ตอนที่ 1087 พิธีฝังศพ
รัชสมัยต้าเซี่ยที่หนึ่ง เดือนสิบเอ็ด วันที่แปด เมืองกวนหยุนหิมะตกหนัก
ท้องนภาสว่างสดใส ในยามที่จ้าวโฮ่วยกสำรับอาหารมาให้เจี่ยหนานซิงดั่งเช่นทุกวัน เขาจึงได้พบว่าเจี่ยหนานซิงได้จากไปแล้ว
เขาตื่นตกใจขึ้นมาทันใด วางถาดในมือลง จากนั้นก็รีบวิ่งออกไปทันใด
เขาวิ่งไปยังห้องทรงพระอักษร ทว่ามิพบฝ่าบาท ถึงได้ทราบว่าฝ่าบาทอยู่ที่ท้องพระโรงซวนเต๋อ
เขามิทันได้คิดอันใดมากมาย ทราบเพียงแค่ว่าเจี่ยหนานซิงคือคนสนิทที่ใกล้ชิดฝ่าบาทมากที่สุดคนหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงวิ่งไปยังท้องพระโรงซวนเต๋อ
เขาถูกองครักษ์หลวงดักไว้ที่ด้านข้างของประตูท้องพระโรงซวนเต๋อ เสียงร้องของเขาทำให้หลิวจิ่นที่คอยปรนนิบัติอยู่ในท้องพระโรงตื่นตกใจ
หลิวจิ่นเดินออกมา ในขณะที่กำลังจะตำหนิจ้าวโฮ่วที่มิสำรวมผู้นี้ ทว่าจ้าวโฮ่วได้โพล่งข่าวการตายของขันทีเจี่ยออกมาเสียก่อน
“จริงเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“เรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ ข้าน้อยจะกล้านำมาเอ่ยสุ่มสี่สุ่มห้าได้เยี่ยงไร ! ”
หลิวจิ่นครุ่นคิดอยู่หลายอึดใจ เขาทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างฝ่าบาทและเจี่ยหนานซิงเป็นอย่างดี “เจ้ากลับไปยังตำหนักฉางหมิงก่อนเถิด อย่าโหวกเหวก ประเดี๋ยวฝ่าบาทก็มาถึงแล้ว”
“ขอบพระคุณนายท่านหลิว ! ”
จ้าวโฮ่ววิ่งออกไปจนลับสายตา หลิวจิ่นจ้องมองไปยังท้องนภาซึ่งมีหิมะตกโปรยปราย จากนั้นก็ถอนหายใจออกมา
เขาอิจฉาเจี่ยหนานซิง โดยเฉพาะหลังจากที่กลับมาจากการออกประพาส เขาก็ยิ่งอิจฉาเจี่ยหนานซิงมากยิ่งขึ้นไปอีก ฝ่าบาททรงเข็นรถเข็นให้กับเจี่ยหนานซิง ฝ่าบาททรงป้อนข้าวเขาด้วยพระองค์เอง ฝ่าบาททรงจับมือเขาและเดินเล่นกับเขาท่ามกลางแสงอาทิตย์อัสดง… ทั้งหมดทั้งมวลนั้นได้แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพที่ลึกซึ้งของฝ่าบาทและเจี่ยหนานซิง
มิตรภาพเยี่ยงนี้ ทำให้หลิวจิ่นรู้สึกอิจฉาเป็นอย่างมาก ในฐานะขันทีคนหนึ่ง เดิมทีมีฐานะต่ำต้อย ทว่าฝ่าบาทกลับเห็นเจี่ยหนานซิงเป็นดั่งคนสนิทของตนเอง
บัดนี้เจี่ยหนานซิงได้ตกตายไปแล้ว ทว่าภายในใจของหลิวจิ่นกลับมิได้รู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อย เพราะเขาเข้าใจเป็นอย่างดีว่าตนมิสามารถไปแทนที่เจี่ยหนานซิงได้ ตนยังมีหนทางอีกยาวไกลที่ต้องเดิน
เขาตายแล้ว ฝ่าบาทจะจัดการเยี่ยงไรต่อไป ?
หากเป็นอดีต ขันทีชราจะถูกขับไล่ออกมาจากวังหลวง บั้นปลายชีวิตจะเป็นเยี่ยงไรก็มิมีผู้ใดทราบ
ดังนั้นพวกเขาจึงละโมบในเงินทอง เพื่อที่จะเลี้ยงดูบุตรบุญธรรมไว้ข้างนอก เพื่อที่จะได้มีคนเลี้ยงดูหลังจากที่แก่ตัวลง จะได้มีคนเฝ้าดูใจคอยส่งศพหลังจากที่สิ้นใจไปแล้วก็เท่านั้น
เจี่ยหนานซิงมิมีครอบครัวอยู่ข้างนอก เขามิได้รับเลี้ยงบุตรบุญธรรม… ฝ่าบาทเคยเอ่ยเอาไว้แล้ว พระองค์จะเป็นคนส่งศพเจี่ยหนานซิงเอง จักรพรรดิเป็นผู้ส่งศพให้กับขันทีผู้หนึ่ง หลิวจิ่นมิอาจจินตนาการถึงได้เลย
มีทางเป็นไปได้จริง ๆ หรือ ?
ต่อให้ฝ่าบาททรงระลึกถึงมิตรภาพเก่าก่อน พระองค์ก็สามารถแต่งตั้งเสนาบดีสักคนก็ยังได้ สร้างโลงศพให้อย่างดี เลือกสถานที่ฝังศพที่ดีที่สุดให้กับเจี่ยหนานซิง… นี่ถือเป็นเรื่องที่จักรพรรดิพระองค์หนึ่งจะสามารถทำให้กับขันทีผู้หนึ่งได้แล้ว
ลมหนาวพัดโชยมา เกล็ดหิมะปลิวมากระทบกับใบหน้าของหลิวจิ่น เขาตื่นจากภวังค์เพราะลมหนาวที่พัดโชยมา
มิว่าเยี่ยงไรก็ตาม เรื่องนี้จำต้องรายงานให้ฝ่าบาททราบโดยเร็วที่สุด
เขาหันกลับเข้าไปในท้องพระโรงซวนเต๋อ เดินตรงไปยังใจกลางของท้องพระโรง และขัดจังหวะในยามที่ฝ่าบาทกำลังตรัสอยู่
เขาโน้มกายลงไปข้างพระกรรณของฝ่าบาท จากนั้นก็เอ่ยเสียงแผ่วว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมขอบังอาจเอ่ยขัดชั่วครู่ กระหม่อมเพิ่งทราบมาเมื่อครู่นี้เช่นกัน…ขันทีเจี่ยสิ้นใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ฟู่เสี่ยวกวนตกตะลึงขึ้นมาทันใด พลางหันมองไปทางหลิวจิ่นด้วยสายตาที่ยากจะเชื่อ สีหน้าของเขาตึงเครียดขึ้นมาทันใด “จริงหรือ ? ”
“จริงพ่ะย่ะค่ะ ! ขันทีจากพระราชวังฉางหมิงเพิ่งมารายงานเมื่อครู่พ่ะย่ะค่ะ”
ฟู่เสี่ยวกวนนิ่งเงียบไปชั่วขณะ เขาหยุดการประชุมสรุปประจำปีลงเพียงเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)