นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1229

ตอนที่ 1229 ผูกพัน

เตาผิงสองเตาในศาลาหวังชุนถูกจุดให้ความอบอุ่น

ฟู่เสี่ยวกวนนำจอบไปแขวนไว้บนผนัง หลิวจิ่นรีบนำผ้าขนหนูและอ่างน้ำมาให้ ฟู่เสี่ยวกวนล้างมือที่เปรอะเปื้อนจากนั้นก็หันไปปรารภกับจัวเปี๋ยหลีและคนอื่น ๆ

“รอนานแล้วสินะ วันนี้ข้านั่งอยู่ในห้องทรงพระอักษรครึ่งค่อนวัน รู้สึกแข็งทื่อไปทั้งร่าง เลยถือโอกาสมายืดเส้นยืดสายสักหน่อย มิได้เกี่ยวอันใดกับพวกจ้าวโฮ่วและคนอื่น ๆ หรอก มา ๆ ๆ ๆ เชิญนั่งลงก่อนเถิด”

จัวเปี๋ยหลี เยี่ยนเป่ยซีและฉินโม่เหวินพากันนั่งลงตามคำเชิญ เยี่ยนเป่ยซีหันไปมองฟู่เสียวกวนที่กำลังต้มชาแล้วเอ่ยถามอย่างขบขันว่า “เป็นอันใดไป ? เหตุใดอยู่ ๆ ถึงอยากขุดดินกัน ? ”

“ตอนที่ข้ายังอยู่ในเมืองจินหลิง ข้าจะไปขุดดินก็ต่อเมื่อข้ามีเรื่องให้กลัดกลุ้มใจเท่านั้นแหละ เพราะงานเช่นนี้มันทำให้ข้ารู้สึกผ่อนคลาย ทำให้ข้ามีสมาธิมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้ข้าได้มีเวลาใคร่ครวญถึงบางปัญหาที่ยุ่งยากซับซ้อน”

“แล้วฝ่าบาทขุดดินเพราะอันใดกัน ? ”

ฟู่เสี่ยวกวนเผยอยิ้ม “นี่เป็นคราแรกที่ข้าตั้งใจทำงานนี้ ทว่า…แท้ที่จริงในใจของข้ากำลังขบคิดถึงปัญหาบางอย่าง”

“ทุกวันนี้ต้าเซี่ยสงบสุขทั่วทุกหนแห่ง ข้ารู้สึกว่ามันชักจะน่าเบื่อเสียแล้วสิ…หลังจากนี้ข้าวางแผนจะแต่งตั้งรัชทายาท ! ”

“…” จัวเปี๋ยหลีและคนอื่น ๆ ต่างก็ผงะตกใจ เพราะฝ่าบาทกำลังอยู่ในยุครุ่งเรืองแท้ ๆ เหตุใดถึงอยากแต่งตั้งรัชทายาทขึ้นมาอย่างกะทันหันเล่า ?

ยิ่งไปกว่านั้นอู๋เทียนซื่อพระโอรสองค์ใหญ่เพิ่งมีพระชนมายุได้ 11 พรรษาเท่านั้น…นี่มันมิเร็วเกินไปหน่อยหรือ ?

“ฝ่าบาทอยากละทิ้งภาระหน้าที่แล้วหรือ ? ” เยี่ยนเป่ยซีโน้มตัวเข้าไปหาแล้วถามอย่างจริงจัง

“ข้าคิดว่าการขุดดินยังสนุกกว่าการบริหารบ้านเมืองเสียอีก และอีกอย่าง…” ฟู่เสี่ยวกวนสูดหายใจเข้าลึก “โครงสร้างอำนาจใหม่ของต้าเซี่ยได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว พวกเขาล้วนเป็นสหายที่ดีที่สุดเมื่อคราที่ข้าใช้ชีวิตอยู่ในเมืองจินหลิง พวกเขากำลังอยู่ในช่วงที่เปี่ยมไปด้วยกำลังวังชา หากมีพวกเขาคอยช่วยเหลือรัชทายาท ต้าเซี่ยย่อมแคล้วคลาดภัยพาล”

จัวเปี๋ยหลีโน้มตัวเข้าไปหาแล้วเอ่ยถามอย่างแผ่วเบาว่า “แต่องค์ชายยังเยาว์มากนัก พระองค์ควรจะให้เวลาเหล่าองค์ชายได้เจริญเติบโต รอให้พวกเขาแสดงความสามารถออกมาเสียก่อน พวกเราถึงจะเลือกองค์รัชทายาทได้ ! ”

จากอดีตถึงปัจจุบัน การเลือกองค์รัชทายาทมักจะเป็นเรื่องใหญ่หลวงของทุกราชวงศ์

มันมีผลเกี่ยวข้องต่อการสืบสันติวงศ์และยังเกี่ยวเนื่องกับอนาคตของชาติบ้านเมือง

อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการสู้รบและอำนาจต่าง ๆ ภายในพระราชวังอีกด้วย

นี่ถือเป็นเรื่องใหญ่ จำต้องจัดการอย่างระมัดระวัง ในฐานะองค์จักรพรรดิ เขาควรจะสอบถามขุนนางที่เขาไว้เนื้อเชื่อใจมากที่สุด

ทว่าเขากลับเอ่ยให้ทั้งสามฟังอย่างมิอินังขังขอบใด ๆ

มีเพียงแค่จัวเปี๋ยหลีคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกรมยุทธนาการ ส่วนเยี่ยนเป่ยซีและฉินปิ่งจงต่างก็เป็นชายชราที่เกษียณอายุแล้วทั้งสิ้น

“นี่มิใช่เรื่องซับซ้อนอันใด ข้าได้หารือกับเหล่าภรรยาตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้ว ข้าเตรียมตัวจะแต่งตั้งอู๋เทียนซื่อเป็นองค์รัชทายาท ส่วนองค์ชายที่เหลือจะออกเดินทางตามข้าไป หมายความว่าอย่างน้อย ๆ การสืบสันติวงศ์จะมิมีเรื่องแย่งชิงอำนาจเกิดขึ้น”

อู๋เทียนซื่อเยี่ยงนั้นหรือ ? !

จัวเปี๋ยหลีตกตะลึงเสียจนนิ่งค้าง เพราะอู๋หลิงเอ๋อร์คือบุตรสาวของเขา !

ในตอนนั้นเป็นเพราะอู๋หลิงเอ๋อร์ต้องแต่งงานกับฟู่เสี่ยวกวน เขาจึงรับนางมาเป็นบุตรบุญธรรม ทว่าแท้จริงแล้วอู๋หลิงเอ๋อร์เป็นบุตรสาวเเท้ ๆ ของจัวเปี๋ยหลีกับจักรพรรดินีเซียว !

ฟู่เสี่ยวกวนเรียกเขามาในครานี้ก็เพื่อแจ้งข่าวนี้ให้เขาทราบ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเขาในฐานะท่านตามีหน้าที่ปกป้องอู๋เทียนซื่อและปกป้องเขตแดนของต้าเซี่ย

“นักปราชญ์เหวินสิงโจวเอ่ยว่าเทียนซื่อมีสติปัญญาหลักแหลม ขยันไฝ่ถาม เด็กคนนี้จิตใจดีมีเมตตา ซึ่งตัวข้าเองก็เห็นเป็นประจักษ์อยู่ทุก ๆ วัน และเขายังขยันศึกษาเรียนรู้อีกด้วย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)