นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1143

ตอนที่ 1143 ขึ้นฝั่ง

รัชสมัยต้าเซี่ยที่สอง เดือนสิบเอ็ด วันที่ยี่สิบแปด กองทัพเรือของประเทศต้าเซี่ยได้พบกับผืนปฐพี

ณ ท่าเรือบนผืนปฐพีแห่งนี้ เป็นคราแรกที่ชาวประมงบนแคว้นช่างหลัวได้พบเจอกับกองทัพเรือและเรือรบที่ใหญ่โตถึงเพียงนี้ !

ชาวฝูหล่างจีเคยมาที่นี่ ทว่าเรือของพวกเขาเล็กกว่าเรือลำนี้ถึงครึ่งหนึ่ง

ต่อจากนั้นก็มีชาวฝูหล่างจีจำนวนหนึ่งกลับมาที่นี่อีกครา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะผ่านการสู้รบมา คาดว่าน่าจะพ่ายแพ้ เพราะมิว่าจะเป็นเรือรบหรือคน ต่างก็ดูย่ำแย่มากยิ่งนัก

ทันใดนั้นเองไป๋ยู่เหลียนก็ได้ยกกล้องส่องทางไกลขึ้นมามอง บนน่านน้ำมีเรือประมงลำเล็กจอดอยู่ สิ่งที่เห็นเบื้องหน้าคือท่าเรือที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติหนึ่งแห่ง มีเรือประมงลำเล็กจอดที่ท่าเรือจำนวนมาก… ประเดี๋ยวก่อน ! คิ้วของไป๋ยู่เหลียนขมวดเข้าหากันจนเป็นปม เขาเห็นเรือรบทั้งสิบลำของฝูหล่างจีแล้ว !

“ฝ่าบาท โปรดทอดพระเนตรพ่ะย่ะค่ะ เกรงว่าชาวฝูหล่างจีที่พ่ายแพ้จะหนีมาถึงที่นี่แล้วเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ ! ”

ฟู่เสี่ยวกวนรับกล้องส่องทางไกลมาดู “ฮึ ๆ มีเรื่องน่าสนุกให้ทำแล้ว ซานเตา ! ”

“พ่ะย่ะค่ะ ! ”

“ประเดี๋ยวหลังจากขึ้นฝั่งแล้ว ให้นำกำลังคนไปจับกุมเชลยที่อยู่บนเรือรบทั้งสิบลำนั้น ! ”

“พ่ะย่ะค่ะ ! ”

ไป๋ยู่เหลียนครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็เอ่ยถามขึ้นมาว่า “คำนวณตามเวลาแล้ว พวกเขาน่าจะมาถึงที่นี่ก่อนหน้าพวกเราอย่างน้อยสิบวันพ่ะย่ะค่ะ พวกเขามิได้กลับไปฝูหล่างจี… พระองค์ว่าพวกเขาจะยึดครองสถานที่ตรงนี้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

“มิมีทาง ! พวกเขาพ่ายในการรบ ควรจะหนีกลับไปยังฝูหล่างจีและรายงานสถานการณ์ของประเทศต้าเซี่ยให้แก่จักรพรรดินีของพวกเขาฟังสิถึงจะถูก”

เรือรบของพวกเขาจอดอยู่ที่นี่ ตัวคนก็ต้องอยู่ที่นี่เช่นกัน คาดว่าคงเติมเสบียงกันอยู่ ไป๋ยู่เหลียนคิดเยี่ยงนี้ เฮ้อซานเตาโน้มตัวลงมาด้วยท่าทีลับ ๆ ล่อ ๆ

“ฝ่าบาท ประเดี๋ยวพอขึ้นฝั่งแล้ว ข้าจะพาทหารรุดหน้าไปชิงสมบัติพวกเขาก่อนแล้วค่อยเจรจา เห็นเป็นเยี่ยงไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ ? ” ดวงตาของเฮ้อซานเตาเขียวคล้ำ จ้องมองฟู่เสี่ยวกวนด้วยสีหน้าคาดหวัง เขาคาดมิถึงว่าฟู่เสี่ยวกวนจะส่ายหน้า

“ดูจากสภาพแล้ว ค่อนข้างยากจน”

เฮ้อซานเตารู้สึกสิ้นหวังมากยิ่งนัก ถึงจะจนแต่หากชิงเงินมาได้สักหน่อยก็ดีกว่ามิได้อันใดเลยมิใช่หรือ ?

“มิจำเป็นต้องรีบ ทวีปยุโรป…ที่นั่นต่างหากถึงจะเป็นขุมสมบัติอย่างแท้จริง เจ้าจงวางใจเถิด เรือลำเลียง 20 ลำก็ยังใส่ทรัพย์สมบัติของที่นั่นมิพอ ! ”

“จริงหรือพ่ะย่ะค่ะ” เฮ้อซานเตาดีอกดีใจขึ้นมาทันใด ฟู่เสี่ยวกวนพยักหน้า “เมื่อถึงแล้วเจ้าก็จะทราบเอง ไปเถิด…พอเรือรบเทียบท่า จงไปเสาะหาเมืองหลวงของแคว้นช่างหลัว อีกสองวันก็จะข้ามปีแล้ว มิทราบเช่นกันว่าในสองวันนี้จะหาเมืองหลวงของพวกเขาพบหรือไม่”

“นอกจากนี้ให้กองนาวิกโยธินเตรียมการออกรบให้ดี หากพบเจอชาวฝูหล่างจี ผู้ใดที่มิยอมจำนน…จงสังหารมันเสียให้สิ้น ! ”

“รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ ! ”

ยามเย็น กองทัพเรือแห่งประเทศต้าเซี่ยก็ได้จอดเทียบท่าที่ท่าเรือแห่งนี้

คนที่ลงไปก่อนเป็นถังเชียนจวิน เขาพาทหารนาวิกโยธิน 1,000 นายรุดหน้าไปยังเรือรบสิบลำของฝูหล่างจี

ทันใดนั้นเอง ชาวฝูหล่างจีสามร้อยกว่าคนที่ทำหน้าที่เฝ้าเรือรบทั้งสิบลำนี้ ก็ได้จ้องมองไปที่เรือรบขนาดใหญ่ที่ทำให้พวกเขาเกิดความหวาดกลัวด้วยสายตาตื่นตระหนก บัดซบ ! เรือรบของดินแดนเทพทางตะวันออกมาถึงที่นี่ได้เยี่ยงไร ?

บัดนี้จะทำเยี่ยงไรดี ?

ท่านดยุกกำลังบุกโจมตีแคว้นช่างหลัว เอ่ยไว้เสียดิบดีว่าจะสร้างประเทศที่สงบสุขที่แคว้นช่างหลัว บัดนี้ยังจะสร้างประเทศอันใดได้อีกกัน

บัดนี้เกรงว่าจะมิมีแม้แต่โอกาสหนีแล้ว !

เมื่อเห็นเรือรบของทหารเกราะเงินเหล่านั้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ พวกเขายังจะสามารถทำอันใดได้อีกกัน ?

เยี่ยงไรก็สู้มิไหวหรอก พวกเขามิมีความกล้าที่จะต่อกรกับกองทัพของประเทศต้าเซี่ย เยี่ยงนั้นก็ต้องรีบยอมจำนน !

ดังนั้นในยามที่ถังเชียนจวินพาทหารจากกองนาวิกโยธินไปถึงท่าเรือแห่งนี้ ก็พบเห็นทหารฝูหล่างจียืนยกมืออย่างยอมจำนนกันถ้วนทั่ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)