใช่หรือ ? และนางยังได้รับพระราชทานตำแหน่งเก้ามิ่งจากฝ่าบาทอีกด้วย”

“พวกเราสามารถทำกิจการเล็ก ๆ ที่โม่โจวได้ ข้าคิดว่าข้าคงมิรู้สึกเหงาหรอก และแน่นอนว่าถ้าหากท่านแม่ตามไปอยู่กับข้ามันย่อมดีกว่าอยู่แล้ว”

“เจ้าอายุ 16 ปีแล้วนะ เจ้าจงจำเอาไว้ให้ดีว่า เจ้าต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เจ้าเลือกและอย่าได้เปลี่ยนใจไปตลอดชีวิต ! ”

“อืม…ข้าจะมิเปลี่ยนใจเป็นอันขาด”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)