ตอนที่ 1188 ข่าวคราว
บัดนี้ฟู่เสี่ยวกวนกำลังนำทัพมุ่งหน้าไปทางตอนเหนือของจักรวรรดิโมริยะ
อาจจะเป็นเพราะตกตะลึงกับความน่าเกรงขามของกองทัพทหารชุดเกราะสีเงิน หรืออาจจะเป็นเพราะข่าวคราวที่กองทัพโมริยะทั้งห้าแสนนายถูกทหารต้าเซี่ยกำจัดจนสิ้น ณ เทือกเขาไทเออร์ หรือจะอันใดก็ตาม…ส่งผลให้กองทัพต้าเซี่ยเคลื่อนทัพได้อย่างอึกทึกคึกโครมเป็นเวลาสิบวันโดยไร้ซึ่งการขัดขวางใด ๆ
พวกเขารู้สึกราวกับว่ากำลังเดินอยู่บนผืนปฐพีของตนเอง
แม้แต่เฮ้อซานเตาที่นำทหารนาวิกโยธิน 10,000 นายล่วงหน้ามาก่อน เมื่อพวกเขาเดินทางไปถึงแต่ละเมือง เมืองเหล่านั้นล้วนแต่ยกธงขาวยอมแพ้ตั้งแต่ยังมิทันได้รบ มิหนำซ้ำยังเปิดประตูเมืองต้อนรับอีกต่างหาก พวกเขาพล่ามภาษาที่เฮ้อซานเตามิเข้าใจออกมา ทว่าจากสีหน้าก็พอจะเดาได้ว่ากำลังขอร้องอ้อนวอน
เฮ้อซานเตายอมเชื่อฟังคำสั่งของฟู่เสี่ยวกวน เขามิได้ลงมือสังหารชาวเมืองแม้แต่คนเดียว และกองทัพของเฮ้อซานเตายังได้รับเสียงโห่ร้องยินดีจากขุนนางและชาวเมืองอีกต่างหาก !
นี่มันเรื่องบ้าอันใดกัน ?
เฮ้อซานเตารู้สึกกลัดกลุ้มใจมากยิ่งนัก ข้าเป็นผู้บุกรุกมิใช่หรือ !
ข้ายกทัพมาเพื่อตีพวกเจ้า !
พวกเจ้าต้องงัดเอาความกล้าหาญออกมาแล้วคว้าอาวุธมาต่อต้านข้าสิ !
ทว่าพวกเจ้ากลับนิ่งเฉย และขุนนางเหล่านั้นยังจัดแจงที่หลับนอนให้กับพวกตนอีกด้วย ทั้งยังขนเสบียงทั้งหมดมาส่งให้ถึงฐานทัพพร้อมกับขอร้องให้ทหารต้าเซี่ยไว้ชีวิตราษฎรของตน
ในวันนั้นเอง กองทัพใหญ่ของต้าเซี่ยได้เดินทางมาถึงเมืองคานเทียร์ เมืองที่ใหญ่ที่สุดในจักรวรรดิโมริยะ
กองทัพต้าเซี่ยได้เผชิญกับการต่อต้านคราแรกที่นั่น
มีทหารประจำการอยู่บนกำแพงเมืองคานเทียร์ที่ตั้งสูงตระหง่าน
ผู้รักษาการณ์เมืองนี้คือซันเจียอี้ชินอ๋องและทหารนับล้านนายที่เขาเกณฑ์มาภายในระยะเวลาสั้น ๆ !
เมืองคานเทียร์ตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขากานโซย่า เทือกเขาแห่งนี้เป็นดั่งหอคอยของจักรวรรดิโมริยะที่ทอดยาวจากทางใต้สู่ทางเหนือ ถ้าหากเมืองคานเทียร์ถูกยึดครอง ศัตรูก็จะเดินทางไปเมืองปาฏลีบุตรได้อย่างง่ายดาย
ดังนั้นเมื่อพระเจ้าอโศกได้รับรายงานจากสายลับว่าทหารต้าเซี่ยกำลังมุ่งหน้ามาทางเหนือ เขาจึงรีบออกคำสั่งให้ซันเจียอี้ชินอ๋องเตรียมรักษาการณ์เมืองนี้ทันที
“ข้ามิร้องขอให้ชนะศึกครานี้ เพราะพระประสงค์ขององค์จักรพรรดินั้นชัดเจนยิ่งนัก ขอเพียงแค่คุ้มกันเมืองยุทธศาสตร์แห่งนี้เอาไว้ได้ กองทัพต้าเซี่ยก็จะมิสามารถเคลื่อนทัพไปทางเหนือได้อีก ! ”
บัดนี้บรรยากาศภายในเมืองเต็มไปด้วยความตึงเครียด ซันเจียอี้ได้เรียกประชุมขุนนางขั้นสูงที่รักษาการณ์อยู่ในเมืองนี้
“เมืองคานเทียร์ของเรามีเสบียงเหลือเฟือ ส่วนพวกข้าศึก…แม้ว่าพวกมันจะยึดเสบียงมาจากเมืองอื่น ๆ ได้ ทว่ากองทัพที่มีกำลังพลมากถึง 400,000 นายย่อมต้องใช้เสบียงจำนวนมาก”
“พวกเจ้ามิต้องเป็นกังวลไป เพียงแค่คุ้มกันเมืองยุทธศาสตร์แห่งนี้ได้ถึงสี่เดือน รอให้กองทัพโมริยะของพวกเรากำจัดข้าศึกทางตะวันตกให้สิ้นซากเสียก่อน พวกเขาย่อมเข้ามาช่วยเหลือพวกเราอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นกองทัพต้าเซี่ยจะพังพินาศย่อยยับ”
“ส่วนเรื่องที่อโศลาพ่ายแพ้ เขาพ่ายแพ้เพราะเขาดูแคลนข้าศึก เขาแพ้เพราะความยโสและหยิ่งผยอง ! พวกเจ้าทุกคนจงซึมซับเรื่องนี้ไปเป็นบทเรียน ข้าศึกนั้นเดินทางมาจากอีกฟากฝั่งของภูเขาหิมะ พวกมันได้สูญเสียระเบิดจำนวนมหาศาล เมื่อคราที่ทำสงครามกับอโศลา ส่วนพวกเรานั้นมีระเบิดเหลือเฟืออยู่ในมือ ทั้งยังกำลังผลิตและส่งมามิขาดสาย”
“พวกเจ้าจงจำเอาไว้ว่า ข้าคือแม่ทัพ…ถ้าหากมีผู้ใดกล้าท้าทายอำนาจก็อย่ามาโทษปืนในมือของข้าก็แล้วกัน ! ”
“เอาล่ะ ! พวกเจ้าจงไปเตรียมการให้พร้อม ข้ามิอยากเห็นเงาของทหารต้าเซี่ยปรากฏตัวเหนือกำแพงของเรา ! ”
ในขณะเดียวกันนั้นเอง กองทัพต้าเซี่ยที่ปักหลักอยู่นอกเมืองคานเทียร์
ภายในกระโจมของฟู่เสี่ยวกวน เฮ้อซานเตารู้สึกมิพอใจ แต่ก็มิกล้าขัดขืนฟู่เสี่ยวกวน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)