ตอนที่ 1201 การเดินทางเเสนทรหด
บทสนทนาบนรถไฟในวันนั้น ถูกบันทึกไว้ในพงศาวดารในภายหลัง
นักประวัติศาสตร์รุ่นหลังต่างก็เห็นว่านี่คือสิ่งที่บ่งบอกถึงสติปัญญาที่เลิศล้ำเหนือผู้ใดของจักรพรรดิเเห่งต้าเซี่ย !
ฟู่เสี่ยวกวนจักรพรรดิเเห่งต้าเซี่ยเป็นผู้กล้าที่จะบุกเบิก ความเห็นของเขาทำให้เยี่ยนซีเหวินรู้สึกประหลาดใจมากยิ่งนัก นี่ก็คือการวางรากฐานพัฒนาต้าเซี่ยไปสู่สังคมอารยะในอนาคต
ความเห็นของฟู่เสี่ยวกวนเป็นที่ทราบโดยทั่วกันทั้งผืนปฐพีในสองสามปีให้หลัง คำเอ่ยของเขาเปรียบเสมือนเเสงสว่างที่ทะลายกรงขังจนแตกละเอียดเป็นฝุ่นผง
……
ขบวนรถไฟเคลื่อนตัวออกจากเมืองกวนหยุนไปยังเมืองฉางอัน นี่เป็นสัญลักษณ์การเริ่มต้นยุคสมัยใหม่ของต้าเซี่ย
ในขณะเดียวกันนั้นเอง คูฉานก็ได้เดินทางมาถึงภูเขาหิมะลูกยักษ์ที่เต็มไปด้วยอันตรายในที่สุด
บัดนี้พระทั้งสามรูปและม้าหนึ่งตัวกำลังนั่งพักอยู่ใต้ภูเขาหิมะพร้อมกับเงยหน้ามองภูเขาหิมะที่สูงเสียดฟ้าแล้วฉีกยิ้มกว้าง “หงฝ่า… หงย่วน… ในที่สุดพวกเราก็มาถึงสักที”
พระสงฆ์ 2 รูปที่มีอายุราว 30 ปีพนมมือขึ้นมาพลางท่องอามิตตาพุทธ พวกเขาต่างก็เงยหน้ามองภูเขาหิมะด้วยความหวาดหวั่น “ใช่ ! การเดินทางเเสนทรหดนี้กินเวลานานถึงหนึ่งปี ในที่สุดก็มาถึงสักที”
คูฉานถือคทาเเล้วส่ายศีรษะเบา ๆ “ไม่ ! การเดินทางอันเเสนทรหดกำลังจะเริ่มขึ้นต่างหาก”
หงฝ่าผงะ “ท่านหมายความว่าเยี่ยงไร ? ”
คูฉานทอดสายตามองท้องทุ่งกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา “ที่นี่…พวกเรายังมิรู้ด้วยซ้ำว่าสถานการณ์ของที่นี่เป็นเยี่ยงไร ได้ยินมาว่าการตายของเฮ้อซานเตาทำให้ฝ่าบาททรงกริ้วมากยิ่งนัก พระองค์ทรงรับสั่งให้ฆ่าล้างบางคนทั้งเมือง นี่ย่อมสร้างความพยาบาทให้แก่ชาวโมริยะมหันต์ พวกเราต้องนำพาให้พวกเขารอดพ้นจากความทุกข์และละจากความพยาบาท เพราะสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการใช้ชีวิตต่อไป นี่มิใช่เรื่องง่ายนัก”
คูฉานคาดเดาได้ตรงเผง
ตั้งแต่ที่ต้าเซี่ยสังหารหมู่ชาวเมืองปาฏลีบุตรและประหารชีวิตสมาชิกราชวงศ์ทุกคน ทำให้จักรวรรดิโมริยะสูญสิ้นผู้ปกครองประเทศ
ทุกวันนี้มีสงครามประทุขึ้นมาทุกหย่อมหญ้า พวกเขาต่างก็ใช้ความรุนแรงแก่งแย่งช่วงชิง ต่างก็มุ่งหวังที่จะขึ้นเป็นจักรพรรดิพระองค์ใหม่ของจักรวรรดิ
จักรวรรดิแห่งนี้แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ อดีตเจ้าเมืองต่าง ๆ ได้ฉกฉวยโอกาสนี้เกณฑ์กำลังพลเพื่อแผ่ขยายอาณาเขตของตน
มิมีผู้ใดหันไปสนใจความทุกข์ยากของราษฎร มิคิดแม้จะชายตามองใบหน้าของราษฎรที่อดอยาก
ราษฎรอดอยากเจียนตาย พวกเขายังจะทำอันใดได้อีกกัน ?
พวกเขาต่างก็โกรธแค้นขุ่นเคือง ราษฎรที่ใกล้จะอดตายตอบสนองอย่างจนหนทาง พวกเขาก่อตั้งทหารชาวนาขึ้นมา จากนั้นก็เข้ายึดภูเขาเเล้วตั้งตนเป็นจักรพรรดิ
พวกคูฉานมิได้รับรู้ถึงความโกลาหลที่เกิดขึ้นในขณะนี้ พวกเขาออกเดินทางอีกครา เดินทางไปข้างหน้าอย่างไร้เป้าหมาย หวังเพียงว่าจะพบหมู่บ้านสักแห่งเพื่อหยุดพักสองเท้าที่เมื่อยล้า
หลายวันต่อจากนั้นพวกเขาได้เดินผ่านหมู่บ้านหลายเเห่ง ทว่าในหมู่บ้านกลับไร้เงาของผู้คน ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตอื่นใด แม้แต่แปลงนาก็รกร้างว่างเปล่า
ฟู่เสี่ยวกวนสังหารชาวโมริยะไปเท่าใดกัน ?
คูฉานลูบคทาแล้วมุ่งหน้าต่อไป
สิบวันหลังจากนั้น เขาก็ได้เดินทางมาถึงเทือกเขาไทเออร์ ในที่สุดพวกเขาก็ได้พบชุมชนที่มีคนอาศัยอยู่สักที
พวกเขามุ่งหน้าเข้าไปในหมู่บ้าน และตรงทางเข้านั้นเอง พวกเขาได้พบกับหญิงสาวในชุดที่ขาดวิ่น
หญิงสาวผู้นี้มีอายุราวสิบเจ็ดสิบแปดปี แก้มของนางทั้งซ้ายและขวามีคราบเขม่าถ่านเปรอะเปื้อน
นางเหน็บมีดสั้นเอาไว้ที่เอว ขณะนี้นางกำลังจ้องมองพวกของคูฉานพลันยัดนิ้วเข้าปากเพื่อเป่าเสียงหวีด
จากนั้นก็มีคนกลุ่มใหญ่วิ่งกรูกันออกมาจากเรือนซ่อมซ่อที่ตั้งอยู่เบื้องหน้า พวกเขาได้เข้ามาล้อมรอบพวกคูฉาน
ราวกับว่าหญิงสาวผู้นี้เป็นหัวหน้าของคนที่นี่ นางกำลังเอ่ยบางอย่างพลางชี้นิ้วมาที่พวกของคูฉาน จากนั้นก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินออกมา เขาชักดาบและพุ่งเข้าหาร่างของคูฉานอย่างดุร้าย
“อามิตตาพุทธ…”
คูฉานชูคทาในมือขึ้นมาทันพลัน จากนั้นก็ฟาดลงไป
“เพล้ง… ! ”
ดาบของชายหนุ่มร่วงหล่นส่งเสียงดังแสบแก้วหู เขาหยุดชะงักอย่างหวาดผวาเเล้วชูมือขึ้นมา ง่ามมือของเขาถูกฟันจนฉีกขาด โลหิตสีเเดงสดกำลังไหลทะลัก
คิ้วของหญิงสาวพลันขมวดมุ่น มือเรียวของนางโบกสะบัด จากนั้นทุกคนก็กรูกันเข้ามาตะลุมบอนผู้มาเยือน
“จะสังหารหรือไม่ ? ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)