นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 126

ตอนที่ 126 เรื่องราวเมื่อวันวาน

กลิ่นชาอุ่น ๆ หอมฟุ้งไปทั่วบริเวณ

ฟู่เสี่ยวกวนมองดูอาจารย์หูต้าเจียและนึกไปว่าหากมารดาเขายังมีชีวิตอยู่ คาดว่าคงอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน

อาจารย์หูก้มหน้าจัดเรียงอุปกรณ์ชงชาแล้วกล่าวว่า “รัชสมัยไท่เหอ ปีที่ 40 ในตอนนั้นแม่ของเจ้าก็อายุเพียง 15 ปีเช่นเดียวกับพวกนาง”

“ในตอนนั้นพวกข้าล้วนศึกษา ณ สำนักศึกษาจี้เซี่ย ตัวข้าเป็นเพียงคนธรรมดา แต่แม่ของเจ้าเป็นสตรีที่มีชื่อเสียงแห่งเมืองหลวง”

“วันไหว้พระจันทร์ปีนั้น งานกวีหลานถิงครึกครื้น ข้าและแม่ของเจ้าก็เดินทางไปร่วมด้วยเนื่องจากในงานนั้นจะมีชายหนุ่มผู้มีความรู้เดินทางมามากมาย สำหรับพวกข้าในสมัยนั้น ในใจเต็มไปด้วยความใฝ่ฝัน มักจินตนาการว่าสาวงามมักคู่กับชายหนุ่ม ในตอนนั้นชายหนุ่มที่มีชื่อเสียงที่สุดคือเยี่ยนซือเต้า สีฉวินเหมย ฉินจื่อโหยว อีกทั้ง…” นางหันมามองต่งชูหลาน “อีกทั้งต่งคังผิง บิดาของเจ้า”

ต่งชูหลานตกตะลึง บิดาของนางเป็นผู้มีชื่อเสียงในตอนนั้นด้วยหรือ ? เหตุใดนางจึงมิเคยรู้มาก่อน นางรู้เพียงว่าบิดาของนางวุ่นอยู่กับเรื่องราชการในทุก ๆ วัน เมื่อกลับมาก็ได้แต่นั่งดีดลูกคิด มิเคยเห็นเขาประพันธ์กวีเลย

เมื่อพบว่าต่งชูหลานมีสีหน้าประหลาดใจดังนั้น อาจารย์หูก็หัวเราะและกล่าวว่า “มิต้องสงสัยไป บิดาของเจ้ามีชื่อเสียงมากเสียจริงในตอนนั้น”

“ฉินจื่อโหยวคือผู้ใด ? ” ฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยถาม

“บุตรชายคนรองของฉินปิ่งจง เขาได้จากไปด้วยอาการเจ็บป่วยในรัชสมัยเซวียนลี่ ปีที่ 5”

เป็นเช่นนี้นี่เอง มิน่าเล่าเขาจึงไม่เคยได้ยินแม้กระทั่งชื่อเสียงเรียงนาม

“หากเป็นไปตามที่ว่ากัน แม่ของเจ้าควรจะคู่กับเยี่ยนซือเต้า เนื่องจากเขานั้นรูปงาม เยี่ยนซือเต้าในตอนนั้นรูปงามกว่าเจ้าในตอนนี้เสียอีก แน่นอนว่าเนื่องจากตระกูลเยี่ยนเป็นที่รู้จักเลื่องชื่อลือนาม สวี่เช่ากวงหรือตาของเจ้าต้องการให้หยุนชิงแต่งงานกับตระกูลเยี่ยน”

ฟู่เสี่ยวกวนรับฟังด้วยความตั้งใจ เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับมารดา บิดาของเขาไม่เคยเอ่ยอันใดให้เขาฟังเลย คาดว่าคงจะไม่อยากกล่าวถึงเนื่องจากทำให้เศร้าโศก

“รัชสมัยไท่เหอ ปีที่ 41 ฤดูใบไม้ผลิ ฟู่ต้ากวนเดินทางมาจากหลินเจียง เขามาเพื่อเข้าร่วมชุนเหวย แต่หาได้มีผู้ใดเห็นเขาในสายตา เนื่องจากเขามิมีชื่อเสียง”

ฟู่เสี่ยวกวนตกตะลึง ชายร่างท้วมผู้นั้นเคยเป็นจวี่เหรินมาก่อนงั้นหรือ ?

“เขาผู้นั้นมักมายังหงซิ่วจาวซึ่งนับว่ามีชื่อเสียงรู้จักกันไปทั่วตั้งแต่สมัยก่อน แม่ของเจ้าแต่งกวีส่วนข้าแต่งทำนอง ดึงดูดผู้คนมากมายรวมทั้งผู้มีอำนาจและปัญญาชน ฟู่ต้ากวนเป็นผู้มีจิตใจกว้างขวางและจิตใจดี เขารู้จักกับปัญญาชนมากมาย จึงทำให้แม่ของเจ้าสนใจเขาขึ้นมา”

“แน่นอนว่าแม่เจ้าเพียงมองเขาว่าเป็นชายอ้วนมีเงินทองแต่ไม่ฉลาดนัก ไม่คิดที่จะอยู่ร่วมชีวิตกับเขา”

“หลังจากนั้นก็ได้เกิดเรื่องราวมากมายขึ้น พ่อของเจ้าจึงมิได้เข้าร่วมงานชุนเหวย แต่เหตุผลหลักแล้วเพราะถูกตระกูลเยี่ยนข่มขู่ เหตุเพราะพ่อของเจ้ามาดื่มสุราที่หงซิ่วจาวและกล่าวว่าจะรักเพียงหยุนชิงผู้เดียว บัดนั้นเยี่ยนซือเต้าและคนอื่น ๆ ก็อยู่ที่นั่น เยี่ยนซือเต้าไม่พอใจอย่างยิ่งและข่มขู่ฟู่ต้ากวน แน่นอนว่าเรื่องนี้มีเพียงไม่กี่คนที่รับรู้ ข้าเองก็เพียงได้ยินเขากล่าวกัน เรื่องราวเป็นเช่นไรคงมีแต่พ่อเจ้าที่รู้”

“พ่อของเจ้าอาจเพราะเรื่องนี้จึงทำให้เขาจริงจังกับแม่เจ้ามาก สองปีนั้นหยุนชิงแทบมิได้มาหงซิ่วจาวเนื่องจากหลบหน้าเขา สองปีนั้นเกิดเรื่องอันใดขึ้น ข้าเองก็มิรู้ แต่ท้ายสุดเยี่ยนซือเต้าก็มิได้แต่งงานกับหยุนชิง และรัชสมัยไท่เหอ ปีที่ 43 ฤดูหนาว พ่อและแม่ของเจ้าก็หนีตามกันไป”

อาจารย์หูดื่มชาเข้าไปคำหนึ่งจากนั้นมองออกไปยังนอกหน้าต่าง ผ่านไปเนิ่นนานเลยทีเดียวจึงหันกลับมามองฟู่เสี่ยวกวนและกล่าวด้วยท่าทีจริงจังว่า “แท้จริงแล้ว…แต่ต้นจนจบ แม่เจ้าหาได้ชอบพ่อเจ้าไม่ ! ”

เมื่อฟู่เสี่ยวกวนได้ฟังก็รู้สึกว่ามิใช่เช่นนั้น เขาจึงแย้งขึ้นมาว่า “แต่ที่ป้ายหลุมศพท่านแม่นั้น ข้าได้อ่านแล้ว พวกเขาทั้งสองพบกันครั้งแรกที่แม่น้ำฉินหวาย จากนั้นได้พูดคุยกันที่หลานถิงจี๋ จากนั้นท่านพ่อก็ไปสู่ขอท่านแม่ แต่ตระกูลสวี่มิยินยอมจึงได้เกิดเรื่องราวที่ท่านแม่หนีตามกันมา บัดนี้ท่านพ่อยังคงรักท่านแม่สุดหัวใจ หลังจากท่านแม่จากไป เขาได้รับอนุภรรยามาเพียงคนเดียวเท่านั้น ต้องเป็นเพราะความรักที่ทั้งสองมีต่อกันเป็นแน่”

อาจารย์หูยิ้มและกล่าวว่า “บัดนี้ทุกสิ่งทุกอย่างได้เปลี่ยนไป คนเราเองก็เปลี่ยนแปลง ข้าเพียงแต่เอ่ยออกไปเท่านั้น มิได้มีความหมายอื่นใด หากต่อจากนี้เจ้ามีโอกาสเดินทางไปราชวงศ์อู่ จงไปหาภรรยาของติ้งกั๋วโหว หรือหยูหยูซึ่งเป็นท่านป้ารองขององค์หญิงเก้า แม่ของเจ้านั้นสนิทกับนาง เรื่องราวสองปีนั้นองค์หญิงทรงรู้ชัดเจน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)