นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1246

สรุปบท ตอนที่ 1246 เกิดเรื่องขึ้นเเล้ว: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

ตอน ตอนที่ 1246 เกิดเรื่องขึ้นเเล้ว จาก นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 1246 เกิดเรื่องขึ้นเเล้ว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายทะลุมิติ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 1246 เกิดเรื่องขึ้นเเล้ว

เยี่ยนซีเหวินยังคงพำนักอยู่ในหมู่บ้านเซี่ยซานต่อไป

หลังจากนั้นเขาก็ได้ทำเรื่องใหญ่สะเทือนฟ้าสะเทือนดิน !

เขาสั่งให้จางฉีซานนำขบวนชายหนุ่มในเมืองหวงถางกว่าหกร้อยคนข้ามภูเขาชูหยุนไปยังอำเภอเชียนซาน

พวกเขาจัดการกับทหารที่คอยคุ้มกันโกดังท่ามกลางสายตาของฝูงชน จากนั้นชายหนุ่มทั้งหกร้อยคนก็กวาดเสบียงข้าวจนหมดเกลี้ยงโกดัง เเล้วเดินทางกลับหมู่บ้านเซี่ยซานด้วยความดีใจ

สายตาของเฉียนฉงซู่ที่หม่นหมองยิ่งนักเพราะเขาอดอยากมาสามวันสามคืนกลับมามีชีวิตชีวาอีกครา เขามั่นใจแล้วว่าคนพวกนี้จะต้องเป็นกองโจรอย่างแน่นอน เดิมทีเขาคิดว่าตนต้องจบชีวิตอยู่ที่หมู่บ้านอันเปล่าเปลี่ยวแห่งนี้ เอาล่ะ ! ตอนนี้เข้าทางเขาแล้ว เพราะเมื่อเกิดการโจรกรรมโกดังเสบียงของที่ว่าการ ข่าวนี้ย่อมเเพร่ไปถึงหูของใต้เท้าจง และใต้เท้าจงย่อมมิมีทางยอมให้ผู้ใดมาทำตัวกำเริบเสิบสานบนพื้นที่ของตนเองอย่างแน่นอน

อีกมินานนักทหารท้องถิ่นจะต้องเคลื่อนทัพมาที่นี่

ข้าก็จะถูกปล่อยให้เป็นอิสระในมิช้านี้ !

ถ้าข้าออกไปจากที่นี่ได้เมื่อใด เจ้าคนแซ่เยี่ยนนี่…ข้าจะจับเจ้าไปขังคุกแล้วสับให้ละเอียดเป็นชิ้น ๆ !

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง สายลับจากหอเทียนจีได้นำจดหมายของเยี่ยนซีเหวินส่งไปถึงพระหัตถ์ของฝ่าบาท

บัดนี้ขุนนางของฝ่ายตรวจการก็ได้เดินทางมาถึงแต่ละอำเภอ เเต่ละโจวของทั้งสองเต้าแล้วเช่นกัน

ส่วนคดีการโจรกรรมโกดังเสบียงของอำเภอเชียนซานก็ได้ไปถึงหูของจงสือจี้ในอีกสามวันให้หลัง

……

……

ณ จวนตระกูลจง ฉงโจว

ที่นี่เป็นจวนที่พักของขุนนางที่หรูหราอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บนตรอกหนานเฟิงในเมืองฉงโจว

ประตูสีแดงขนาดใหญ่สองบานมีสิงโตหยกขาวหน้าตาดุดันกำลังคุกเข่าขนาบทั้งสองข้าง ทั้งสองข้างนั้นมีนายทหาร 8 นายในชุดเกราะสีสดยืนเรียงราย

ยามอาทิตย์อัสดง รถม้าคันใหญ่ที่ขับเคลื่อนโดยม้าลากสามตัวได้เดินทางมาถึงหน้าประตูจวนแห่งนี้ ภายใต้การคุ้มกันขององค์รักษ์

จงสือจี้เดินลงมาจากรถม้าด้วยสีหน้ามืดมน เขาหันหลังไปมองเเสงอาทิตย์อัสดงพลางหรี่ตาลง จากนั้นก็เดินสองมือไขว้หลังเข้าไปในจวนแห่งนั้น

เว่ยเซียงหานภรรยาของเขากระวนกระวายเดินกลับไปกลับมาในสวนดอกไม้ของเรือนหลัก

มีข่าวคราวถูกส่งมาจากเมืองฉางอันว่าฝ่าบาทมีพระประสงค์จะดำเนินนโยบายพัฒนาชุมชน เเผนพัฒนาชุมชนนี้ถูกเอ่ยถึงมาตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ว่ากันว่าบัดนี้เริ่มดำเนินการในพื้นที่ห่างไกลของต้าเซี่ยแล้ว ทว่ากลับกันที่ฉงโจวแห่งนี้ ไม่สิ ! ทั้งสองเขตของเยวี่ยซานเต้าดูเหมือนจะมิมีการเคลื่อนไหวอันใดทั้งสิ้น

นางได้ส่งคนไปสืบข่าวที่เมืองฉางอัน จำต้องผ่านอุปสรรคมากมาย นางถึงได้รู้ว่าฝ่าบาททรงมิพอพระทัยกับทั้งสองเขตของเยวี่ยซานเต้า เกรงว่าพระองค์ประสงค์ให้มีการล้างบางขุนนางในพื้นที่ก่อนที่จะดำเนินนโยบายนี้

นางพอจะรู้ว่าสามีของนางทำวีรกรรมอันใดมาบ้าง หากมิใช่เงินที่มาจากการทุจริต เขาจะเอาเงินจากที่ใดมาซื้อเรือนหลังใหญ่ถึงเพียงนี้ และคงมิมีเงินมาซื้อสมบัติมากถึงเพียงนั้นหรอก !

ทุกวันนี้ชีวิตเต็มไปด้วยความหรูหรา และตนก็เป็นฮูหยินที่มีคนเคารพมากที่สุดในเมืองฉงโจว

ชีวิตแบบนี้ดีกว่าชีวิตในหมู่บ้านบนป่าเขาตอนนั้นมิรู้ตั้งเท่าใด

นางลืมหมู่บ้านทุรกันดารที่เคยอยู่อาศัยจนสิ้น หลงคิดว่าตนคือหงส์ทองที่โผบินออกมาจากหมู่บ้านแห่งนั้น

แต่ละวันของนางว่างจนแทบมิต้องทำอันใด นอกเสียจากเล่นไพ่นกกระจอกกับพวกฮูหยินที่หวังมาประจบประแจงเท่านั้น พวกนางมักจะแกล้งทำเป็นพ่ายแพ้ ทั้งยังรู้สึกชอบอกชอบใจที่ตนเป็นผู้แพ้

พวกนางมักจะนำผ้าไหมที่ดีที่สุด เครื่องประดับที่ดีที่สุด อีกทั้งเครื่องสำอางที่ดีที่สุดและของอื่น ๆ มาให้นางเสมอ

นางรู้สึกว่าตนเป็นเหมือนจันทราที่สุกสกาว ส่วนคนอื่น ๆ คือดวงดาวที่คอยขับนางให้เด่นสง่าขึ้นมาก็เท่านั้น

ทว่าเรื่องที่สามีเอ่ยให้ฟังเมื่อวานดูเหมือนจะมิสู้ดีเท่าใดนัก สามีถึงขึ้นส่งลูกสองคนออกไปจากฉงโจว บอกว่าได้ส่งพวกเขาไปที่อำเภอเปาเฉิง

ท่านพ่อตาและท่านแม่ยายอาศัยอยู่ในเมืองเปาเฉิง เดิมทีสามีได้รับพวกเขามาอยู่ด้วยกันที่นี่ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีปัญหาบางอย่าง สุดท้ายทั้งพ่อตาและเเม่ยายจึงจากไป ทั้งยังมิยอมกลับมาอีกเลย

สามีมิได้ชี้แจงว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น ทว่าจากการที่นางได้รวบรวมข่าวสารในช่วงนี้ ความร้อนรนกระวนกระวายก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น

เมื่อจงสือจี้เดินเข้ามาถึงเรือนหลัก เว่ยเซียงหานจึงรีบเข้าไปต้อนรับแล้วถอดชุดขุนนางของเขาออก นางต้มชาเงียบ ๆ มิกล้าปริปากเอ่ยถามอันใด ทว่าสายตากลับเต็มไปด้วยการเฝ้ารอคอย รอคอยว่าจะได้รับฟังข่าวดี

“วันนี้มีอีกข่าวหนึ่ง” จงสือจี้ยกถ้วยชาขึ้นมาพลางเป่าไล่ความร้อน “โกดังเสบียงที่อำเภอเชียนซานถูกปล้นจนเกลี้ยง หัวขโมยพวกนั้นสมควรตาย มิรู้ว่าเฉียนฉงซู่มันเป็นนายอำเภอประสาอันใดกัน ! ”

ทุกวันนี้ตนมีสมบัติเท่าใดกันนะ ?

เขามิรู้ว่าตนเองมีทรัพย์สมบัติเท่าใด เพราะว่าที่มีอยู่นั้นมันช่างมากมายมหาศาลเสียเหลือเกิน

ที่จวนของเขามีห้องใต้ดินและในนั้นดูเหมือนจะมีแท่งเงินและทองคำกองสูงพะเนิน

ต้องลงไปดูสักหน่อย ทรัพย์สมบัติมากมายถึงเพียงนั้นยังมิถูกใช้ออกไป ต้องรีบคิดหาวิธีขนย้ายสมบัติพวกนี้โดยเร็วที่สุด

จำต้องส่งทรัพย์สินพวกนี้ไปให้พี่เขยใหญ่ พี่เขยใหญ่เว่ยอู๋ปิ้งมีความสัมพันธ์อันดีกับฝ่าบาท ถ้าหากเกิดเรื่องอันใดขึ้น สามารถขอให้พี่เขยใหญ่ไปเจรจากับฝ่าบาทได้ คาดว่าคงมิน่าจะนำภัยอันใดมาสู่ตน

จากนั้นก็นำอีกส่วนหนึ่งส่งไปให้ใต้เท้าเยี่ยน เพราะเขาเป็นถึงผู้แทนพระองค์ ถ้าหากเขายอมปิดปังเรื่องนี้ มิแน่ว่าฝ่าบาทอาจจะมิทราบเรื่องนี้ก็เป็นได้

ใช่เเล้ว ! จำต้องหาตัวใต้เท้าเยี่ยนให้พบเสียก่อน !

“ผู้ใดก็ได้เข้ามาพบข้าหน่อยสิ… ! ”

พ่อบ้านคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาหาเขา “จงถ่ายทอดคำสั่งของข้าว่าให้ขุนนางแต่ละอำเภอส่งคนไปค้นหาคนต่างถิ่น บอกพวกเขาว่าเมื่อหาพบแล้วให้รีบรายงานมาโดยด่วน อย่าได้สร้างความวุ่นวายใดขึ้นมาเป็นอันขาด ! ”

“รับทราบขอรับ บ่าวจะไปจัดการประเดี๋ยวนี้ ! ”

เว่ยเซียงหานที่เดินเข้ามาพอดีจึงเอ่ยถามขึ้นมาว่า “สามี…เรื่องมันร้ายแรงถึงเพียงนั้นเชียวหรือ ? ”

อาทิตย์อัสดงลับขอบฟ้า สายลมพัดพริ้วปลิวไสว จงสือจี้ฝืนยิ้มออกมา “เกิดเรื่องขึ้นแล้ว นำชุดคลุมมาให้ข้าหน่อยสิ”

เว่ยเซียงหานหยิบเสื้อคลุมมาสวมใส่ให้จงสือจี้ จากนั้นก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ถ้าหากพวกเราเดินทางตอนนี้ทันหรือไม่ ? ”

จงสือจี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ไปที่ใดกัน ? ”

“ไปเมืองเปาเฉิง ! ”

“…ข้าขอคิดก่อน ! ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)