ตอนที่ 1071 พอได้ข่าวก็ดำเนินการทันที
“บัดนี้ฝ่าบาททรงอยู่ที่ใดเยี่ยงนั้นหรือ ? ” หวางซุนอู๋จี้เอ่ยถามขณะที่ถือถ้วยชาอยู่
“ฝ่าบาทเอ่ยว่าจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่หลินเจียง จินหลิง ว่อเฟิงเต้า และเกรงว่าบัดนี้คงเดินทางถึงเขตปกครองตนเองซีเซี่ยแล้ว” โจ่งจี้ถังตอบกลับ
“พวกเจ้าคิดว่า…ฝ่าบาททรงไปท่องเที่ยวจริง ๆ หรือ ? ”
“อาจจะเป็นเช่นนั้น ได้ข่าวว่าฝ่าบาททรงพาขันทีเจี่ย ผู้อาวุโสฉินปิ่งจงจากภูเขาซีซาน อดีตอัครมหาเสนาบดีเยี่ยนเยี่ยนเป่ยซีเดินทางไปด้วย คณะเดินทางของฝ่าบาทมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ คาดว่าปลายทางสุดท้ายของการเดินทางครานี้น่าจะเป็นหยวนเป่ยเต้า”
หยูซิ๋งเจี่ยนครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็เอ่ยออกมาว่า “พวกเจ้าคิดว่า…เหตุใดหยุนซีเหยียนถึงรีบรุดเดินทางไปยังเมืองต้าติ้งถึงเพียงนี้ด้วยกัน ? หรือจะเป็นเพราะนโยบายการค้า ฝ่าบาทเลยต้องการพบเขาที่เมืองต้าติ้ง”
เหล่าคุณชายต่างก็นิ่งเงียบลงทันใด
ฝ่าบาททรงเสด็จออกจากเมืองกวนหยุนเมื่อต้นเดือนสี่ บัดนี้ก็เป็นเดือนเจ็ดเข้าไปแล้ว
ครานี้เขามิได้ไปที่สนามรบเป็นการส่วนตัว ทว่ากองทัพอันแข้งแกร่งของต้าเซี่ยก็สามารถเสร็จสิ้นภารกิจเชิงกลยุทธ์ในการยึดครองราชวงศ์เหลียวได้
แต่ก่อนที่ราชวงศ์เหลียวจะรวมเข้ากับต้าเซี่ย จำต้องทำให้เกิดเสถียรภาพขึ้นมาเสียก่อน
นั่นคืออาณาเขตแห่งใหม่ เมื่อรวมกับเขตปกครองตนเองแห่งซีเซี่ย ต้าเซี่ยก็ได้ขยายอาณาเขตไปเกือบครึ่งหนึ่ง นี่มันหมายความว่าเยี่ยงไรน่ะหรือ ?
ก็หมายความว่าได้เกิดแหล่งธุรกิจแห่งใหม่ขึ้นมาเยี่ยงไรเล่า !
เนื่องจากซีเซี่ยและราชวงศ์เหลียวรวมอยู่ในอาณาเขตของประเทศต้าเซี่ย แผนการพัฒนาฉบับต่อไปของอาณาเขตเหล่านั้นก็คงมิแตกต่างจากต้าเซี่ย
“พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้ใดเป็นจ่งตูของหยวนเป่ยเต้า ? ” หวางซุนอู๋จี้เอ่ยถาม
“ได้ข่าวว่าเป็นหนิงหยู่ชุนอดีตเต้าถายแห่งจิงซีหนานเต้า เขาถูกย้ายไปดำรงตำแหน่งจ่งตูที่หยวนเป่ยเต้า”
“หนิงหยู่ชุนเยี่ยงนั้นหรือ ? อดีตเต้าถายแห่งว่อเฟิงเต้าน่ะหรือ ? หากเป็นเขาล่ะก็ หยวนเป่ยเต้าก็น่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างราบรื่น”
หวังฉาวเฟิงรู้จักหนิงหยู่ชุนดี แม้ว่าพวกเขาจะมิเคยคบค้าสมาคมกันก็ตาม ทว่าหนิงหยู่ชุนก็เคยปฏิบัติงานตามนโยบายของฟู่เสี่ยวกวนที่ว่อเฟิงเต้าด้วยความมุ่งมั่น น่าเสียดายที่เขาก็ถูกย้ายไปยังจินหลิงเสียก่อน
“พวกเจ้าคิดว่า…ถึงเวลาที่ควรจะเดินทางไปยังเขตปกครองตนเองซีเซี่ยและหยวนเป่ยเต้าแล้วหรือยัง ? ”หวางซุนอู๋จี้เอ่ยถามออกมา
ทุกคนมิได้ตอบกลับ เพราะว่าเรื่องนี้ค่อนข้างที่จะตอบได้ยาก
เพราะสถานที่ตั้งของราชวงศ์เหลียวแตกต่างจากราชวงศ์หยู แคว้นฝาน และแคว้นอี๋ในสมัยก่อน วัฒนธรรมความเคยชินและประเพณีนิยมของทั้งสามประเทศนี้ได้ถ่ายทอดตามสายเลือดมาโดยตลอด พวกเขาล้วนยกย่องตำราขงจื๊อ ทว่าสำหรับราชวงศ์เหลียวเป็นดินแดนที่แตกต่างออกไป และพวกเขาก็มิค่อยเข้าใจเกี่ยวกับราชวงศ์เหลียวมากเท่าใดนัก
หากสถานที่แห่งนั้นป่าเถื่อน โง่เขลาและถือทิฐิเล่า เกรงว่าคงจะมิใช่เรื่องง่ายที่ต้าเซี่ยจะโน้มน้าวให้ราษฎรที่นั่นยอมสวามิภักดิ์ได้
“ที่ผ่านมายังมิเคยมีผู้ใดเคยคบค้าสมาคมกับชาวเหลียวและชาวซีเซี่ยมาก่อน โดยสรุปแล้วจักรพรรดิซีเซี่ยของพวกเขาริเริ่มที่จะยอมจำนนด้วยตนเอง คาดว่าการเปลี่ยนแปลงรวมเป็นหนึ่งเดียวกับต้าเซี่ยคงจะส่งผลดีต่อซีเซี่ยมากกว่า ทว่าชาวเหลียว…เรื่องที่พวกเรากังวลมากที่สุดในการทำการค้าก็คือความมิมั่นคง และข้าคิดว่าควรรอไปก่อน”
ทันใดนั้น…จังชีเยวี่ยก็ได้พาซือหม่าเช่อพระสนมเช่อแห่งต้าเซี่ย เปิดประตูห้องแล้วเดินเข้ามาด้านใน !
ทุกคนลุกขึ้นยืน จากนั้นก็เคารพพร้อมกันหนึ่งครา
ซือหม่าเช่อยกยิ้มขึ้นมาทันใด “ข้าได้ยินมาว่าพวกเจ้านัดพบปะกับเขาได้ตามใจชอบ ทว่าเหตุใดกับข้าพวกเจ้าถึงเหินห่างเยี่ยงนี้เล่า ? ”
“ทุกคนเชิญนั่งลงเถิด ! ”
ซือหม่าเช่อนั่งลงก่อน จากนั้นคนอื่น ๆ ถึงได้นั่งลงตาม โดยสรุปแล้วท่านผู้นั้นกับพวกเขารู้จักนิสัยใจคอกันเป็นอย่างดี เพราะเคยคบค้าสมาคมกันที่ว่อเฟิงเต้า ทานอาหารที่เมืองกวนหยุน ทั้งยังเคยไปที่หอนางโลมด้วยกัน ดังนั้นจึงมิได้วางตัวกับเขา
ทว่าสำหรับพระสนมเช่อท่านนี้มิเหมือนกัน !
แม้ว่านางจะเป็นพี่สาวของซือหม่าเทา พวกเขาย่อมมิกล้าที่จะเอ่ยสิ่งใดออกมา ดังนั้นบรรยากาศที่นี่จึงดูน่าเบื่อขึ้นเล็กน้อย
ซือหม่าเช่อเริ่มเอ่ยออกมาก่อนว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)