ตอน ตอนที่ 1096 การประชุมแบบปิด จาก นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 1096 การประชุมแบบปิด คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายทะลุมิติ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตอนที่ 1096 การประชุมแบบปิด
รัชสมัยต้าเซี่ยที่หนึ่ง เดือนสิบเอ็ด วันที่ยี่สิบ ขุนนางระดับสูงได้มารวมตัวกันประชุมแบบปิดในท้องพระโรงซวนเต๋อ
นอกจากขุนนางที่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว คนนอกที่เข้าร่วมการประชุมก็มีเพียงสองพี่น้องเหวินซิ่วจงและเหวินซิงจ้าวหัวหน้ากองบรรณาธิการของต้าเซี่ย
ฟู่เสี่ยวกวนเป็นผู้เปิดหัวข้อการประชุมครานี้ ซึ่งมีสามเรื่องด้วยกัน กฎหมายการค้าระหว่างประเทศและอนุญาโตตุลาการรวมไปถึงการบังคับใช้ การวางแผนและการก่อสร้างถนนเส้นทางสายไหมเบื้องต้น และแผนการดำเนินงานปีสุดท้ายของแผนพัฒนาระยะห้าปีแรก
“บัดนี้พวกเราได้สร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับเจ็ดประเทศเพื่อนบ้านเรียบร้อยแล้ว พวกเขาทั้งหมดได้ลงนามในข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ ข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศนี้จะเป็นแม่แบบของอนาคต หลังจากต้าเซี่ยสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับต่างแดนและสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าขึ้นในอนาคต ประเทศอื่น ๆ ก็จำเป็นจะต้องปฏิบัติตามข้อตกลงนี้”
เยี่ยนซือเต้ายกมือขึ้นแล้วเอ่ยถามว่า “หากประเทศอื่นมิเต็มใจที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงนี้จะจัดการเยี่ยงไรหรือพ่ะย่ะค่ะ ? ”
ฟู่เสี่ยวกวนยกยิ้มขึ้นมาทันใด “ทหารเรือและทหารบกของพวกเรามิเพียงแต่ใช้เพื่อรักษาสันติภาพในต้าเซี่ยเท่านั้น พวกเขายังมีหน้าที่สำคัญอีกหนึ่งอย่าง ซึ่งนั่นก็คือการรักษามาตรฐานการค้าระหว่างประเทศเอาไว้ หากประเทศเหล่านั้นมิเห็นด้วย…ก็คงต้องเซ็นสนธิสัญญาภายใต้ข้อตกลงของปืนใหญ่ ! ”
ดังนั้นความหมายของฝ่าบาทก็คือการใช้อำนาจบีบบังคับเยี่ยงนั้นหรือ ?
ขุนนางที่เข้าร่วมประชุมได้อ่านข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศอย่างละเอียดแล้ว ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความเที่ยงธรรม และมีเพียงสิ่งเดียวที่พวกเขายังมิค่อยเข้าใจนัก คือสกุลเงินที่ถูกกฎหมายหนึ่งเดียวในใต้หล้า…สำหรับการชำระหนี้สินหรือซื้อขายจะต้องเป็นสกุลเงินของต้าเซี่ยเท่านั้น
นี่หมายความว่าเยี่ยงไรกัน ?
พวกเขายังมิได้เจาะลึกเนื้อหาลงไป เพราะในขณะนี้การค้าระหว่างประเทศยังมิได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ
“กรมพิธีการควรจัดตั้งกรมการต่างประเทศขึ้นมา พวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบในการสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศต่าง ๆ และสร้างสะพานการค้าขึ้นมา”
“กรมขุนนางต้องจัดตั้งฝ่ายกฎหมายต่างประเทศและศาลเศรษฐกิจระหว่างประเทศขึ้นมา เพื่อจัดการกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างประเทศและเพื่อรับผิดชอบในการอนุญาโตตุลาการด้านการค้า”
“กรมการค้าจะต้องจัดสรรช่องทางการค้าระหว่างประเทศขึ้นมา เหล่าพ่อค้าจากต้าเซี่ยจะต้องลงทะเบียนกับกรมการค้าหากประสงค์จะขยายการค้าไปยังต่างประเทศ และเช่นเดียวกัน…เหล่าพ่อค้าจากต่างประเทศที่เข้ามายังต้าเซี่ยก็จำต้องลงบันทึกไว้ในกรมการค้า เพื่อความสะดวกและความเป็นระเบียบ”
“หลังจากนี้กรมคลังจะต้องมีสมุดบัญชี 2 ชุด อีกชุดหนึ่งจะต้องจดรายละเอียดให้ครอบคลุมทั่วทุกด้านเกี่ยวกับกำไรขาดทุนทางการค้าระหว่างประเทศของต้าเซี่ย และต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลนั้นถูกต้อง”
“สิบเก้ามณฑลและสองเขตปกครองตนเอง นโยบายเศรษฐกิจของประเทศจะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนคือในประเทศและระหว่างประเทศ สิ่งที่พวกเจ้าต้องทำคือดำเนินการปรับปรุงเครื่องจักรในโรงงานให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น และจำต้องเพิ่มกำลังการผลิตให้มากขึ้น เพื่อให้เหล่าพ่อค้าทำความคุ้นเคยกับตลาดระหว่างประเทศโดยเร็วที่สุด จากนั้นค่อยให้พวกเขาออกไปสร้างโรงงานที่ต่างประเทศ”
“โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่มีมลพิษสูง อย่างเช่น การผลิตกระดาษ การหลอม การพิมพ์ลายและการย้อมสี และอุตสาหกรรมอื่น ๆ สินค้าที่พวกเขาผลิตสามารถขายได้โดยตรงในประเทศนั้น ๆ ประการแรกเป็นการลดต้นทุนการขนส่ง ประการที่สองคือช่วยลดเวลาในการขนส่งสินค้า ประการที่สาม…ยังสามารถรักษาทรัพยากรของต้าเซี่ยเอาไว้ได้ เพื่อทิ้งไว้เป็นมรดกอันล้ำค่าของการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับลูกหลานต่อไป”
“……”
ในช่วงสามวันนี้ฟู่เสี่ยวกวนจะเป็นผู้กล่าวเสียส่วนใหญ่ ส่วนเหล่าขุนนางล้วนตั้งใจฟังและตั้งใจจดเนื้อหาการประชุมกันอย่างขะมักเขม้น
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ล้วนเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับพวกเขา
พวกเขารู้ดีว่าการค้าระหว่างประเทศนี้มีความเสี่ยงมากเพียงใด แต่มันก็มีผลประโยชน์มหาศาลที่มิอาจจินตนาการได้เช่นกัน
“สำนักวิทยาศาสตร์แห่งชาติปัจจุบันยังอยู่ในระดับต่ำสุด สำนักที่ข้าต้องการมิได้เป็นเช่นนี้ การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ล้วนอยู่บนขั้นพื้นฐานของคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์และเคมี ! ”
“สิ่งที่ข้าต้องการคือคนที่เชี่ยวชาญในการศึกษาทดลองทางวิทยาศาสตร์ทั้งสามด้านนี้ มันจะต้องขึ้นอยู่กับวิทยาศาสตร์ทั้งหมดซึ่งจะต้องอธิบายถึงเหตุและผลได้ มิใช่การใช้ประสบการณ์แต่อย่างใด ดังนั้น…ปีหน้าข้าจะให้เวลาในการศึกษาต่ออีกหนึ่งปี เริ่มจากแผนพัฒนาระยะห้าปีฉบับที่สอง ระบบการศึกษาจะถูกปฏิรูปอย่างสมบูรณ์แบบ ! ”
“จะมิมีการสอบเซิ่งเสวียและหลี่เสวียอีกต่อไป ข้อสอบที่เจิ้นจะใช้สอบคือคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีซึ่งเนื้อหาจะปรากฎอยู่ในตำราเรียนใหม่ ! ”
“นี่คือการปฏิวัติที่แท้จริง เมื่อวิทยาศาสตร์พัฒนาขึ้น ถึงจะเป็นความเจริญก้าวหน้าอย่างแท้จริงของต้าเซี่ย ! ”
เนื้อหาของข้อสอบมิได้แยกจากตำราทั้งสี่และคัมภีร์ทั้งห้าสลับไปมา ทว่าฝ่าบาทประสงค์จะเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด
ตำราการสอนที่แก้ไขใหม่เพิ่งเริ่มดำเนินการได้เพียง 2 ปี แม้ว่าจะนำไปสอนในหลาย ๆ โรงเรียนแล้ว แต่ก็ยังเร็วไปสักหน่อยสำหรับระดับวุฒิภาวะเช่นนี้
ปีหน้ายังมีอีกหนึ่งปี ดูเหมือนว่าอาจจะต้องลดการสอนตำราทั้งสี่และคัมภีร์ทั้งห้าลง และควรยกระดับคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมีให้กลายเป็นวิชาที่สำคัญที่สุด
“พวกเราอย่าได้กังวลต่อสิ่งใหม่ ๆ เลย จงทำตัวให้คุ้นเคยกับสิ่งใหม่ ๆ เหล่านี้ไว้ การปรับปรุงระบบการสอบขุนนางจะนำมาซึ่งความพยายามอย่างหนัก แต่ในอนาคตอันยาวไกล ประโยชน์ของมันจะมากมายมหาศาลเกินกว่าจินตนาการของพวกเจ้า ! ”
“รากฐานของต้าเซี่ยก็คือการศึกษา ! ”
“สิ่งที่พวกเรากำลังทำอยู่ในตอนนี้ มิว่าจะเป็นเรื่องการค้าหรือการทหาร ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้เด็ก ๆ ได้รับการศึกษาเล่าเรียนอย่างสบายใจ เพื่อให้พวกเขา…เติบใหญ่เป็นความหวังของต้าเซี่ยต่อไปในอนาคต ! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)