นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1180

ตอนที่ 1180 ชายอ้วนชราแล้ว

“ถ้าหากเจ้าตายอยู่ข้างในนั้น แล้วผู้ใดจะมาดูแลข้ายามแก่ชราเล่า ? ”

นี่เป็นคำถามที่ฟู่เสี่ยวกวนจนปัญญาที่จะตอบ เพราะมิมีผู้ใดรู้ว่าหอเทียนจีชั้นที่สิบแปดนั้นเป็นเยี่ยงไรกันแน่

หรืออาจจะมิมีอันใดเลยก็เป็นได้ ก็แค่ร่องรอยของคนที่เคยเดินทางทะลุมิติมาเหลือทิ้งไว้ก็เท่านั้น

หรืออาจจะนำภัยพิบัติคราใหญ่มาให้ เฉกเช่นที่ฟู่เสี่ยวกวนเคยกังวลมาก่อน

“เช่นนั้นท่านก็ยิ่งต้องใช้ชีวิตให้ดีที่สุด ถ้าหากข้าปลอดภัย ข้าก็จะเลี้ยงดูท่านยามแก่ชรา ทว่าหากเกิดอันใดขึ้นกับข้า… ท่านก็จงดูแลรักษาตระกูลฟู่ไว้ให้ดี มิว่าเยี่ยงไรก็ต้องให้ลูกหลานของท่านเติบโตอย่างสงบสุข”

ชายอ้วนหมดสิ้นคำเอ่ย ข้าดูแลเจ้ามาแสนลำบากกว่าเจ้าจะเติบใหญ่ อีกครึ่งชีวิตของข้าที่เหลือ ยังต้องช่วยเจ้าดูแลลูกหลานที่เยอะเป็นโขยงอีกหรือ ?

สองพ่อลูกกินมื้อค่ำภายใต้บรรยากาศตึงเครียด ฟู่เสี่ยวกวนเรียกรวมแม่ทัพทั้งห้ากองที่ห้องพักของเขาเพื่อประชุมร่วมกันเป็นคราแรก

แผนที่ของเทือกเขาไทเออร์ที่วาดโดยสายลับของหอเทียนจีถูกกางไว้บนโต๊ะ แผนที่ถูกวาดมาอย่างหยาบ ๆ ทว่าก็มีสัญลักษณ์ของภูมิประเทศที่จำเป็นอย่างครบครัน

“หุบเขาไป๋ฮวาตั้งอยู่ตรงตำแหน่งนี้” ฟู่เสี่ยวกวนชี้นิ้วไปบนแผนที่ “ทั้งสามทิศของที่นี่เป็นภูเขาสูงใหญ่ ทางทิศเหนือเท่านั้น…มีแม่น้ำไหลจากหุบเขาไป๋ฮวาลงไปยังช่องแคบ และข้างนอกนั่นก็คือฐานที่มั่นของกองทัพศัตรู”

เขาเงยหน้าขึ้นมองกวนเสี่ยวซี “กองทัพที่หนึ่งของเจ้า จงส่งกองพันทหารช่างออกไป ซานเตาจงส่งทหารกองนาวิกโยธินออกไป 3,000 นายเพื่อคุ้มกันเหล่าทหารช่าง สิ่งที่ข้าต้องการก็คือให้ฝังทุ่นระเบิดตั้งแต่ปากทางเข้าแม่น้ำสายนี้มาจนถึงที่นี่…โดยมีระยะทางทั้งสิ้น 10 ลี้ ! ”

“มีความเป็นไปได้ว่ากองกำลังหลักของข้าศึกจะเคลื่อนทัพเลียบชายฝั่งแม่น้ำมาที่นี่ แต่อาจจะมีทหารฝีมือดีปีนผาขึ้นมาบนภูเขานี้ได้เช่นกัน ให้จุดไฟเผาเหมือนที่บิดาของข้าทำ…”

“ถ้าหากศัตรูจุดไฟเผาพวกเราทั่วทั้งสี่ทิศจริง ๆ พวกเราทั้งสี่แสนกว่าคนก็คงต้องจบเห่กันที่นี่”

“ดังนั้น…ซานเตา เจ้าต้องกำชับทหารนาวิกโยธินอีก 700 นายที่เหลือของเจ้า ให้คุ้มกันยอดเขาทั้งสามด้านให้ดี ! ห้ามเปิดโอกาสให้ศัตรูเข้ามาซุ่มโจมตีพวกเราเป็นอันขาด ! ”

“อีกอย่าง ให้กองทัพอากาศของกวนเสี่ยวซีร่วมมือกับกองพลห้ากองปีนขึ้นไปบนภูเขาในวันพรุ่งนี้ ข้าต้องการให้ทหารอากาศภายใต้บังคับบัญชาทั้งสามพันนายของเจ้าเดินทัพลงไปทางสันเขาโดยมีกองพลห้ากองคอยให้การคุ้มกัน”

“จำต้องส่งสายลับไปมากสักหน่อย ถ้าหากกองทัพของศัตรูบุกเข้ามาถึงแม่น้ำบริเวณทางเข้าหุบเขาเมื่อใด หากมีเสียงปะทะกันดังกึกก้อง… ก็ให้ทหารอากาศของเจ้าบุกเข้าโจมตีฐานทัพของศัตรูเสีย ! โดยให้ทหารทั้งห้ากองพลคอยรับผิดชอบและรักษาความปลอดภัยให้แก่พวกเขา”

“ส่วนกองทัพที่สองของเฝิงซีให้ซุ่มอยู่สองฝั่งแม่น้ำ เมื่อศัตรูเหยียบโดนระเบิดเมื่อใด พวกมันจะต้องหนีขึ้นเขาทั้งสองฝั่งเพื่อเอาตัวรอดอย่างแน่นอน จงกำจัดพวกมันให้สิ้นซาก อย่าให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียว ! ”

“ส่วนอู๋ปิ้ง เฉินป๋อ ให้กองทัพของพวกเจ้าปักหลักพักผ่อนอยู่ที่ฐานทัพ เมื่อศึกที่แม่น้ำสิ้นสุดลงเมื่อใด จงทะลุแม่น้ำออกไปรวมตัวกับกองทัพของกวนเสี่ยวซี เพื่อกำจัดศัตรูที่ยังรอดชีวิต หลังจากนั้น…จงแย่งชิงเสบียงทุกอย่างที่พวกมันมี แล้วให้ทั้งหมดเดินทางกลับมายังฐานทัพ ! ”

ฟู่เสี่ยวกวนได้วางแผนยุทธการศึกคราแรกไว้อย่างละเอียดรอบคอบ แม่ทัพทั้งห้าคนเมื่อได้รับคำสั่งแล้ว ต่างก็แยกย้ายไปปฏิบัติตามแผนการรบ

เหลือเพียงแค่ซูม่อที่ยังอยู่ในห้องของฟู่เสี่ยวกวน “แล้วกระหม่อมเล่า ? นายทหารของกระหม่อมล้วนเคยเป็นทหารดาบเทวะมาทั้งสิ้น ! ”

“พวกเจ้ามีอีกภารกิจที่ต้องทำ”

เมื่อฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยจบ เขาก็กางแผนที่อีกหนึ่งแผ่นออกมา และนั่นก็คือแผนที่ของจักรวรรดิโมริยะ

“เจ้าจงนำทหารปีนหน้าผาไปทางหลังเขาแล้วออกจากเทือกเขาไทเออร์ไปทางทิศตะวันตก หลังจากนั้น…ให้เข้าไปโจมตีทุก ๆเมืองของจักรวรรดิโมริยะ ! จงจำเอาไว้ว่าเจ้าต้องร่วมมือกับสายลับของหอเทียนจีอย่างใกล้ชิด อย่าได้ปะทะกับกำลังสำคัญของศัตรูเป็นอันขาด ! ”

“ข้าต้องการให้จักรวรรดิโมริยะเกิดความวุ่นวาย ดังนั้นพวกเจ้าต่างหากถึงจะเป็นหัวใจสำคัญของสงครามแบบกองโจรครานี้ ! ข้าต้องการจะยั่วโทสะจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมริยะ เพื่อให้เขาส่งกองทัพที่เหลืออีก 500,000 นายมาสู้รบกันในขั้นเด็ดขาดกับข้าที่นี่ ! ”

“เจ้าจงจำเอาไว้ให้ดี กฎเหล็กของสงครามแบบกองโจรก็คือศัตรูเข้าพวกเราถอย ศัตรูหยุดนิ่งพวกเราก่อกวน ศัตรูเหนื่อยล้าพวกเราต่อสู้ ศัตรูถอยร่นพวกเราโจมตี ! พวกเจ้าเป็นกองทัพที่มีความยืดหยุ่น พวกเจ้าจะต้องปฏิบัติต่อกฎเหล็กทั้งสี่ข้อนี้ มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้เจ้ามีชีวิตรอดขึ้นมาได้ ! ”

“รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ ! ” ซูม่อรับคำสั่งด้วยความตื้นเต้น ฟู่เสี่ยวกวนถึงได้เป่าปากด้วยความโล่งอก ในขณะที่สมองของเขากำลังอนุมานถึงความเปลี่ยนแปลงที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ในศึกครานี้ ชายอ้วนก็ยกทังหยวนเข้ามาหนึ่งถ้วย

“มา ๆ ๆ รีบกินตอนที่ยังร้อน ๆ เถิด”

ฟู่เสี่ยวกวนเก็บแผนที่ที่กางอยู่บนโต๊ะ จ้องมองชายอ้วนด้วยความเคลือบแคลง “ข้าจำได้ว่ายามที่อยู่เมืองหลินเจียง ท่านมิเคยเข้าครัวแม้แต่คราเดียว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)