ตอนที่ 1264 ฉางอันยามค่ำคืน
ข่าวคราวการส่งมอบบัลลังก์ให้องค์ชายใหญ่ได้สั่นสะเทือนทั้งเมืองฉางอันในรัชสมัยต้าเซี่ยปีที่ห้า เดือนสาม วันที่หก ยามราตรี !
มิมีผู้ใดเชื่อว่าเป็นความจริงแม้แต่คนเดียว !
นั่นเพราะฝ่าบาทยังหนุ่มยังหนุ่มยังแน่น !
ตลอดหลายปีที่พระองค์ทรงขึ้นครองบัลลังก์ พระองค์ได้นำพาต้าเซี่ยพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เอ่ยได้ว่าก้าวกระโดดจนเป็นที่จับตามอง !
ถึงขนาดที่ทุกคนได้เชื่อมั่นว่าต้าเซี่ยจะต้องเจริญก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป !
ชีวิตในวันข้างหน้าจำต้องสมบูรณ์แบบ ทว่ามิมีผู้ใดคิดถึงจุดนี้มาก่อน !
ฝ่าบาททรงมีพระพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรงดี เหตุใดพระองค์ถึงต้องสละราชบัลลังก์ด้วยเล่า ?
ฝ่าบาทส่งมอบต้าเซี่ยไว้ในมือของจักรพรรดิพระองค์ใหม่ที่มีพระชนมพรรษาเพียงแค่ 12 พรรษาเท่านั้น… แต่นั่นก็มิเป็นไรหรอกหากพระองค์ดำรงตำแหน่งจักรพรรดิพระเจ้าหลวงคอยชี้นำอยู่เบื้องหลัง
ทว่าก่อนที่งานประชุมราชสำนักจะสิ้นสุดลงยามพลบค่ำ ฝ่าบาทได้ชี้แจงแล้วว่าพระองค์จะมิดำรงตำแหน่งจักรพรรดิพระเจ้าหลวง พระองค์จะเป็นแม่ทัพนำกองทัพเรือออกสำรวจมหาสมุทร
การออกสำรวจทางไกลมันอันตรายมากมิใช่หรือ ?
นี่เป็นสาเหตุที่ฝ่าบาททรงสละราชบัลลังก์ให้อู๋เทียนซื่อใช่หรือไม่ ?
ราษฎรในเมืองฉางอันยังคงนิ่งเงียบเอ่ยอันใดมิออก เมื่อรู้ว่าฝ่าบาทจะทรงสละราชบัลลังก์ ความฝันที่จะมีชีวิตสมบูรณ์แบบของพวกเขาได้มลายหายไปกลายเป็นความรู้สึกยุ่งเหยิงทันพลัน
จักรพรรดิที่มีพระปรีชาสามารถเช่นนี้จะไปหามาจากที่ใดได้อีกกัน ?
พระองค์ทรงรอบรู้และเข้าถึงง่าย พระองค์มักจะคิดถึงราษฎรเป็นลำดับแรก พระองค์ทรงทำเพื่อต้าเซี่ยอย่างแท้จริง
แม้อู๋เทียนซื่อจะเป็นพระโอรสของพระองค์ แต่เขาก็คงมิอาจเทียบเคียงกับผู้เป็นบิดาได้ !
ในราตรีนั้นเอง แสงไฟในตรอกปู๋เย้ยังคงส่องสว่างมิยอมหลับใหล ทว่าวันนี้แทบจะมิมีแขกเหรื่อในหอนางโลมเลย
ในราตรีนั้น ร้านรวงบนถนนจูเชว่ยังคงเปิดตามปกติ ทว่ากลับไร้ซึ่งผู้คนเดินทางไปจับจ่ายใช้สอย
เมื่อชาวฉางอันนับล้านชีวิตได้ทราบข่าวนี้ ความกระหายที่จะไปหอนางโลมหรือไปเดินเล่นซื้อของก็เหือดหายไปทันพลัน
พวกเขาไปรวมตัวกันกลุ่มละสามถึงห้าคน ทำให้กิจการที่ร้านน้ำชาและร้านสุราคึกคักเป็นพิเศษ
บ้างก็ดื่มชา บ้างก็ดื่มสุราพลางสนทนาถึงเรื่องในวันวาน สนทนาถึงความสุขและความขื่นขมในวันวาน ทว่าทุกกลุ่มล้วนสนทนาถึงเรื่องขององค์จักรพรรดิ
จากหลินเจียงจนถึงจินหลิง
จากจินหลิงจนถึงเมืองกวนหยุนแห่งราชวงศ์อู๋
จากเมืองกวนหยุนลงสู่มหาสมุทรและวกกลับมายังเมืองฉางอัน
ซือหม่าเทานัดรวมพลที่หอซื่อฟาง เพียงเเต่วันนี้พวกเขามิค่อยรู้สึกอยากอาหารเท่าใดนัก อาหารยังคงวางอยู่เต็มโต๊ะมิมีผู้ใดแตะแม้แต่คนเดียว
“โบราณกล่าวไว้ว่า เมื่อเปลี่ยนเป็นจักรพรรดิพระองค์ใหม่ ขุนนางก็ย่อมเปลี่ยนใหม่เช่นกัน พวกเจ้าคิดว่าจักรพรรดิพระองค์ใหม่จะเปลี่ยนขุนนางในราชสำนักหรือไม่ ? แล้วต้าเซี่ยจะเปลี่ยนนโยบายหรือไม่ ? ” หวางซุนอู๋หยาเอ่ยถามเสียงแผ่ว
“ข้าคิดว่าคงมิมีอันใดเปลี่ยนแปลงไปหรอก” ซือหม่าเทาครุ่นคิดแล้วเอ่ยต่อว่า “พวกเจ้าลองคิดดูสิ จักรพรรดิพระองค์ใหม่ยังเยาว์วัยอยู่มิใช่หรือ”
“ดังนั้นเขาย่อมต้องการขุนนางเก่า ๆ เหล่านั้นแน่นอน”
“ส่วนการที่ฝ่าบาททรงแต่งตั้งเยี่ยนเป่ยซี หนิงหยู่ชุนและฉินโม่เหวินเข้ามาเป็นเสนาบดีทั้งสามฝ่ายนั้น ก็เป็นที่แจ่มชัดแล้วว่าพระองค์มีพระประสงค์ที่จะแต่งตั้งพวกเขามาคอยช่วยเหลือจักรพรรดิพระองค์ใหม่ เพื่อให้นโยบายของต้าเซี่ยดำเนินไปดังเดิม ! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)