ตอนที่ 1099 ปฏิรูป
วันเวลาผันเปลี่ยน เพียงพริบตาเดียวเทศกาลปีใหม่ก็มาถึงแล้ว
ในที่สุดก็ถึงวันหยุดเสียที ช่างเงียบสงบและสบายมากยิ่งนักสำหรับฟู่เสี่ยวกวน
หลังจากที่เมามายที่หอหลิวหยุนเมื่อเดือนก่อน เขาก็ได้ทำตัวให้เหมาะสมกับตำแหน่งจักรพรรดิมาระยะหนึ่งแล้ว
เขาได้ประชุมแบบปิดสามวันเต็ม ล้วนเป็นแนวคิดขั้นพื้นฐานที่จะใช้พัฒนาต้าเซี่ยต่อไป
เขาเดินทางไปยังราชสำนักเกือบทุกวัน เพื่อแก้ไขทิศทางที่จะมุ่งไปสู่วันข้างหน้าของต้าเซี่ยให้ถูกต้อง
มิว่าจะเป็นเรื่องการเมือง การทหาร การศึกษา การแพทย์ และอื่น ๆ อีกมากมาย เขาได้ตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน จากนั้นก็ได้สรุปแผนดำเนินงาน ทั้งยังเสนอความคิดเห็นและข้อเสนอแนะออกมาอีกมากมาย
เขตปกครองตนเองซีเซี่ยกำลังก้าวไปสู่แนวทางที่ถูกต้องภายใต้การปกครองของท่าป๋าวั่ง หยวนเป่ยเต้าเองก็ค่อย ๆ เดินไปบนเส้นทางที่สว่างไสว ราษฎรรอดตายภายใต้การปกครองของหนิงหยู่ชุน
พ่อค้าของต้าเซี่ยเริ่มวางเค้าโครงใหม่ในสถานที่ทั้งสองแห่งนี้ พวกเขาได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยี ดังนั้นผลผลิตและคุณภาพของสินค้าจึงพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด
หลังจากการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง เมล็ดพันธ์ข้าวฟู่ชีต้ายก็ถูกส่งไปยังทุกพื้นที่ของประเทศต้าเซี่ย เช่นเดียวกับมันเทศ มีเพียงมันฝรั่งเท่านั้นที่เก็บเกี่ยวได้ราว 10,000 ชั่งซึ่งจะถูกส่งไปยังเป่ยเซียวก่อน
ข้าวโพดยังคงปลูกในพื้นที่โม่โจว เพราะปริมาณผลผลิตยังน้อยจนเกินไป
น้ำมันปิโตรเลียมได้กลั่นออกมาเป็นจำนวนมากแล้ว ทว่าการวิจัยเครื่องยนต์เผาไหม้ภายในยังมิก้าวหน้า นี่ก็คือผลที่เกิดจากการคำนวณผิดพลาด ฟู่เสี่ยวกวนคิดที่จะช่วยทว่าก็มิอาจช่วยได้
เอ่ยโดยสรุปคือทุกสิ่งทุกอย่างในต้าเซี่ยดำเนินไปได้ด้วยดี หนึ่งปีที่ผ่านมานี้เหล่าทวยเทพก็ได้อวยพรให้ฟ้าฝนตกตามฤดูกาล
ชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรก็เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้กระเป๋าเงินของพวกเขาเริ่มโป่งพองขึ้นมา ดังนั้นวันปีใหม่พวกเขาจึงซื้อข้าวของมากกว่าปกติ
ฟู่เสี่ยวกวนมิได้ออกไปที่ใด ช่วงวันหยุดที่หาได้ยากยิ่ง เขานั่งเล่นไพ่นกกระจอกอยู่กับท่านแม่ที่ตำหนักฉืออัน
“มิมีข่าวคราวท่านพ่อของข้าเลยหรือ ? ”
“มิมี ! ที่เขาไปครานี้ก็เพื่อจะขีดเส้นแบ่งเขตกับที่นี่ แม่คิดว่าเขาคงมิส่งข่าวคราวอันใดกลับมา คิดเสียว่าเขาหลงทางก็แล้วกัน”
คนตั้งหลายคน แต่ละคนมีฝีมือที่ยอดเยี่ยมยิ่ง ให้คิดว่าเดินหลงทางคงเป็นไปมิได้หรอก คิดว่าครานี้ชายอ้วนได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้ว
เขามิมีลูกหลาน ตนเคยเอ่ยเอาไว้ว่าจะปรนนิบัติเลี้ยงดูเขาเมื่อยามแก่ชรา แต่ดูเหมือนว่าจะมิมีโอกาสนั่นเสียแล้ว
ทว่ามีศิษย์พี่และศิษย์พี่หญิงทั้งเจ็ดคนอยู่ข้างกายเขา คิดว่าเขาคงจะมิเหงาอย่างแน่นอน
“ได้ข่าวมาว่าหวังเสี่ยวจ้วงและหยูรั่วซิงจะแต่งงานกันในปีหน้าเยี่ยงนั้นหรือ ? ” ฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยถาม ซูซูเงยหน้าขึ้นจากนั้นก็ตอบกลับว่า “พวกเขาจะจัดงานแต่งที่โม่โจว ข้าเคยสัญญากับหยูรั่วซิงเอาไว้ว่า…ข้าจะไปร่วมแสดงความยินดีในงานแต่งของพวกเขา”
“กำหนดแต่งเมื่อใดเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“วันที่สามเดือนสาม”
“เมื่อถึงเวลา หากข้ามีเวลาว่าง ข้าจะไปเป็นเพื่อนเจ้าเอง แต่หากข้ามิว่าง เจ้าก็เดินทางไปเองเถิด”
“อือ” ซูซูตอบกลับด้วยสีหน้าดีใจ “เก้าตัว ! ”
“ชนะ ! ฮ่า ๆ ๆ ซูซู เจ้าได้แต้มใหญ่ ! ”
“วันนี้ข้าได้แต้มใหญ่ตลอดเลย ! ”
ตำหนักฉืออันอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความสุข สวี่หยุนชิงมีความสุขมากยิ่งนัก มิใช่เพราะนางชนะบุตรชายและเหล่าลูกสะใภ้แต่อย่างใด แต่เป็นเพราะนางรู้สึกว่าชีวิตที่มีความสุขเช่นนี้ นางมิเคยคิดถึงมันมาก่อนเลยจริง ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)