นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1250

ตอนที่ 1250 ติดสินบน

จงสือจี้ลุกขึ้นยืน

เขาหันไปกวักมือให้ให้องครักษ์ด้านหลัง องครักษ์สองสามคนยกหีบอันหนักอึ้งเข้ามา

“ท่านเสนาบดีเยี่ยน” จงสือจี้โค้งคำนับให้เขาหนึ่งครา “นี่เป็นน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ จากข้าน้อย การที่ท่านเสนาบดีเยี่ยนมาเยือนอำเภอเชียนซานด้วยตนเองเช่นนี้ ถือเป็นเกียรติของชาวอำเภอเชียนซานและชาวฉงโจวเป็นอย่างยิ่ง ! ”

“นำของขวัญพวกนี้…ไปวางไว้ในเพิงพักนั่นเถิด ! ”

“ท่านเสนาบดีเยี่ยน ข้าน้อยรู้ดีว่าท่านทำเพื่อราษฎร ทั้งยังเป็นต้นแบบที่ดีให้แก่ข้าน้อย ! ตอนนั้นที่เมืองจินหลิง การสอบเอินเคอรัชสมัยเซวียนลี่ที่สิบ ติ้งอันป๋อมีคำถามว่าจะบริหารบ้านเมืองเยี่ยงไร ตอนนั้นข้าน้อยตอบว่าหากต้องการบริหารบ้านเมืองก็จงเริ่มจากการจัดเก็บบ้านเรือนให้สะอาดเสียก่อน”

“เมื่อหันกลับไปมองเรื่องราวในอดีตก็พลันเด่นชัดขึ้นมาในสายตา ข้าน้อยได้รับการไว้วางพระทัยจากฝ่าบาทให้มารับตำแหน่งที่ฉงโจวในเยวี่ยซานเป่ยเต้าแห่งนี้ ข้าน้อยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเริ่มจัดเก็บฉงโจวให้เป็นดั่งเรือนของข้าเอง ทว่าตัวข้ามีความสามารถจำกัด ข้าจึงละเลยหมู่บ้านเซี่ยซานและเมืองที่มีสภาพความเป็นอยู่เยี่ยงเมืองหวงถางนี้ไป”

“ช้าก่อน ! ”

เยี่ยนซีเหวินยืนขึ้นพลางยกมือขึ้นมาขัดจงสือจี้ ทว่าสายตาของเขากลับหันไปมองชายทั้งหกคนนั้นที่กำลังหามหีบสามหีบไปยังเพิงพัก

“อย่าวางลงเชียว ยกมานี่ ! ยกมาให้ข้าดูสิว่าใต้เท้าจงมอบอันใดเป็นของขวัญให้ข้า ดูหน่อยสิว่าน้ำใจของใต้เท้าจงนั้นจริงใจมากพอหรือไม่”

ชายทั้งหกชะงักฝีเท้าลงแล้วหันไปมองจงสือจี้ทันที จงสือจี้รู้สึกหนักใจขึ้นมาทันใด เขาจึงรีบเอ่ยขึ้นมาว่า “ของเล็กน้อยแค่นี้จะพอแสดงความจริงใจได้เยี่ยงไรกันเล่า บัดนี้ฝนกำลังตก ด้านในมีแค่ผ้าไหมและเสบียงอาหารเท่านั้น หากเปิดตอนนี้…ข้าน้อยเกรงว่ามันจะเปียกปอน ไปดูข้างในเพิงพักของท่านดีกว่านะขอรับ”

ในหีบมีทองคำแท่งเหลืองอร่ามถึงเพียงนั้น จะนำมาเผยแพร่ต่อหน้าสาธารณชนได้เยี่ยงไร

ถ้าหากเยี่ยนซีเหวินยอมรับหีบสามหีบนั่น จงสือจี้ก็พอจะมั่นใจได้ครึ่งหนึ่งแล้วว่าตนซื้อใจเขาได้สำเร็จ

ทว่าเยี่ยนซีเหวินกลับบอกให้เปิดหีบต่อหน้าสาธารณชนเสียได้…การติดสินบนครานี้ดูเหมือนจะพ่ายแพ้เสียแล้ว

พ่ายแล้วสินะ ! นั่นหมายความว่าจนหนทางเข้าเสียแล้ว

เยี่ยนซีเหวินค่อย ๆ หรี่ตาลง “เช่นนั้นก็พอดีเลย ชาวบ้านต่างขาดแคลนเสบียงอาหารและเสื้อผ้า พวกเขากำลังรอสวมเสื้อผ้ารอนำข้าวสารลงหม้ออยู่พอดี”

“ท่านใต้เท้าจงมาได้ทันเวลาพอดีเลยนะ ข้าอยากจะขอบคุณจากใจเลยจริง ๆ ”

หน้าตาของเขาจริงจังขึ้นมาพร้อมแผดเสียงสั่งการ “ยกมาให้ข้า ! ”

จงสือจี้สะดุ้งตกใจพร้อมก้าวมาเบื้องหน้าหนึ่งก้าว “ช้าก่อน ! ”

“เสนาบดีเยี่ยน ที่นี่…” เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องนภาที่ค่อย ๆ ดำมืด เสียงหยาดฝนตกกระทบพื้นธรณีดังมิขาดสาย นี่ก็เดือนห้าแล้ว เหตุใดที่หมู่บ้านแห่งนี้ถึงหนาวเหน็บเพียงนี้กัน ?

“ที่นี่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง ช่างเปล่าเปลี่ยวและขมขื่นเสียจริง ข้าน้อยปรารถนาจะไปเยือนเมืองฉางอันสักครา ได้ยินพวกพ่อค้าเล่าให้ฟังถึงความเจริญรุ่งเรืองของเมืองฉางอันมาบ้าง พวกเขาต่างก็เล่าว่ารุ่งเรืองกว่าเมืองจินหลิงสมัยราชวงศ์หยูมากนัก”

หยาดฝนตกกระทบใบหน้าของจงสือจี้ เขามิได้ยกมือขึ้นมาเช็ดมันเสียด้วยซ้ำ เขาปล่อยให้หยาดฝนไหลลงไปจากใบหน้าทั้งอย่างนั้น

“บัดนี้เมืองเมืองฉางอันเริ่มเข้าสู่ต้นฤดูร้อนแล้ว เป็นช่วงที่ดอกไม้กำลังบานสะพรั่ง ทิวทัศน์กำลังสวยสดงดงาม ท่านเสนาบดีเยี่ยน ท่านมีสถานะสูงส่ง ในที่สุดความฝันที่จะเป็นเสนาบดีก็เป็นจริงเสียทีนะ”

“ท่านยังหนุ่มยังแน่นถึงเพียงนี้ ยังมีเวลาทำประโยชน์ให้กับต้าเซี่ยอีกมากมาย เหตุใดถึงต้องมาเหลียวแลเมืองหวงถางหรือหมู่บ้านเซี่ยซานนี้ด้วยเล่า ? ”

“ฉงโจวแห่งนี้มิใช่หลินเจียง และเยวี่ยซานเป่ยเต้าก็มิอาจเทียบเคียงทั้งสองเต้าของภูมิภาคเจียงหนานได้ ข้าน้อยยังคงหวังว่าจะพัฒนาที่นี่ ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อต้าเซี่ยและราษฎรต่อไป”

“ข้าน้อยได้กระทำในสิ่งที่ผิด ข้าน้อยทำให้ฝ่าบาทผิดหวัง”

เขาถอนสายตากลับมา จากนั้นก็หันไปมองเยี่ยนซีเหวินอีกครา “ตึง ! ” จงสือจี้คุกเข่าลงอีกคราท่ามกลางแอ่งน้ำที่เจิ่งนอง

“ข้าน้อยใคร่ขอโอกาสจากท่านเสนาบดีเยี่ยนอีกครา ! ”

“คราหนึ่งฝ่าบาททรงตรัสว่าคนเรามิใช่เทพเจ้าถึงจะมิเคยกระทำความผิด มีความผิดก็จงเปลี่ยนแปลงเสีย หากมิผิดก็จงพยายามต่อไป ข้าน้อยจดจำประโยคนี้ได้ดี บัดนี้ข้าน้อยได้เข้าใจร้อยพันเรื่องราวแล้ว ขอท่านเสนาบดีเยี่ยนได้โปรดเชื่อมั่นว่าข้าน้อยจะเปลี่ยนแปลงตนเองเป็นคนใหม่ ! ”

เยี่ยนซีเหวินหรี่ตามองจงสือจี้ที่กำลังคุกเข่า เขาจ้องมองอยู่เนิ่นนาน

นายอำเภอเฉียนฉงซู่ยังคงถูกจับมัดในท่านั่งคุกเข่า เขาเงยหน้าไปมองจงสือจี้ จิตใจของเขาได้สิ้นหวังไปเนิ่นนานแล้ว ชายต่างถิ่นคนนั้นเป็นถึงเสนาบดีผู้มีชื่อเสียงกระหึ่มต้าเซี่ย

มิแปลกใจเลยที่องครักษ์ของเขามีปืน

มิแปลกใจเลยที่เขากล้าส่งคนไปแย่งชิงโกดังข้าวของที่ว่าการ

ครานี้หากท่านใต้เท้าจงติดสินบนเสนาบดีเยี่ยนผู้นี้มิสำเร็จ เห็นทีจะอับจนหนทางแล้วจริง ๆ

ท่านเสนาบดีเยี่ยน ท่านจงรับไปเสียเถิด !

เมื่อท่านรับไปแล้ว เมื่อท่านตกลงทุกคนจะได้สบายใจกันเสียที !

ในขณะที่เขากำลังจ้องมองอย่างวาดหวังอยู่นั่นเอง เยี่ยนซีเหวินกลับเอ่ยออกมาอย่างเรียบเฉยว่า “เจ้าจำพระราชดำริของฝ่าบาทได้ ทว่าน่าเสียดายที่เจ้าจำมิได้ทั้งหมด”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)