ตอนที่ 1247 ภาษีการเกษตร
ณ ห้องทรงพระอักษร เมืองฉางอัน
ฟู่เสี่ยวกวนนั่งสนทนาอยู่กับอู๋เทียนซื่อและอดีตเสนาบดีทั้งหลายอย่างพวกจัวอีสิง
“สถานการณ์ของเขตเยวี่ยซานเต้ารุนแรงถึงเพียงนี้เชียวหรือ ? ” จัวอี้สิงเอ่ยถามอย่างมิอยากจะเชื่อ
ช่วงนี้ในราชสำนักเกิดการเคลื่อนไหวอย่างคึกโครม ทั้งกรมคลัง กรมขุนนางและกรมราชทัณฑ์ต่างก็ส่งคนจำนวนมากไปทั้งสองเขตเยวี่ยซานเต้า และที่สำคัญคือฟู่เสี่ยวกวนส่งทหารนาวิกโยธิน 3,000 นายไปเยือนสองเขตนั่นด้วยเช่นกัน !
ตั้งแต่ที่เฮ้อซานเตาตกตายในสงครามที่จักรวรรดิโมริยะ ฟู่เสี่ยวกวนก็ได้ส่งกองนาวิกโยธินให้ไป๋ยู่เหลียนเป็นผู้ดูแล เขาก็คือแม่ทัพใหญ่เพียงหนึ่งเดียวของต้าเซี่ยในทุกวันนี้ เขามีอำนาจบัญชาการทั้งกองทัพเรือและกองทัพบก
การที่แม่ทัพใหญ่ไป๋ยู่เหลียนยกทัพทหารนาวิกโยธินติดอาวุธครบครันทั้งสามพันนายไปยังสองเขตนั่น ถือเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าสถานการณ์เลวร้ายเกินควบคุม
ฟู่เสี่ยวกวนลุกขึ้นยืน จากนั้นก็หยิบจดหมายจากเยี่ยนเป่ยซีส่งให้จัวอี้สิง สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึมมากยิ่งนัก “รุนแรงกว่าที่พวกเราจินตนาการไว้เสียอีก บัดนี้ข้ากังวลเรื่องความปลอดภัยของเยี่ยนซีเหวิน เพราะที่เยวี่ยซานเป่ยเต้ามีทหารท้องถิ่นประจำการราว 30,000 นาย และที่ฉงโจวก็มีทหารประจำการอยู่ 10,000 นาย ! ”
“แม้ทหารพวกนั้นจะมิมีปืน ทว่าเยี่ยนซีเหวินมีองค์รักษ์ข้างกายเพียงแค่สิบกว่าคนเท่านั้น ถ้าหากขุนนางพวกนั้นมันจนตรอกขึ้นมาล่ะก็… ข้าจึงสั่งให้ไป๋ยู่เหลียนรีบไปคุ้มกันเยี่ยนซีเหวินที่หมู่บ้านเซี่ยซานโดยเร็วที่สุด”
“เรื่องทหารท้องถิ่นที่ประจำการแต่ละท้องถิ่น เดิมทีมีไว้เพื่อรักษาความปลอดภัย เพื่อป้องกันและช่วยเหลือจากภัยพิบัติหรือกำจัดรังโจร ทว่าบัดนี้ดูเหมือนว่าความคิดนี้จะเป็นความคิดที่ผิดแล้วสินะ การรักษาความปลอดภัยในแต่ละโจวและแต่ละอำเภอมีเพียงเจ้าหน้าที่ก็เพียงพอแล้ว”
“การคมนาคมของต้าเซี่ยสะดวกมากขึ้นแล้ว ถ้าหากเกิดอันตรายขึ้นจริง ๆ กองทัพบกต้าเซี่ยย่อมไปถึงได้อย่างรวดเร็ว”
“ส่วนเรื่องโจร…ถ้าหากราษฎรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ก็คงมิมีโจรหลงเหลืออยู่อีก”
“ดังนั้นเรื่องนี้คงต้องมอบหมายความรับผิดชอบให้คณะรัฐมนตรีเยี่ยงพวกเจ้าลองหารือกันดู คำแนะนำของข้าก็คือให้ปลดประจำการพวกเขาเสีย ให้พวกเขาเดินทางกลับภูมิลำเนาของตนเอง แน่นอนว่าวิธีนี้ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย พวกเจ้าค่อยตัดสินใจหลังจากที่ปรึกษากันเสร็จแล้วเถิด”
“กระหม่อมน้อมรับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ ! ”
เมื่อจัวอี้สิงอ่านจดหมายฉบับนั้นเสร็จ เขาก็ส่งต่อให้หนานกงอี้ยู่ เขาขมวดคิ้วแน่นเป็นปมอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยขึ้นมาว่า “การที่เสนาบดีเยี่ยนเสนอให้มีการแต่งตั้งทหารที่ถูกปลดประจำการทั้งสองแสนนายเป็นทหารช่างนั้น… กระหม่อมเห็นว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศในตอนนี้เป็นอย่างยิ่ง”
“ภูมิประเทศของต้าเซี่ยมีความซับซ้อนยิ่งนัก แท้ที่จริงยังมีอีกหลายพื้นที่ที่มิอาจวางรางรถไฟได้ อีกทั้งยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ยังมิมีถนนสาธารณะตัดผ่านด้วยซ้ำ”
“นี่คือหนึ่งในสาเหตุของความยากจน ! คราหนึ่งฝ่าบาททรงมีพระราชดำรัสว่าหากอยากก้าวหน้าก็ต้องเริ่มจากการก่อสร้างถนนหนทางมิใช่หรือ ? ดังนั้นพวกเราควรจะใช้เวลาสิบปีแรกของแผนนโนบายพัฒนาชุมชนเชื่อมเส้นทางคมนาคมของต้าเซี่ยเข้าหากันมิดีกว่าหรือ ? ”
ฟู่เสี่ยวกวนพยักหน้า “นี่เป็นความคิดที่ดีเลยทีเดียว เรื่องนี้ให้คณะรัฐมนตรีเป็นผู้นำก็แล้วกัน ให้ปรึกษากับกรมยุทธนาการเสียก่อน จากนั้นให้ปลดประจำการทหารบกต้าเซี่ยจากแปดกองทัพให้เหลือหกกองทัพ ข้าแนะนำให้เปลี่ยนกองทัพบกที่เจ็ดของพานชู่หยางและกองทัพบกที่แปดของจ้าวเจวี๋ยเป็นกองทัพทหารช่างที่หนึ่งและสอง ! ”
ทหารของทั้งสองกองทัพนั้นมิใช่คนจากยุทธภพ แต่ก็มิได้หมายความว่าพวกเขาจะรบมิเก่ง เพียงแต่ทุกวันนี้ต้าเซี่ยมิได้ต้องการกองทัพมากถึงเพียงนั้นแล้ว
“เรื่องนี้รีบจัดการเสีย ทางกรมคลังและกรมโยธาธิการต้องรีบวางแผนสร้างถนนให้เร็วที่สุด ข้าหวังว่ากองทัพทหารช่างจะแต่งตั้งแล้วเสร็จภายในปลายปีนี้ จากนั้นให้แยกย้ายไปก่อสร้างถนนในแต่ละพื้นที่”
หนานกงอี้หยู่ส่งจดหมายคืนให้ฟู่เสี่ยวกวนพลางถอนหายใจยาวออกมา “จะว่าไปแล้วนี่ถือเป็นความเน่าเฟะที่เกิดขึ้นในสมัยของพวกเรา ลำบากพวกเสนาบดีเยี่ยนแล้วสินะ”
“ตอนนี้ให้ขนเสบียงข้าวจากเจียงหนานเต้าหรือที่อื่นไปยังสองเขตของเยวี่ยซานเต้าเสียก่อน คาดว่าน่าจะช่วยบรรเทาปัญหาความอดอยากของราษฎรไปได้ ถ้าจะให้เพาะปลูกในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็เกรงว่าจะมิทันการเสียแล้ว”
“กระหม่อมคิดว่าควรจะรีบส่งมันเทศไปโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ราษฎรเหล่านั้นได้ปลูกมันเทศเพื่อชดเชยไปก่อน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)